6 สิ่งที่ทำตอนเช้า เป็นประจำทุกวันแค่ 6 นาที แล้วชีวิตจะดีขึ้น
14 มิ.ย. 2021
6 สิ่งที่ทำตอนเช้า เป็นประจำทุกวันแค่ 6 นาที แล้วชีวิตจะดีขึ้น | THE BRIEFCASE
เราทุกคนต่างต้องการที่จะมีความสุข ขณะเดียวกัน เราเองก็รู้ดีว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุขได้ แต่เราไม่ได้ลงมือทำมันสักที ทำไมน่ะหรือ ?
ก็เพราะว่าเราต่างพูดว่า “ยุ่ง” และ “ไม่มีเวลา”
คำว่า ยุ่งหรือไม่มีเวลา จึงเป็นเหมือนข้ออ้าง ที่ทำให้เรา ไม่ไปถึงเป้าหมายของตัวเองสักที
โดยเป้าหมายที่ว่านี้ ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละคน บางคนมีเป้าหมายอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงหรือหุ่นดี บางคนมีเป้าหมายอยากประสบความสำเร็จในด้านการงาน และบางคนก็อยากมีอิสรภาพทางด้านการเงิน
แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยทำให้เป้าหมายเหล่านี้เป็นจริง ?
หนึ่งในนั้นคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “การพัฒนาตัวเอง”
แล้วการพัฒนาตัวเอง ควรเริ่มทำเมื่อไร ตอนไหน และควรทำนานแค่ไหนต่อวัน
ในหนังสือ Miracle Morning เคล็ด (ไม่) ลับ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้ (ก่อน 8 โมงเช้า) ได้สรุปหลักปฏิบัติ 6 ข้อ ไว้สำหรับใช้พัฒนาตัวเอง
โดยเป็นหลักปฏิบัติที่ทุกคนสามารถทำได้ และไม่ได้ใช้เวลามากจนเกินไป เพราะใช้เพียงแค่ 6 นาทีต่อวันเท่านั้น
และเวลาเพียงไม่กี่นาทีนี้เอง จะทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่เราใฝ่ฝัน และสร้างระดับความสำเร็จ ตามที่เราต้องการในชีวิตได้
ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดของหลักปฏิบัติแต่ละข้อ เรามาทำความรู้จักผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กันก่อน
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ คือ ฮัล เอลรอด
ชายหนุ่มผู้ได้รับอุบัติเหตุและเสียชีวิตนานถึง 6 นาที กระดูกหัก 11 แห่ง รวมถึงสมองได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แต่ในที่สุดเขาก็ได้ค้นพบหลักปฏิบัติ 6 ข้อ ชื่อว่า “The Life S.A.V.E.R.S.” ซึ่งทำให้ชีวิตของเขา เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จากคนที่เจออุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต ร่างกายมีความบกพร่อง แต่เพียงไม่นาน เขาได้กลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในองค์กร, เป็นนักวิ่งอัลตรามาราธอน, นักเขียนหนังสือขายดี, ศิลปินเพลงสไตล์ฮิปฮอป และนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในระดับนานาชาติ
ความสำเร็จดังกล่าวที่ เอลรอด ได้มา ไม่ได้มาจากโชคช่วยหรือเส้นสายใด ๆ แต่มาจาก หลักปฏิบัติ 6 ข้อ ที่แต่ละข้อประกอบไปด้วย องค์ประกอบเล็ก ๆ ที่เมื่อรวมกันแล้ว เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูด ให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้เร็วที่สุดนั่นเอง
โดยหลักการ The Life S.A.V.E.R.S. ประกอบไปด้วย
1) ความสงบนิ่ง (Silence)
2) คำปฏิญาณ (Affirmation)
3) จินตนาการ (Visualisation)
4) ออกกำลังกาย (Exercise)
5) การอ่าน (Reading)
6) การเขียนบันทึก (Scribing)
หลักการทั้ง 6 ข้อ แสดงให้เราเห็นภาพรวมคร่าว ๆ ว่า การพัฒนาตัวเอง ควรมีสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบ
และเมื่อนำหลักปฏิบัติทั้งหมดนี้ มาลงมือทำจริง ก็สามารถทำได้เลยทันที
โดยในแต่ละวัน สามารถเริ่มต้นจากวันละ 6 นาที เป็นอย่างน้อย ในตอนเช้าหลังตื่นนอน
จากนั้นค่อย ๆ ขยับเพิ่มขึ้นเป็นวันละหนึ่งชั่วโมง ทำต่อเนื่องกันไป จนครบ 30 วัน
เหตุผลที่ควรเริ่มทำในตอนเช้าหลังตื่นนอน ก็เพราะว่า เราจะไม่มีข้ออ้าง ในการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ หากเราเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันนั่นเอง
ดังนั้น การเริ่มต้นหลังตื่นนอน จึงเป็นช่วงเวลาในการออกแบบการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด
ก่อนอื่นให้คุณจินตนาการว่า ช่วงเวลา 6 นาที ในทุก ๆ เช้า หลังจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะเป็นเช่นนี้
- นาทีที่ 1 สงบนิ่ง
คุณกำลังตื่นนอนขึ้นมาอย่างมีความสุขในตอนเช้า หาวนอนให้เต็มที่ และบิดตัวไปมา จากนั้นให้นั่งนิ่ง ๆ หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ช้า ๆ หรือใครอยากนั่งสมาธิก็สามารถทำได้
เมื่อร่างกายและจิตใจอยู่ในความสงบ คุณจะสัมผัสได้ถึงช่วงเวลา ณ ขณะนั้น
หลังจากนั้นให้ปลดปล่อยความเครียดในใจ ให้หายไปอย่างช้า ๆ และคุณจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสงบสุข จุดมุ่งหมาย และสิ่งที่ควรทำต่อไปได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
- นาทีที่ 2 คำปฏิญาณ
จากนั้นหยิบคำปฏิญาณที่คุณอยากให้ตัวเองทำสำเร็จในแต่ละวันออกมา อ่านออกเสียงดัง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ตัวเองได้ยิน
การที่คุณใส่ใจต่อคำปฏิญาณ จะทำให้จิตใจได้รับแรงกระตุ้นจากภายในมากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการอ่านข้อความยังเป็นการช่วยย้ำเตือนให้คุณ นึกถึงศักยภาพภายในที่ตัวคุณเองมีอยู่ และมีความมั่นใจในตนเองเพิ่มมากขึ้น
- นาทีที่ 3 จินตนาการ
ให้ปิดตา หรือมองไปยังกระดานที่คุณเขียนวิสัยทัศน์ของชีวิตคุณ ที่คุณทำไว้ และจินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้น
การสร้างภาพจินตนาการ จะช่วยสรุปสิ่งที่จะเกิดขึ้นและความรู้สึกเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว เมื่อคุณมองภาพวันเวลาที่จะเกิดขึ้น ได้เห็นตัวเองกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ทำ หรือกำลังยิ้มและหัวเราะกับคนในครอบครัวหรือคนสำคัญ ความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้จะเป็นพลังบวก ที่ช่วยให้เรามีกำลังในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- นาทีที่ 4 การเขียนบันทึก
ใช้เวลาในการเขียนขอบคุณสิ่งต่าง ๆ สิ่งที่ภาคภูมิใจ หรือผลลัพธ์ของสิ่งที่คุณตั้งใจจะลงมือทำในวันนั้น
การทำเช่นนี้ เป็นการสร้างสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่ง เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และความมุ่งมั่นให้กับตัวคุณ
เอง
- นาทีที่ 5 การอ่าน
หยิบหนังสือมาอ่านสัก 1-2 หน้า ในหนึ่งนาทีนี้ คุณจะได้มีแนวคิดใหม่ ๆ ในการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในชีวิตการทำงานหรือด้านความสัมพันธ์
- นาทีที่ 6 ออกกำลังกาย
ให้คุณลุกขึ้นยืนและขยับร่างกาย เพื่อสร้างพลังงาน ความตื่นตัวให้กับร่างกาย
โดยอาจจะเป็นการวิ่ง, กระโดดตบ, วิดพื้น หรือซิตอัปก็ได้
การเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อเพิ่มระดับการตื่นตัว จะทำให้คุณมีสมาธิพร้อมจะลุยกับภารกิจที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน
หลักปฏิบัติทั้ง 6 ข้อนี้ เป็นเพียงทางเลือกในการพัฒนาตัวเอง ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 6 นาทีต่อวัน ในตอนเช้าที่ยุ่งเหยิงของคุณ
จริง ๆ แล้ว ทุกคนรู้ว่าการพัฒนาตัวเอง ทำให้เราไปถึงจุดหมาย
ดังนั้น ใครที่กล้าหาญพอ ที่จะนำหลักปฏิบัติทั้ง 6 ข้อนี้ ไปเริ่มทำตั้งแต่พรุ่งนี้เช้า ก็จะวัดได้เบื้องต้นแล้วว่า คุณเข้าใกล้ความฝันของตัวเองได้อีกหนึ่งสเตปแล้ว
ปิดท้ายด้วยคำคมของ อริสโตเติล ที่เคยพูดไว้ว่า
“เราคือผลลัพธ์ ของสิ่งที่เราทำเป็นประจำ ซ้ำ ๆ ทุกวัน” ..
References
-หนังสือ Miracle Morning เคล็ด (ไม่) ลับ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้ (ก่อน 8 โมงเช้า)
-https://bit.ly/3cehPrd
-https://bit.ly/3phoXZ2
เราทุกคนต่างต้องการที่จะมีความสุข ขณะเดียวกัน เราเองก็รู้ดีว่าอะไรที่ทำให้เรามีความสุขได้ แต่เราไม่ได้ลงมือทำมันสักที ทำไมน่ะหรือ ?
ก็เพราะว่าเราต่างพูดว่า “ยุ่ง” และ “ไม่มีเวลา”
คำว่า ยุ่งหรือไม่มีเวลา จึงเป็นเหมือนข้ออ้าง ที่ทำให้เรา ไม่ไปถึงเป้าหมายของตัวเองสักที
โดยเป้าหมายที่ว่านี้ ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละคน บางคนมีเป้าหมายอยากมีสุขภาพที่แข็งแรงหรือหุ่นดี บางคนมีเป้าหมายอยากประสบความสำเร็จในด้านการงาน และบางคนก็อยากมีอิสรภาพทางด้านการเงิน
แล้วอะไรคือปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยทำให้เป้าหมายเหล่านี้เป็นจริง ?
หนึ่งในนั้นคงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “การพัฒนาตัวเอง”
แล้วการพัฒนาตัวเอง ควรเริ่มทำเมื่อไร ตอนไหน และควรทำนานแค่ไหนต่อวัน
ในหนังสือ Miracle Morning เคล็ด (ไม่) ลับ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้ (ก่อน 8 โมงเช้า) ได้สรุปหลักปฏิบัติ 6 ข้อ ไว้สำหรับใช้พัฒนาตัวเอง
โดยเป็นหลักปฏิบัติที่ทุกคนสามารถทำได้ และไม่ได้ใช้เวลามากจนเกินไป เพราะใช้เพียงแค่ 6 นาทีต่อวันเท่านั้น
และเวลาเพียงไม่กี่นาทีนี้เอง จะทำให้เรากลายเป็นบุคคลที่เราใฝ่ฝัน และสร้างระดับความสำเร็จ ตามที่เราต้องการในชีวิตได้
ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดของหลักปฏิบัติแต่ละข้อ เรามาทำความรู้จักผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กันก่อน
ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ คือ ฮัล เอลรอด
ชายหนุ่มผู้ได้รับอุบัติเหตุและเสียชีวิตนานถึง 6 นาที กระดูกหัก 11 แห่ง รวมถึงสมองได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แต่ในที่สุดเขาก็ได้ค้นพบหลักปฏิบัติ 6 ข้อ ชื่อว่า “The Life S.A.V.E.R.S.” ซึ่งทำให้ชีวิตของเขา เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
จากคนที่เจออุปสรรคครั้งใหญ่ในชีวิต ร่างกายมีความบกพร่อง แต่เพียงไม่นาน เขาได้กลายเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในองค์กร, เป็นนักวิ่งอัลตรามาราธอน, นักเขียนหนังสือขายดี, ศิลปินเพลงสไตล์ฮิปฮอป และนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในระดับนานาชาติ
ความสำเร็จดังกล่าวที่ เอลรอด ได้มา ไม่ได้มาจากโชคช่วยหรือเส้นสายใด ๆ แต่มาจาก หลักปฏิบัติ 6 ข้อ ที่แต่ละข้อประกอบไปด้วย องค์ประกอบเล็ก ๆ ที่เมื่อรวมกันแล้ว เปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูด ให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้เร็วที่สุดนั่นเอง
โดยหลักการ The Life S.A.V.E.R.S. ประกอบไปด้วย
1) ความสงบนิ่ง (Silence)
2) คำปฏิญาณ (Affirmation)
3) จินตนาการ (Visualisation)
4) ออกกำลังกาย (Exercise)
5) การอ่าน (Reading)
6) การเขียนบันทึก (Scribing)
หลักการทั้ง 6 ข้อ แสดงให้เราเห็นภาพรวมคร่าว ๆ ว่า การพัฒนาตัวเอง ควรมีสิ่งเหล่านี้เป็นองค์ประกอบ
และเมื่อนำหลักปฏิบัติทั้งหมดนี้ มาลงมือทำจริง ก็สามารถทำได้เลยทันที
โดยในแต่ละวัน สามารถเริ่มต้นจากวันละ 6 นาที เป็นอย่างน้อย ในตอนเช้าหลังตื่นนอน
จากนั้นค่อย ๆ ขยับเพิ่มขึ้นเป็นวันละหนึ่งชั่วโมง ทำต่อเนื่องกันไป จนครบ 30 วัน
เหตุผลที่ควรเริ่มทำในตอนเช้าหลังตื่นนอน ก็เพราะว่า เราจะไม่มีข้ออ้าง ในการผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ๆ หากเราเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันนั่นเอง
ดังนั้น การเริ่มต้นหลังตื่นนอน จึงเป็นช่วงเวลาในการออกแบบการพัฒนาตัวเองที่ดีที่สุด
ก่อนอื่นให้คุณจินตนาการว่า ช่วงเวลา 6 นาที ในทุก ๆ เช้า หลังจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป จะเป็นเช่นนี้
- นาทีที่ 1 สงบนิ่ง
คุณกำลังตื่นนอนขึ้นมาอย่างมีความสุขในตอนเช้า หาวนอนให้เต็มที่ และบิดตัวไปมา จากนั้นให้นั่งนิ่ง ๆ หายใจเข้า-ออกลึก ๆ ช้า ๆ หรือใครอยากนั่งสมาธิก็สามารถทำได้
เมื่อร่างกายและจิตใจอยู่ในความสงบ คุณจะสัมผัสได้ถึงช่วงเวลา ณ ขณะนั้น
หลังจากนั้นให้ปลดปล่อยความเครียดในใจ ให้หายไปอย่างช้า ๆ และคุณจะเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสงบสุข จุดมุ่งหมาย และสิ่งที่ควรทำต่อไปได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
- นาทีที่ 2 คำปฏิญาณ
จากนั้นหยิบคำปฏิญาณที่คุณอยากให้ตัวเองทำสำเร็จในแต่ละวันออกมา อ่านออกเสียงดัง ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ตัวเองได้ยิน
การที่คุณใส่ใจต่อคำปฏิญาณ จะทำให้จิตใจได้รับแรงกระตุ้นจากภายในมากขึ้นตามไปด้วย อีกทั้งการอ่านข้อความยังเป็นการช่วยย้ำเตือนให้คุณ นึกถึงศักยภาพภายในที่ตัวคุณเองมีอยู่ และมีความมั่นใจในตนเองเพิ่มมากขึ้น
- นาทีที่ 3 จินตนาการ
ให้ปิดตา หรือมองไปยังกระดานที่คุณเขียนวิสัยทัศน์ของชีวิตคุณ ที่คุณทำไว้ และจินตนาการถึงสิ่งเหล่านั้น
การสร้างภาพจินตนาการ จะช่วยสรุปสิ่งที่จะเกิดขึ้นและความรู้สึกเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้ว เมื่อคุณมองภาพวันเวลาที่จะเกิดขึ้น ได้เห็นตัวเองกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ทำ หรือกำลังยิ้มและหัวเราะกับคนในครอบครัวหรือคนสำคัญ ความรู้สึกดี ๆ เหล่านี้จะเป็นพลังบวก ที่ช่วยให้เรามีกำลังในการทำสิ่งต่าง ๆ ให้บรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
- นาทีที่ 4 การเขียนบันทึก
ใช้เวลาในการเขียนขอบคุณสิ่งต่าง ๆ สิ่งที่ภาคภูมิใจ หรือผลลัพธ์ของสิ่งที่คุณตั้งใจจะลงมือทำในวันนั้น
การทำเช่นนี้ เป็นการสร้างสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่ง เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ และความมุ่งมั่นให้กับตัวคุณ
เอง
- นาทีที่ 5 การอ่าน
หยิบหนังสือมาอ่านสัก 1-2 หน้า ในหนึ่งนาทีนี้ คุณจะได้มีแนวคิดใหม่ ๆ ในการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ในชีวิตการทำงานหรือด้านความสัมพันธ์
- นาทีที่ 6 ออกกำลังกาย
ให้คุณลุกขึ้นยืนและขยับร่างกาย เพื่อสร้างพลังงาน ความตื่นตัวให้กับร่างกาย
โดยอาจจะเป็นการวิ่ง, กระโดดตบ, วิดพื้น หรือซิตอัปก็ได้
การเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อเพิ่มระดับการตื่นตัว จะทำให้คุณมีสมาธิพร้อมจะลุยกับภารกิจที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน
หลักปฏิบัติทั้ง 6 ข้อนี้ เป็นเพียงทางเลือกในการพัฒนาตัวเอง ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มต้นเพียงแค่ 6 นาทีต่อวัน ในตอนเช้าที่ยุ่งเหยิงของคุณ
จริง ๆ แล้ว ทุกคนรู้ว่าการพัฒนาตัวเอง ทำให้เราไปถึงจุดหมาย
ดังนั้น ใครที่กล้าหาญพอ ที่จะนำหลักปฏิบัติทั้ง 6 ข้อนี้ ไปเริ่มทำตั้งแต่พรุ่งนี้เช้า ก็จะวัดได้เบื้องต้นแล้วว่า คุณเข้าใกล้ความฝันของตัวเองได้อีกหนึ่งสเตปแล้ว
ปิดท้ายด้วยคำคมของ อริสโตเติล ที่เคยพูดไว้ว่า
“เราคือผลลัพธ์ ของสิ่งที่เราทำเป็นประจำ ซ้ำ ๆ ทุกวัน” ..
References
-หนังสือ Miracle Morning เคล็ด (ไม่) ลับ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตคุณได้ (ก่อน 8 โมงเช้า)
-https://bit.ly/3cehPrd
-https://bit.ly/3phoXZ2