สรุป 5 กลยุทธ์ สร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง แบบฉบับ ศรีสวัสดิ์

สรุป 5 กลยุทธ์ สร้างธุรกิจให้แข็งแกร่ง แบบฉบับ ศรีสวัสดิ์ | THE BRIEFCASE
ในปี 2563 ที่ผ่านมา ศรีสวัสดิ์มีรายได้เติบโต 12.25% และกำไรเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่ยังไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้น
ตัวเลขนี้บอกเราว่า แม้จะมีความท้าทายและความไม่แน่นอนเข้ามา
แต่ผู้ให้สินเชื่อรายสำคัญในไทยรายนี้
ยังคงสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
แล้วศรีสวัสดิ์ งัดกลยุทธ์อะไร ออกมาสู้กับวิกฤติในครั้งนี้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. มองสถานการณ์เศรษฐกิจให้ออกว่า ส่วนไหนดี ส่วนไหนไม่ดี
วิกฤติโควิด 19 ที่เกิดขึ้น ได้สร้างผลกระทบอย่างเป็นวงกว้าง ส่งผลให้เกิดภาวะเศรษฐกิจซบเซา
แต่ในความซบเซานั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกภาคเศรษฐกิจ เพราะในแต่ละวิกฤติ จะมีภาคเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ และไม่ได้รับผลกระทบเสมอ
เช่น วิกฤติโควิด 19 ในครั้งนี้ บางช่วงเกิดการล็อกดาวน์ การเดินทางหยุดชะงัก ทำให้การจับจ่ายใช้สอยในรูปแบบปกติเงียบเหงาลงไป แต่การจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเพิ่มขึ้น
ดังนั้น ถ้าเรามองออกว่า เศรษฐกิจส่วนไหนไม่ดี ก็พยายามอย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในส่วนที่ไม่ดีนั้น
2. ใช้ช่วงเวลาวิกฤติ พัฒนาส่วนอื่น ๆ ของธุรกิจ ให้แข็งแกร่ง
ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาวิกฤติ แต่ความต้องการใช้เงินของคนก็ยังมีอยู่เรื่อย ๆ อาจจะมากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา
ดังนั้นให้ใช้ช่วงเวลา ที่กิจการไม่สามารถดำเนินไปได้อย่างเต็มรูปแบบ มาใช้พัฒนาระบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบหลังบ้าน ระบบไอที หาเครื่องมือการลงทุน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันที่สัญญาณเศรษฐกิจเริ่มฟื้น จะได้มีระบบที่ดีมารองรับอย่างเต็มรูปแบบ
3. เติบโตด้วยตนเองไม่พอ แต่ต้องหาพาร์ตเนอร์ที่ดี
ตลาดของธุรกิจการให้สินเชื่อเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก และการที่จะเติบโตได้ จะต้องพึ่งทั้งการขยายสาขา การควบรวมกิจการ และการหาพาร์ตเนอร์ที่ดี
โดยศรีสวัสดิ์ได้ทำการเดินเกมครั้งสำคัญ คือ การไปจับมือร่วมทุนกับธนาคารออมสิน
ซึ่งการจับมือในครั้งนี้ ก็ถือว่า วิน-วิน ทั้งสองฝ่าย เพราะนอกจากธนาคารออมสินจะช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบของประเทศไทยแล้ว ศรีสวัสดิ์ยังได้ฐานลูกค้าเพิ่มจากการดึงคนที่เคยกู้นอกระบบ ให้กลับเข้ามาในระบบ
และยังคาดว่าสามารถทำให้ศรีสวัสดิ์สามารถเติบโตได้กว่า 20,000 ล้านบาท จากการร่วมมือในครั้งนี้อีกด้วย
4. ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ภาพลักษณ์ คือสิ่งสำคัญ
ตลาดธุรกิจที่มีทั้งผู้เล่นรายใหญ่และรายย่อยจำนวนมาก และขึ้นชื่อว่าเป็นธุรกิจการให้สินเชื่อ ภาพลักษณ์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เพราะโดยธรรมชาติแล้วคนจะมองว่า ผู้ที่ปล่อยสินเชื่อต้องโหดร้าย ขูดรีด
ดังนั้นการเปลี่ยนภาพจำเหล่านี้ ให้คนกลับมามองว่าธุรกิจปล่อยสินเชื่อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้ศรีสวัสดิ์แตกต่างจากผู้ปล่อยสินเชื่อรายอื่น ๆ
ซึ่งการจะเปลี่ยนภาพจำของคนส่วนมากได้ ก็ต้องใช้สิ่งที่เข้าถึงผู้คนได้ง่าย
เช่น การใช้พลังของ Soft Power ผ่านทางเข้าไปเป็นผู้สนับสนุนภาพยนตร์เรื่อง “อ้ายคนหล่อลวง”
ที่จะเป็นส่วนที่ช่วยให้คนทั่วไปเข้าใจว่า การปล่อยสินเชื่อไม่ได้กดดัน หรือโหดร้าย และมีอะไรขอแค่แวะมาหาศรีสวัสดิ์ก็พอ
5. อย่ามองว่าตัวเองเก่งไปหมดทุกเรื่อง
การที่เรารู้ตัวและยอมรับว่าเราไม่ได้เก่งไปหมดทุกเรื่อง จะช่วยให้เราเปิดใจยอมรับมุมมองใหม่ ๆ จากที่ปรึกษา หรือพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจต่าง ๆ ที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละด้าน
แต่ถ้าเราคิดว่าเราเก่งที่สุด ทุกอย่างก็จะจบแค่ที่ตัวเรา ไม่ได้เห็นมุมมองอื่น ๆ ที่อาจช่วยให้เราเติบโตได้เลย
สุดท้ายนี้เคล็ดลับการบริหารก็ไม่ได้มีสูตรอะไรตายตัว
แต่ระหว่างทางเราต้องบริหารจัดการ และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ
เพื่อรับมือกับสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นให้ได้..
Reference
-บทสัมภาษณ์คุณธิดา แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
โดย ลงทุนแมน