หยั่น หว่อ หยุ่น ขายเครื่องปรุงอย่างไร ให้มีรายได้ เป็นพันล้าน

หยั่น หว่อ หยุ่น ขายเครื่องปรุงอย่างไร ให้มีรายได้ เป็นพันล้าน

30 ต.ค. 2021
หยั่น หว่อ หยุ่น ขายเครื่องปรุงอย่างไร ให้มีรายได้ เป็นพันล้าน | THE BRIEFCASE
ถ้าถามว่า ขวดซีอิ๊วที่พวกเราคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กจนโต มีอะไรบ้าง
หนึ่งในนั้นต้องมีซีอิ๊วขาวตรา “เด็กสมบูรณ์” รวมอยู่ด้วย
ใครจะไปคิดว่า นับจากก้าวแรกจนถึงวันนี้
ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ จะอยู่คู่กับครัวของคนไทยมาแล้วกว่า 74 ปี
ที่สำคัญแม้จะขายสินค้าที่ดูแสนจะธรรมดา
แต่ซีอิ๊วขวดเล็กแบบนี้กลับมีรายได้ระดับพันล้าน
ซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์ทำอย่างไรให้มีรายได้ระดับนี้ ?
1. ยุคก่อตั้งธุรกิจ
ต้นกำเนิดของหยั่น หว่อ หยุ่น ผู้ผลิตซีอิ๊วขาวตราเด็กสมบูรณ์นั้น ก่อตั้งโดย ตระกูลตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ตั้งแต่ปี 2490 หรือเมื่อ 74 ปีที่แล้ว
โดยตระกูลตั้งสมบัติวิสิทธิ์ เป็นครอบครัวชาวจีนที่อพยพย้ายถิ่นฐานในเมืองไทย
บรรพบุรุษรุ่นนั้นมีชื่อว่า นายถ่ง แซ่ตั้ง โดยเขาได้นำเอาสูตรซีอิ๊วขาวจากเมืองจีน มาหมักปรุงสูตรเพื่อผลิตและใส่ขวดขายที่เมืองไทยแถวย่านสีลม
โดยช่วงแรกที่ผลิตซีอิ๊วขาวขายนั้น
ยังเป็นการทำแบบธุรกิจครอบครัวขนาดเล็ก ในลักษณะธุรกิจแบบ SME
ซึ่งด้วยรสชาติและกลิ่นที่หอมของซีอิ๊วขาวนั้น ทำให้เป็นที่ถูกปากของคนจำนวนไม่น้อย จากลูกค้าเพียงกลุ่มเล็ก ๆ ก็เริ่มขยายเป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากการบอกกันปากต่อปาก
2. ยุคขยายธุรกิจ
เมื่อนายถ่ง เสียชีวิตลง คุณวิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ทายาทรุ่นที่ 2 ก็เข้ามาสานต่อกิจการของคุณพ่อ รวมทั้งเริ่มขยับขยายธุรกิจ มีการจัดตั้ง บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด ขึ้นในปี 2525 เพื่อทำการผลิตซีอิ๊ว “ตราเด็กสมบูรณ์” ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรก
เมื่ออยู่ในรูปบริษัทแล้ว บริษัทจึงได้พัฒนาระบบการผลิตให้เป็นมาตรฐาน สร้างโรงงานแห่งใหม่พร้อมใช้อุปกรณ์ล้ำสมัย
มีการไปศึกษาดูงานการผลิตซีอิ๊วที่ญี่ปุ่นเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าของบริษัท รวมไปถึงพยายามสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักผ่านการทำการตลาด
สิ่งเหล่านี้จึงค่อย ๆ ทำให้สินค้าตราเด็กสมบูรณ์ ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย และบริษัทก็เริ่มส่งออกซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์ไปยังต่างประเทศครั้งแรกในปี 2528
ในปี 2540 หยั่น หว่อ หยุ่น เริ่มแตกไลน์ธุรกิจไปขายสินค้าอื่น ๆ เพื่อให้สินค้าของบริษัท สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
3. ยุคปัจจุบัน
จากจุดเริ่มต้นที่มีซีอิ๊วขาว มาวันนี้สินค้าของบริษัทนั้นมีหลากหลายตั้งแต่ซีอิ๊วดำ เต้าเจี้ยว ซอสหอยนางรม น้ำปลา ผงปรุงรส น้ำส้มสายชู ซอสพริก ซอสปลาเค็ม หรือแม้แต่ไอศกรีม
อย่างกรณีของไอศกรีมนั้น หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า หยั่น หว่อ หยุ่น ที่ทำธุรกิจผลิตซีอิ๊วนั้นจะกล้าแหวกแนวเพื่อที่จะมาทำไอศกรีมขาย
ที่น่าสนใจก็คือ คุณสมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของบริษัทเคยบอกว่า..
“เราไม่จำเป็นต้องยึดติดอะไรแบบเดิม ๆ แต่ควรสามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่และทำในสิ่งที่ผู้บริโภคคาดไม่ถึง เพื่อก้าวจากสินค้าอาหารคาว มาสู่อาหารหวานให้ได้”
หรือแม้แต่การพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ที่หยั่น หว่อ หยุ่น ทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะมองว่า คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น
ดังนั้นสินค้าที่จะขายก็ต้องดีต่อสุขภาพ บริษัทจึงพัฒนาและปรับเปลี่ยนเครื่องปรุงรสหลายอย่างให้ลดน้ำตาลลง ไม่มีสารกันเสีย ไม่มีผงชูรส เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากขึ้น
แม้เครื่องปรุงรสจะดูเหมือนสินค้าธรรมดา ๆ แต่ข้อมูลจากศูนย์อัจฉริยะเพื่ออุตสาหกรรมอาหารระบุว่า ตลาดเครื่องปรุงรสของไทยนั้น นับเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
ปี 2559 ตลาดเครื่องปรุงรส มีมูลค่าประมาณ 35,354 ล้านบาท
ปี 2563 ตลาดเครื่องปรุงรส มีมูลค่าประมาณ 41,893 ล้านบาท
ซึ่งสาเหตุสำคัญก็เป็นเพราะคุณภาพเครื่องปรุงรสของไทย ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทยด้วยกันเอง แต่ยังรวมไปถึงชาวต่างชาติด้วย
เมื่ออุตสาหกรรมเติบโตได้ดี ก็ส่งผลดีต่อบริษัทในอุตสาหกรรม รวมถึงหยั่น หว่อ หยุ่น ด้วยเช่นกัน
รายได้และกำไรของ บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น จำกัด ผู้ผลิตซีอิ๊วตราเด็กสมบูรณ์
ปี 2561 รายได้ 2,222 ล้านบาท กำไร 117 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 2,345 ล้านบาท กำไร 135 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 2,439 ล้านบาท กำไร 165 ล้านบาท
แม้แต่ในช่วงปีที่แล้วที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 บริษัทก็ยังสามารถทำกำไรเติบโตได้อย่างน่าประทับใจ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราน่าจะได้แง่คิดที่ว่า..
แม้ว่าโลกของเราจะหมุนและเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา หลายธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น หลายธุรกิจก็ล้มหายไป แต่สำหรับหยั่น หว่อ หยุ่น นั้น บริษัทไม่เพียงแต่คงคุณภาพสินค้าที่มีอยู่แล้วให้ดีอย่างต่อเนื่อง
แต่ยังพยายามพัฒนาและนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ ให้ทันกับยุคที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ซึ่งก็ช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจมาได้กว่า 7 ทศวรรษแล้ว
และการพยายามรักษาคุณภาพ และปรับตัวตลอดเวลา
ก็ทำให้ หยั่น หว่อ หยุ่น ขายเครื่องปรุงได้ เป็นหลักพันล้านบาท นั่นเอง
ปิดท้ายด้วย เทคนิคสร้างการจดจำของ “แบรนด์เด็กสมบูรณ์”..
มีคนจำนวนไม่น้อยสงสัยว่าทำไมหยั่น หว่อ หยุ่น ถึงใช้รูปโลโกเป็นเด็กตัวอ้วน ๆ ที่นั่งอยู่ในรูป
ที่มาของโลโกเด็กสมบูรณ์ หรือในภาษาอังกฤษนั้นเรียกกันว่า “Healthy Boy” เกิดจากในสมัยก่อน ตอนที่บริษัทกำลังจะออกแบบโลโกให้กับแบรนด์ กลับไม่ค่อยมีที่ปรึกษาและบริษัทที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
บริษัทจึงไปจ้างจิตรกรวาดรูปมาช่วยออกแบบ
โดยให้ไอเดียแก่จิตรกรไปว่า ซีอิ๊วของบริษัทนั้น ลูกค้าจำนวนไม่น้อยซื้อเพื่อไปเหยาะกับข้าวต้มให้เด็กกิน และด้วยรสชาติที่หอมและอร่อย ได้ช่วยให้เด็กนั้นกินข้าวเยอะขึ้นมาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จิตรกรคนดังกล่าวจึงได้ออกแบบรูปเด็กที่ดูแข็งแรง สมบูรณ์ เนื่องจากการเจริญอาหาร จนเป็นที่มาของรูป “เด็กสมบูรณ์” นั่นเอง..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Yan_Wal_Yun
-https://www.smethailandclub.com/entrepreneur-5977-id.html
-https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99_%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%AD_%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99
-แบบฟอร์ม 56-1 ปี 2563, บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (มหาชน)
-http://fic.nfi.or.th/MarketOverviewDomesticDetail.php?id=325
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.