เทคนิค การตลาดขัดใจ ที่ทำให้สินค้าขายดี

เทคนิค การตลาดขัดใจ ที่ทำให้สินค้าขายดี

17 ก.ค. 2021
เทคนิค การตลาดขัดใจ ที่ทำให้สินค้าขายดี | THE BRIEFCASE
ปัจจุบันมีเทคนิคและทฤษฎีมากมายในการเพิ่มยอดขาย ไม่ว่าจะเป็นสร้างคอนเทนต์ หรือทำโฆษณา ลด แลก แจก แถม เพื่อดึงดูดลูกค้า
แต่นอกจากป้ายสีแดง ๆ ที่เขียนคำว่า “SALE” แล้ว เรายังมีอีกหนึ่งเทคนิคที่รบกวนใจลูกค้า แต่กลับทำให้สินค้าขายดี
วันนี้ THE BRIEFCASE ขอนำเสนอ “เทคนิคขัดใจ” ที่สามารถสร้างแรงจูงใจ ให้ลูกค้าสนใจและเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์ได้
กลยุทธ์ที่เรากำลังจะพูดถึงนี้ ก็เหมือนกับการใช้หลักการทาง “จิตวิทยา” เพื่อมากระตุ้นความรู้สึกของลูกค้า ให้เกิดแรงจูงใจกับสินค้านั้น ๆ
อย่างแรก คือ วางของให้ไม่สมบูรณ์
เคยเป็นบ้างไหมเวลาไปซื้อของตามซูเปอร์มาร์เก็ต ถ้าชั้นวางของจัดวางเป็นระเบียบอย่างสวยงาม เราจะรู้สึกว่าไม่อยากหยิบของออกมา แต่ถ้าหากสินค้าบนชั้นวางถูกวางเกินออกมาจากพวก กลับดึงดูดให้เราอยากซื้อสินค้านั้นมากกว่า
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะมนุษย์เรามักจะรู้สึกเกร็งหรืออึดอัดใจ เมื่อเจอของที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบมากเกินไป เพราะกลัวจะไปทำเสียหาย
ถึงแม้การจัดสินค้าบนชั้นโชว์แบบจัดเต็ม อาจช่วยให้ชั้นวางดูสวยงาม
แต่ร้านค้าไม่ใช่พิพิธภัณฑ์จัดแสดงโชว์ ดังนั้นการจัดเรียงสินค้าอย่างเป็นระเบียบ อาจทำให้ลูกค้ารู้สึกไม่สบายใจที่จะหยิบ หรือกลัวว่าไปทำลายผลงานที่สวยงามได้
ดังนั้นการวางของขาด ๆ เกิน ๆ บ้าง ก็เป็นเหมือนการ “เรียกร้องความสนใจ” ซึ่งบางครั้งอาจจะทำให้ลูกค้าสนใจ และรู้สึกสบายใจที่จะหยิบมันก็เป็นได้..
ซึ่งการวางของไม่เป็นระเบียบในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่า ต้องจัดวางสินค้ายุ่งเหยิงจนไม่น่ามอง
แต่เป็นการวางสินค้าที่ดูเป็นมิตรกับลูกค้ามากขึ้น
โดยเทคนิคนี้ได้มาจาก ร้าน Kinseiken ร้านขนมดั้งเดิมเจ้าดังในญี่ปุ่น ที่เผยเคล็ดลับว่า “การวางสินค้าเกินแถว” ช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้าหยิบสินค้า
โดยเปลี่ยนจากการวางเรียงสินค้าเป็นแถวระเบียบเรียบร้อย เป็นการวางสินค้าหนึ่งชิ้นเกินออกมา หรือไม่เสมอกับแถวอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะซื้อสินค้ามากกว่า
และอีกหนึ่งตัวอย่างการตลาดที่สร้างความหงุดหงิดให้กับลูกค้า แต่กลับสร้างแรงจูงใจได้อย่างมาก ก็คือ การกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของลูกค้า
หากใครที่เล่นโซเชียล จะต้องเคยเห็นตัวอย่างโฆษณาเกมทำภารกิจหนีออกจากบ้านอยู่บ่อย ๆ ซึ่งก็ดูเป็นเกมธรรมดา ๆ ที่ไม่น่าโหลดมาเล่นสักเท่าไร
แต่เพราะตัวอย่างโฆษณาที่น่าหงุดหงิด จึงทำให้หลายคนอาจอยากลองดาวน์โหลดเกมนั้นมาลองเล่นดู
โดยเกมเหล่านี้ใช้เทคนิคโฆษณาที่ทำให้เรารู้สึก “รำคาญใจ”
ยกตัวอย่างเช่น เกม “Homescapes” ที่ให้ภารกิจหนีออกจากบ้าน โดยเราต้องเลือกอุปกรณ์ให้ถูกต้อง จึงจะสามารถทำภารกิจสำเร็จและผ่านไปด่านต่อไป
ซึ่งวิธีการเล่นข้างต้นนี้ก็ดูง่ายดาย และไม่น่าสนใจเท่าไร..
แต่แทนที่โฆษณาของเกมนี้จะโชว์ตัวอย่างวิธีการเล่นที่ถูกต้อง และพาผ่านด่านไปได้ง่าย ๆ
พวกเขากลับเลือกทำโฆษณาสั้น ๆ ให้น่าหงุดหงิด โดยให้ตัวละครเลือกที่จะหยิบอุปกรณ์ที่ผิดจนแพ้
ซึ่งการทำโฆษณาแสดงความผิดพลาดซ้ำ ๆ เหล่านี้ กลับดึงดูดให้มีคนโหลดเกมนี้ไปจำนวนมาก
เนื่องจากดูโฆษณาแล้วรู้สึกขัดใจ จนต้องโหลดเกมมาเล่นให้ชนะเสียเอง
โดยตั้งเปิดตัวในปี 2016 ถึงปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดสะสมเกมนี้สูงถึง 438.5 ล้านครั้งไปแล้ว
ซึ่งถ้าใครได้เห็นโฆษณาเกมนี้แล้วเกิดความรู้สึก “หงุดหงิดใจ” เล็ก ๆ
นั่นเท่ากับว่าเรากำลังติดกับกลอุบายการตลาดนี้เข้าแล้ว..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
เกม Homescapes และ Gardenscapes ที่มีทีมผู้พัฒนาเดียวกัน มียอดผู้ดาวน์โหลดเกมนับตั้งแต่เปิดตัวรวมกว่า 213 ล้านบัญชี
แต่กลับต้องถูกแบนการโฆษณาในสหราชอาณาจักร
เนื่องจากแสดงโฆษณาที่บิดเบือน โดยด่านในเกมที่ถูกโฆษณากลับเป็นเพียงด่านเล็ก ๆ หรือมินิเกม ที่จะได้เล่นก็ต่อเมื่อ เล่นเกมหลักที่เป็นเกมเรียงผลไม้สีให้ผ่านก่อน..
References:
-https://www.blog.udonis.co/mobile-marketing/mobile-games/homescapes-monetization
-https://www.simplifield.com/blog/7-visual-merchandising-mistakes-and-how-to-avoid-them-even-during-a-pandemic
-https://fillgoods.co/online-biz/no-shop-increase-sale/
-https://twitter.com/kinseiken_jp/status/1409474634202849282?s=20
-https://sensortower.com/blog/gardenscapes-revenue-one-point-five-billion
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.