Time Boxing เทคนิคการบริหารเวลาที่ อีลอน มัสก์ เลือกใช้

Time Boxing เทคนิคการบริหารเวลาที่ อีลอน มัสก์ เลือกใช้

19 พ.ค. 2021
Time Boxing เทคนิคการบริหารเวลาที่ อีลอน มัสก์ เลือกใช้ | THE BRIEFCASE
ในหนึ่งวันเราสามารถทำอะไรได้บ้าง ?
บางคนอาจทำได้นับสิบอย่าง ในขณะที่บางคนอาจทำได้เพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น
แต่สำหรับ อีลอน มัสก์ ใน 1 สัปดาห์ เขาสามารถทำงานได้กว่า 80-100 ชั่วโมง
โดยใช้เวลาไปกับการออกแบบและงานด้านวิศวกรรม
ถึงแม้เขาจะใช้เวลาส่วนมากไปกับการทำงาน แต่เขาก็มักจัดสรรเวลาส่วนตัวในการทำกิจกรรมกับครอบครัว
หรือทำกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างสม่ำเสมอ
แล้วอีลอน มัสก์ ทำได้อย่างไร ?
วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปดูวิธีการบริหารเวลาที่อีลอน มัสก์ เลือกใช้กัน
ว่าเขาทำอย่างไร ทำไมถึงบริหารเวลาในแต่ละวันได้สุดโหดขนาดนี้..
โดยลักษณะการบริหารเวลาที่อีลอนเลือกใช้ นั้นมีชื่อว่า “Time Boxing” หรือ “Time Blocking”
ซึ่งความหมายของมันก็คือ การกำหนด To-Do List หรือสิ่งที่เราต้องการจะทำในแต่ละวัน
ที่สำคัญก็คือ จะต้องกำหนดระยะเวลา ของสิ่งที่ต้องการจะทำไว้ด้วย
แล้ววิธีนี้ดีอย่างไร ทำไมถึงต้องใช้วิธีนี้ ?
หลายคนอาจมองว่า การกำหนดระยะเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ เป็นการบังคับตารางเวลาชีวิตมากเกินไป
แต่รู้ไหมว่า การที่เราไม่กำหนดเวลา อาจทำให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้ช้าลง
เพราะในจิตใต้สำนึกของเราคิดเสมอว่า “เรายังมีเวลาอยู่เสมอ”
การใช้ Time Boxing จะทำให้เราเห็นว่า การทำสิ่งต่าง ๆ นั้นมีเวลาที่จำกัด..
เมื่อเราได้รับรู้ว่าเวลามีค่า ก็จะทำให้ไม่เสียเวลาไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็น
ที่สำคัญก็คือจะทำให้เรามีการโฟกัสกับสิ่งที่เรากำลังทำได้มากขึ้นอีกด้วย
แล้ว Time Boxing มีวิธีการอย่างไร ?
วิธีการก็คือ การวาดกล่องสี่เหลี่ยมลงไปในกระดาษ โดยที่เราจะเขียนกิจกรรมที่เราจะทำลงไปในกล่อง
ซึ่ง 1 กล่องจะหมายถึงระยะเวลาที่เราต้องการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของเราให้สำเร็จ อาจจะเป็นนาที หรือชั่วโมงก็ได้
ตัวอย่างเช่น
ในวันเสาร์ เราวางแผนที่จะทำกิจกรรมของเราในระยะเวลาที่เราตั้งไว้
เราจึงวาดกล่อง ตามจำนวนกิจกรรมที่เราจะทำ และกำหนดเวลาลงไป ดังนี้
กล่องที่ 1 ทำกิจวัตรยามเช้า - 1 ชั่วโมง
กล่องที่ 2 ออกกำลังกาย - 30 นาที
กล่องที่ 3 อ่านหนังสือ - 45 นาที
กล่องที่ 4 ทานข้าวกลางวัน - 15 นาที
กล่องที่ 5 ทำงานบ้าน - 1 ชั่วโมง
กล่องที่ 6 เตรียมงานลูกค้า - 1 ชั่วโมง
กล่องที่ 7 บันทึกบัญชี - 45 นาที
ทีนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแต่ละกิจกรรมต้องใช้เวลาเท่าไร ?
ซึ่งคุณ Thomas Frank ยูทูบเบอร์ชื่อดังและเป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้วิธีนี้ได้แนะนำไว้ว่า
ไม่มีใครรู้ในครั้งแรกหรอกว่ากิจกรรมที่เราจะทำต้องใช้เวลาขนาดไหน เราจึงทำได้เพียงลองกำหนดระยะเวลาโดยประมาณไปก่อน
หลังจากกำหนดระยะเวลาในการทำกิจกรรมที่เราต้องการจะทำแล้ว เมื่อถึงเวลาทำจริง ๆ ให้ลองจับเวลาดูว่าเราใช้เวลาไปเท่าไร ซึ่งทำให้ครั้งต่อไป เราจะได้รู้ระยะเวลาในการทำกิจกรรมนั้น ๆ อย่างแท้จริง
ข้อดีของการทำเช่นนี้จะทำให้เรารู้ว่า เราใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ เท่าไรบ้าง
เมื่อเราเอากระดาษที่เราเขียนกิจกรรมต่าง ๆ ลงไปในกล่องมาดู
จะทำให้เรารู้ว่ากิจกรรมอะไรที่เราใช้เวลาเยอะจนเกินไป
ซึ่งเราสามารถนำกิจกรรมที่เราใช้เวลาเยอะมาวิเคราะห์ตัวเองได้ว่า เราอาจจะทำงานช้าเกินไป
หรือกิจกรรมนั้นอาจจะมีความยากเกินไปก็เป็นได้
จุดนี้เอง จะทำให้เราสามารถวางแผนในการทำกิจกรรมนั้น ๆ ได้
และรู้ว่าครั้งต่อไปเราควรจะทำอย่างไรให้สามารถทำสิ่งนั้นได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
พร้อมทั้งยังช่วยให้เรารู้ว่า เราควรใช้เวลาไปกับกิจกรรมนั้น ๆ เท่าไรจึงจะเหมาะสม นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม หากมีงานหรือกิจกรรมด่วนเข้ามาในระหว่างที่เรากำลังทำสิ่งอื่นอยู่อย่างกะทันหัน
ก็ไม่ต้องกังวลที่จะต้องรีบเปลี่ยนแผนที่เราบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ในทันที
แต่ให้เราชั่งน้ำหนักว่าสิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่า แล้วให้เราเลือกทำในสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าก่อน
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นได้ว่า
Time Boxing จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจตัวเองได้มากขึ้นว่า ในแต่ละกิจกรรม ควรใช้เวลาเท่าไร
และอาจทำให้เราค้นพบว่า ในแต่ละวัน เราสามารถทำอะไรได้เพิ่มขึ้นอีกบ้าง
ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่าใครก็สามารถบริหารจัดเวลาได้ไม่ต่างจาก อีลอน มัสก์ นั่นเอง..
References
-https://www.inc.com/peter-economy/elon-musk-says-time-management-does-not-matter-but-this-1-thing-does-big-time.html
-https://www.youtube.com/watch?v=fbAYK4KQrso
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.