รู้จัก “Hygge” แนวคิดที่จะทำให้ระหว่างวัน เต็มไปด้วยความสุข
21 พ.ค. 2021
รู้จัก “Hygge” แนวคิดที่จะทำให้ระหว่างวัน เต็มไปด้วยความสุข | THE BRIEFCASE
ในวันที่เรางานยุ่งมาก ๆ เราคงจะรู้สึกว่า ทำไมเราไม่มีเวลาสร้างความสุขให้กับตัวเองเลย ?
ทำไมความสุข ดูเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาได้ยากจัง ?
แต่ถ้าเราลองอ่านแนวคิด “Hygge” เราอาจจะมองเห็นการสร้างความสุขแบบง่าย ๆ
ในรูปแบบที่เรามองข้ามมาตลอดเลยก็เป็นได้
แนวคิด Hygge คืออะไร แล้วจะมาเป็นกุญแจไปสู่ประตูความสุขให้กับเราได้อย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง..
“Hygge” อ่านว่า “ฮุกกะ” ซึ่งเป็นภาษาเดนมาร์ก หมายถึง Coziness ที่แปลว่า ความสุขสงบ ความเป็นอยู่ที่ดี หรือความสบาย ๆ แบบที่ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมาย
หรือถ้าให้เห็นภาพความเป็น Hygge ขึ้นอีกนิด
เวลาที่เราเห็นลูกสุนัขตัวน้อยนอนหลับปุ๋ยเรียงกันสามตัว เรารู้สึกอย่างไร ?
หากเราเกิดความรู้สึกในทางบวก นั่นแหละ คือหัวใจหลักของแนวคิดนี้ ซึ่งมันอาจจะสื่อสารผ่านการพูดออกมาได้ยาก เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องรู้สึก..
เพราะ Hygge จะมุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตแบบที่หาความสุขจาก “สิ่งรอบตัว”
ซึ่งจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่ตื่นนอน การรับประทานอาหาร ไปจนถึงการนอนอีกครั้ง
และเป็นหลักคิดสำคัญที่ฝังรากลึกไปกับวิถีชีวิตและวิธีคิดของชาวเดนมาร์ก
และนี่คือตัวอย่างการสร้างความสุขเล็ก ๆ ในแบบฉบับของชาวเดนมาร์ก
- จุดเทียนตอนรับประทานอาหารค่ำ
ชาวเดนมาร์กมักจะจุดเทียนที่โต๊ะอาหาร เพราะทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารนั้นดีขึ้น
โดยผู้ที่นั่งอยู่บนโต๊ะจะเกิดความรู้สึกที่ว่า รสชาติอาหารและบทสนทนานั้นดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะเมื่อตาเรามีการมองเห็นที่ลดลง ประสาทการรับรสและรับกลิ่นก็จะโดดเด่นขึ้นมา
และผู้คนก็จะใช้เวลาบนโต๊ะอาหารยาวนานขึ้นกว่า 20 นาที
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน ซึ่งเป็นการสร้างความอบอุ่นท่ามกลางความหนาวของเมืองได้ดี
- นำผ้าห่มนุ่ม ๆ มาไว้ในห้อง
การที่เรามีผ้าห่มผืนใหญ่ จะช่วยให้เราเกิดความผ่อนคลาย เพิ่มความอบอุ่น
ซึ่งการที่เราได้นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ก็ถือเป็นการสร้างความสุขได้ง่าย ๆ เช่นกัน
และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ห่มผ้าอยู่ แต่การมองเห็นผ้านวมผืนใหญ่ ๆ ก็สร้างความผ่อนคลายให้กับเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ
- ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ จากแก้วน้ำที่เราชอบ
การหาเวลาสัก 10-20 นาที นั่งจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ จะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้เช่นกัน
หากต้องการยึดตามหลักแบบ Hygge เราจะต้องคิดว่ากิจกรรมนี้คือพิธีกรรมสำคัญ
ที่เราต้องทำให้ได้ทุกวัน เพราะมันจะสร้างกิจวัตรแห่งความสบายใจให้กับเรา
ทั้งหมดนี้ คือตัวอย่างการสร้างความสุขเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำได้ระหว่างวัน ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่เราสามารถสอดแทรกความรู้สึก Hygge เข้าไปได้
แต่ถ้าหากวันนี้เราทำไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งโทษหรือกดดันตัวเอง
ให้เริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะการบังคับให้ตัวเองมีความสุข มันก็จะเป็นความทุกข์ได้เหมือนกัน
ถ้าถามว่าการใช้หลัก Hygge มันส่งผลต่อคนที่ยึดแนวคิดนี้มากแค่ไหน ?
แม้เราอาจจะตอบแบบฟันธง 100% ไม่ได้ แต่ในวันนี้ World Happiness Report 2021 ได้จัดอันดับให้ เดนมาร์ก เป็นเมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นอันดับ 2 ไปแล้ว..
References
-https://www.msn.com/en-gb/health/mindandbody/how-hygge-will-help-you-survive-lockdown-and-no-it-s-not-just-about-candles-and-blankets/ar-BB1aNQNz
-https://www.nationalgeographic.com/travel/article/danish-hygge-coziness-happiest-country
-https://th.wikipedia.org/wiki/ฮึกเกอ
-https://www.countryliving.com/life/a41187/what-is-hygge-things-to-know-about-the-danish-lifestyle-trend/
ในวันที่เรางานยุ่งมาก ๆ เราคงจะรู้สึกว่า ทำไมเราไม่มีเวลาสร้างความสุขให้กับตัวเองเลย ?
ทำไมความสุข ดูเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาได้ยากจัง ?
แต่ถ้าเราลองอ่านแนวคิด “Hygge” เราอาจจะมองเห็นการสร้างความสุขแบบง่าย ๆ
ในรูปแบบที่เรามองข้ามมาตลอดเลยก็เป็นได้
แนวคิด Hygge คืออะไร แล้วจะมาเป็นกุญแจไปสู่ประตูความสุขให้กับเราได้อย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง..
“Hygge” อ่านว่า “ฮุกกะ” ซึ่งเป็นภาษาเดนมาร์ก หมายถึง Coziness ที่แปลว่า ความสุขสงบ ความเป็นอยู่ที่ดี หรือความสบาย ๆ แบบที่ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมาย
หรือถ้าให้เห็นภาพความเป็น Hygge ขึ้นอีกนิด
เวลาที่เราเห็นลูกสุนัขตัวน้อยนอนหลับปุ๋ยเรียงกันสามตัว เรารู้สึกอย่างไร ?
หากเราเกิดความรู้สึกในทางบวก นั่นแหละ คือหัวใจหลักของแนวคิดนี้ ซึ่งมันอาจจะสื่อสารผ่านการพูดออกมาได้ยาก เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องรู้สึก..
เพราะ Hygge จะมุ่งเน้นไปที่การใช้ชีวิตแบบที่หาความสุขจาก “สิ่งรอบตัว”
ซึ่งจะเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่ตื่นนอน การรับประทานอาหาร ไปจนถึงการนอนอีกครั้ง
และเป็นหลักคิดสำคัญที่ฝังรากลึกไปกับวิถีชีวิตและวิธีคิดของชาวเดนมาร์ก
และนี่คือตัวอย่างการสร้างความสุขเล็ก ๆ ในแบบฉบับของชาวเดนมาร์ก
- จุดเทียนตอนรับประทานอาหารค่ำ
ชาวเดนมาร์กมักจะจุดเทียนที่โต๊ะอาหาร เพราะทำให้บรรยากาศการรับประทานอาหารนั้นดีขึ้น
โดยผู้ที่นั่งอยู่บนโต๊ะจะเกิดความรู้สึกที่ว่า รสชาติอาหารและบทสนทนานั้นดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะเมื่อตาเรามีการมองเห็นที่ลดลง ประสาทการรับรสและรับกลิ่นก็จะโดดเด่นขึ้นมา
และผู้คนก็จะใช้เวลาบนโต๊ะอาหารยาวนานขึ้นกว่า 20 นาที
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกัน ซึ่งเป็นการสร้างความอบอุ่นท่ามกลางความหนาวของเมืองได้ดี
- นำผ้าห่มนุ่ม ๆ มาไว้ในห้อง
การที่เรามีผ้าห่มผืนใหญ่ จะช่วยให้เราเกิดความผ่อนคลาย เพิ่มความอบอุ่น
ซึ่งการที่เราได้นอนขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ก็ถือเป็นการสร้างความสุขได้ง่าย ๆ เช่นกัน
และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ห่มผ้าอยู่ แต่การมองเห็นผ้านวมผืนใหญ่ ๆ ก็สร้างความผ่อนคลายให้กับเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ
- ดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ จากแก้วน้ำที่เราชอบ
การหาเวลาสัก 10-20 นาที นั่งจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ จะช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งร่างกายและจิตใจ ได้เช่นกัน
หากต้องการยึดตามหลักแบบ Hygge เราจะต้องคิดว่ากิจกรรมนี้คือพิธีกรรมสำคัญ
ที่เราต้องทำให้ได้ทุกวัน เพราะมันจะสร้างกิจวัตรแห่งความสบายใจให้กับเรา
ทั้งหมดนี้ คือตัวอย่างการสร้างความสุขเล็ก ๆ ที่เราสามารถทำได้ระหว่างวัน ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่เราสามารถสอดแทรกความรู้สึก Hygge เข้าไปได้
แต่ถ้าหากวันนี้เราทำไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งโทษหรือกดดันตัวเอง
ให้เริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพราะการบังคับให้ตัวเองมีความสุข มันก็จะเป็นความทุกข์ได้เหมือนกัน
ถ้าถามว่าการใช้หลัก Hygge มันส่งผลต่อคนที่ยึดแนวคิดนี้มากแค่ไหน ?
แม้เราอาจจะตอบแบบฟันธง 100% ไม่ได้ แต่ในวันนี้ World Happiness Report 2021 ได้จัดอันดับให้ เดนมาร์ก เป็นเมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นอันดับ 2 ไปแล้ว..
References
-https://www.msn.com/en-gb/health/mindandbody/how-hygge-will-help-you-survive-lockdown-and-no-it-s-not-just-about-candles-and-blankets/ar-BB1aNQNz
-https://www.nationalgeographic.com/travel/article/danish-hygge-coziness-happiest-country
-https://th.wikipedia.org/wiki/ฮึกเกอ
-https://www.countryliving.com/life/a41187/what-is-hygge-things-to-know-about-the-danish-lifestyle-trend/