ส่อง 3 กลยุทธ์ ศรีนานาพร จากยี่ปั๊ว สู่เจ้าของแบรนด์ขนม เบนโตะ เจเล่ หมื่นล้าน
2 ต.ค. 2021
ส่อง 3 กลยุทธ์ ศรีนานาพร จากยี่ปั๊ว สู่เจ้าของแบรนด์ขนม เบนโตะ เจเล่ หมื่นล้าน | THE BRIEFCASE
ถ้าพูดถึงแบรนด์อย่าง เบนโตะ และเจเล่ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี
เพราะเป็นขนมและเครื่องดื่มที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานหลายทศวรรษ
แต่รู้ไหมว่า ทั้งสองแบรนด์นี้มีเจ้าของเดียวกัน คือ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
ที่เริ่มต้นมาจากธุรกิจยี่ปั๊ว ที่ไม่เคยมีแบรนด์เป็นของตัวเองด้วยซ้ำ
แล้ว ศรีนานาพร มีกลยุทธ์อะไร ที่ทำให้กิจการยี่ปั๊วห้องแถวเล็ก ๆ กลายมาเป็นอาณาจักรหมื่นล้านได้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ที่เข้าถึงง่าย และมีความหลากหลาย
ย้อนกลับไปเมื่อ 46 ปีก่อน ศรีนานาพรได้เริ่มต้นทำธุรกิจยี่ปั๊วค้าส่งขนม
แต่เนื่องจากธุรกิจมีการแข่งขันที่สูง ทำให้อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ
คุณวิวรรธน์จึงมองว่า ถ้าไม่มีแบรนด์ของตัวเอง จะต้องพบกับการแข่งขันที่สูง
สุดท้ายจึงตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นผู้ผลิตและสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองขึ้นมา
โดยสินค้าแรก คือ เมล็ดแตงโม จากนั้นก็แตกไลน์สินค้าออกมาเรื่อย ๆ เช่น ปลาหมึกอบ เบนโตะ, เยลลี่ เจเล่, ขาไก่โลตัส และเครื่องดื่ม อควาวิตซ์วิตามิน
จะเห็นได้ว่า แต่ละแบรนด์เป็นสินค้าบริโภคที่สามารถทานได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อซ้ำได้เรื่อย ๆ
และการมีแบรนด์ให้หลากหลาย ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีกระจายความเสี่ยง
เพราะถ้าสินค้าไหนทำรายได้ได้น้อย เราก็ยังมีสินค้าอื่น ๆ ช่วยพยุงขึ้นมาได้
2. การโฆษณา เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก สำคัญมาก
หนึ่งในวิธีการทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของศรีนานาพร ก็คือ การโฆษณา
ซึ่งการโฆษณา จะเป็นการทำให้คนหมู่มากรู้จักสินค้า และยังเป็นการทำให้ตลาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
พอแบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก ประกอบกับสินค้าที่มีคุณภาพดี
ก็ทำให้เวลาผู้บริโภคนึกถึงสินค้า เขาก็จะนึกถึงสินค้าของเรา
3. กระจายสินค้า ให้ครอบคลุมหลายช่องทาง ให้ได้มากที่สุด
ศรีนานาพรได้ทำการจำหน่ายสินค้าในประเทศในรูปแบบที่หลากหลาย
ทั้งผ่านช่องทางแบบร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต
หรือผ่านทางทีม Cash Van ที่สามารถวิ่งไปกระจายสินค้าให้กับร้านค้าปลีกทั่วไปได้ 70,000 ร้านค้าใน 1 เดือน และมีทีมขายเข้าไปกระจายสินค้าให้กับยี่ปั๊วต่าง ๆ ได้อีกกว่า 3,600 ร้านค้า
ซึ่งการที่มีช่องทางกระจายสินค้าที่มีจำนวนมากนี่เอง จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายสินค้าของศรีนานาพรเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบันศรีนานาพรไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ในประเทศเท่านั้น
แต่ยังสามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศในกลุ่ม CLMV อีกด้วย
และด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ก็สามารถทำให้ร้านยี่ปั๊วเล็ก ๆ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน
กลายมาเป็นอาณาจักรขนมและเครื่องดื่มหมื่นล้านได้อย่างทุกวันนี้นั่นเอง..
References
-https://www.snnp.co.th/
-บทสัมภาษณ์ คุณวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และ คุณชยุตม์ หลีหเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงแบรนด์อย่าง เบนโตะ และเจเล่ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดี
เพราะเป็นขนมและเครื่องดื่มที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานหลายทศวรรษ
แต่รู้ไหมว่า ทั้งสองแบรนด์นี้มีเจ้าของเดียวกัน คือ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
ที่เริ่มต้นมาจากธุรกิจยี่ปั๊ว ที่ไม่เคยมีแบรนด์เป็นของตัวเองด้วยซ้ำ
แล้ว ศรีนานาพร มีกลยุทธ์อะไร ที่ทำให้กิจการยี่ปั๊วห้องแถวเล็ก ๆ กลายมาเป็นอาณาจักรหมื่นล้านได้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. สร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง ที่เข้าถึงง่าย และมีความหลากหลาย
ย้อนกลับไปเมื่อ 46 ปีก่อน ศรีนานาพรได้เริ่มต้นทำธุรกิจยี่ปั๊วค้าส่งขนม
แต่เนื่องจากธุรกิจมีการแข่งขันที่สูง ทำให้อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ
คุณวิวรรธน์จึงมองว่า ถ้าไม่มีแบรนด์ของตัวเอง จะต้องพบกับการแข่งขันที่สูง
สุดท้ายจึงตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นผู้ผลิตและสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองขึ้นมา
โดยสินค้าแรก คือ เมล็ดแตงโม จากนั้นก็แตกไลน์สินค้าออกมาเรื่อย ๆ เช่น ปลาหมึกอบ เบนโตะ, เยลลี่ เจเล่, ขาไก่โลตัส และเครื่องดื่ม อควาวิตซ์วิตามิน
จะเห็นได้ว่า แต่ละแบรนด์เป็นสินค้าบริโภคที่สามารถทานได้ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อซ้ำได้เรื่อย ๆ
และการมีแบรนด์ให้หลากหลาย ก็ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีกระจายความเสี่ยง
เพราะถ้าสินค้าไหนทำรายได้ได้น้อย เราก็ยังมีสินค้าอื่น ๆ ช่วยพยุงขึ้นมาได้
2. การโฆษณา เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก สำคัญมาก
หนึ่งในวิธีการทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักของศรีนานาพร ก็คือ การโฆษณา
ซึ่งการโฆษณา จะเป็นการทำให้คนหมู่มากรู้จักสินค้า และยังเป็นการทำให้ตลาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย
พอแบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก ประกอบกับสินค้าที่มีคุณภาพดี
ก็ทำให้เวลาผู้บริโภคนึกถึงสินค้า เขาก็จะนึกถึงสินค้าของเรา
3. กระจายสินค้า ให้ครอบคลุมหลายช่องทาง ให้ได้มากที่สุด
ศรีนานาพรได้ทำการจำหน่ายสินค้าในประเทศในรูปแบบที่หลากหลาย
ทั้งผ่านช่องทางแบบร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือไฮเปอร์มาร์เก็ต
หรือผ่านทางทีม Cash Van ที่สามารถวิ่งไปกระจายสินค้าให้กับร้านค้าปลีกทั่วไปได้ 70,000 ร้านค้าใน 1 เดือน และมีทีมขายเข้าไปกระจายสินค้าให้กับยี่ปั๊วต่าง ๆ ได้อีกกว่า 3,600 ร้านค้า
ซึ่งการที่มีช่องทางกระจายสินค้าที่มีจำนวนมากนี่เอง จึงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายสินค้าของศรีนานาพรเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจุบันศรีนานาพรไม่ได้เป็นเพียงผู้ผลิตขนมขบเคี้ยวรายใหญ่ในประเทศเท่านั้น
แต่ยังสามารถส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศในกลุ่ม CLMV อีกด้วย
และด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ก็สามารถทำให้ร้านยี่ปั๊วเล็ก ๆ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน
กลายมาเป็นอาณาจักรขนมและเครื่องดื่มหมื่นล้านได้อย่างทุกวันนี้นั่นเอง..
References
-https://www.snnp.co.th/
-บทสัมภาษณ์ คุณวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และ คุณชยุตม์ หลีหเจริญกุล กรรมการบริหาร บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) โดย ลงทุนแมน