ทำไม บริษัทสตาร์ตอัป มักมีอัตราการลาออกสูง

ทำไม บริษัทสตาร์ตอัป มักมีอัตราการลาออกสูง

11 พ.ค. 2021
ทำไม บริษัทสตาร์ตอัป มักมีอัตราการลาออกสูง | THE BRIEFCASE
ปัญหาของหลาย ๆ ธุรกิจสตาร์ตอัปในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นเรื่องของการ ย้ายออกของบุคลากรที่มีความสามารถ
ที่น่าสนใจคือ จากการสำรวจของ Founders Circle บริษัทเงินทุนในสหรัฐอเมริกา พบว่า
บริษัทสตาร์ตอัป โดยเฉพาะสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ที่มีมูลค่ามากกว่า 31,000 ล้านบาทขึ้นไปนั้น
มีอัตราการลาออกสูงถึง 25% ภายในระยะเวลา 1 ปี
ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในทุกอุตสาหกรรมที่ 13% ถึงเกือบ 2 เท่า
แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
ความจริงแล้ว อัตราการลาออกสูง อาจไม่ได้หมายความว่าตัวเนื้องานไม่ดีเสมอไป แต่อาจรวมถึงความต้องการส่วนบุคคลที่อยากก้าวออกไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ หรือความต้องการที่จะเติบโตมากขึ้น
เพราะสิ่งสำคัญที่สตาร์ตอัปให้ ไม่เหมือนกับที่อื่นคือ การเรียนรู้งานรอบด้านนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น
1) การมอบหมายงานที่ท้าทาย
เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ สตาร์ตอัปส่วนมากมักให้เด็กใหม่ได้ฝึกเรียนรู้หรือทดลองกับสิ่งใหม่ ๆ ที่บริษัทคิดค้นขึ้น พวกเขามักให้โอกาสพนักงานเหล่านั้นประมาณ 6 เดือน เพื่อเรียนรู้ขั้นตอนทั้งหมด
ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้พนักงานรู้จักคิดวิเคราะห์ และวางแผนรอบด้านมากขึ้น
และยังทำให้พวกเขามีความมั่นใจมากขึ้นอีกด้วย จึงอยากออกไปหาความท้าทายใหม่ ๆ จากโลกข้างนอกต่อไป
2) การสนับสนุนให้พนักงานเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ
ธุรกิจสตาร์ตอัปส่วนมาก เมื่อถึงเวลาที่องค์กรนั้นบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ พวกเขามักไม่หยุดนิ่ง และพยายามหาสิ่งใหม่ ๆ มาพัฒนาต่ออยู่เสมอ
ดังนั้น พนักงานของพวกเขาจึงต้องรู้จักพัฒนาตนเองให้เร็วขึ้นด้วย จึงจะเห็นได้ว่า บริษัทสตาร์ตอัปส่วนมากมักจะส่ง พนักงานไปเทรนหรือเข้าฝึกอบรมเพื่อหาความรู้ใหม่ ๆ และทำให้พนักงานมีสกิลติดตัวเพิ่มขึ้นอยู่เสมอ จนพวกเขากลายเป็นคนโปรไฟล์ดี และมีหลายบริษัทยื่นข้อเสนอดึงดูดใจให้เข้าไปทำงานด้วย
3) การให้ฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอ
เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีขนาดเล็ก การให้ฟีดแบ็กของหัวหน้าจึงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง และการที่บริษัทต้องเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว จึงต้องมีการให้ข้อเสนอแนะที่ตรงไปตรงมามากที่สุด เพื่อที่จะได้แก้ไขปัญหาได้ทัน
ซึ่งการทำเช่นนี้ก็จะช่วยให้พนักงาน เรียนรู้ที่จะปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดได้เร็ว และทันท่วงที
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ทำให้พนักงานของธุรกิจสตาร์ตอัปเหล่านี้ สามารถเรียนรู้อะไรได้มากมายในระยะเวลาอันสั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อมีที่ใหม่ ๆ มายื่นข้อเสนอที่ดีกว่า พวกเขาก็อาจจะตอบตกลง
อย่างไรก็ตามทางบริษัทก็สามารถป้องกันเรื่องนี้ได้ เช่น
- พยายามรักษาพนักงานที่มีคอนเน็กชันกว้างขวางกับทั้งคนในและนอกองค์กรเอาไว้ เพราะพวกเขาคือกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า และทำให้องค์กรมีความสัมพันธ์กับคนอื่น องค์กรอื่นที่หลากหลายมากขึ้น
- คอยพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรอยู่เสมอ เนื่องจากธุรกิจสตาร์ตอัปมักมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงควรสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องต่อการเติบโตนั้น เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าพนักงานยังอยากทำงานกับเราต่อไป
- ให้สวัสดิการและผลตอบแทนที่เหมาะสมกับพนักงาน เช่น พนักงานธุรกิจสตาร์ตอัปส่วนใหญ่ มักเป็นเด็กรุ่นใหม่ ยังไม่มีครอบครัว ก็ควรหาสวัสดิการที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้ เช่น เวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น
- พยายามให้อิสระกับพนักงาน ให้พวกเขาสามารถเลือกวิธีการทำงานที่เหมาะกับตนเอง เช่น สถานที่ในการทำงาน หรือการตกแต่งห้องทำงานตามความชอบ
มาถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า การที่คนลาออกส่วนใหญ่ นอกจากปัญหาด้านงานแล้ว อาจรวมถึงสิ่งอื่น ๆ ที่บริษัทมอบให้อีกด้วย
บางครั้งพนักงานอาจต้องทำงานหนัก และพัฒนาตัวเองอย่างรวดเร็ว แต่หากไม่มีปัจจัยที่อำนวยต่อการเติบโตเหล่านั้น ความพึงพอใจในการทำงานก็อาจลดลงก็เป็นได้..
References
-https://entrepreneurshandbook.co/i-keep-losing-my-best-staff-members-50b21f2856f0
-https://www.oxford-review.com/blog-how-to-prevent-brain-drain/#hr
-https://www.founderscircle.com/high-startup-turnover-rate/
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.