กรณีศึกษา คิง ฟรุทส์ ขายกล้วยหอมธรรมดา ๆ อย่างไร ให้มีรายได้หลักร้อยล้าน
3 พ.ย. 2021
กรณีศึกษา คิง ฟรุทส์ ขายกล้วยหอมธรรมดา ๆ อย่างไร ให้มีรายได้หลักร้อยล้าน | THE BRIEFCASE
ถ้าถามว่าผลไม้ชนิดไหนที่คนไทยนิยมบ้าง หนึ่งในนั้นน่าจะมี “กล้วยหอม” รวมอยู่ด้วย
รู้หรือไม่ว่า ผลไม้คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างกล้วยหอม ก็สามารถสร้างรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาทได้เหมือนกัน
และผู้ที่พิสูจน์ความสำเร็จนี้ก็คือ แบรนด์กล้วยหอมทอง Banana King ของบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด
แล้วเส้นทางธุรกิจที่ทำให้ คิง ฟรุทส์ สามารถขายกล้วยหอม สร้างรายได้หลักร้อยล้านบาท คืออะไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. มองหา “สินค้า” ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ
จุดเริ่มต้นของกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ นั้นเกิดมาจากคุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณี วิเลปะนะ
2 สามีภรรยาที่มาเอาดีในด้านการปลูกกล้วยหอมขาย
แต่กว่าที่เขาจะมาถึงวันนี้ ทั้งคู่นั้นไม่ได้เริ่มต้นจากการขายกล้วยหอมตั้งแต่แรก
เดิมทีทั้งคู่เริ่มต้นเป็นเกษตรกรทั่วไปมาก่อน โดยทำสวนส้มขาย แต่ทั้งคู่มองว่า ปัญหาของการทำสวนส้มนั้นคือ โรคระบาด จนสร้างความเสียหายให้กับสวนส้มของทั้งคู่อยู่เสมอ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทั้งคู่เลยหันมาปลูกผักสวนครัว รวมถึงกล้วยหอม
ซึ่งในส่วนของผักสวนครัวนั้น ทั้งคู่มองว่าผักก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ดีเท่าไรนัก
แต่สำหรับกล้วยหอมนั้น หลังจากขายไปสักพัก ก็มีผลตอบรับที่ดี
ทั้งคู่จึงเชื่อว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จ ทำให้ทั้งคุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณี จึงเริ่มตัดสินใจที่จะปลูกกล้วยหอมขาย เพราะเล็งเห็นว่า เป็นผลไม้ที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ
2. ขยาย “แหล่งเพาะปลูกกล้วยหอม” ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีมาตรฐาน
เดิมที ทั้งคู่เริ่มต้นปลูกกล้วยหอมจำนวนประมาณ 30 ไร่ แต่เมื่อความต้องการกล้วยหอมมากขึ้น ทั้งคู่จึงค่อย ๆ ขยายพื้นที่ปลูกกล้วยมากขึ้น
จนปัจจุบัน พื้นที่ปลูกกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ มีกว่า 4,000 ไร่ กระจายตามจังหวัดต่าง ๆ เช่น ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, กำแพงเพชร และนครนายก
ซึ่งในจำนวนไร่ทั้งหมดดังกล่าว มีทั้งไร่ที่เป็นของทั้งคู่เอง และเป็นไร่ของเกษตรกร ชาวสวนคนอื่นที่คิง ฟรุทส์ ไปทำสัญญารับซื้อกล้วยหอมมา หรือที่เรารู้จักกันว่า Contract Farming
โดยทั้ง 2 คนจะมาช่วยกันวางแผนว่าแต่ละปีควรจะผลิตเท่าไร ด้วยการสอบถามกับลูกค้าถึงความต้องการ หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนการผลิตให้กับสวนตัวเอง และของเกษตรกรเครือข่าย
รวมถึงเตรียมแผนสำรองว่า จะสามารถจัดหากล้วยที่ไหนเพิ่มได้อีก ในกรณีที่พื้นที่ที่ปลูกกล้วยให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
อีกประเด็นสำคัญของการทำกล้วยหอมที่ทั้ง 2 คน เน้นย้ำมาตลอดก็คือ ในการผลิตสินค้าให้ผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแค่ “สินค้า” เท่านั้นที่ผู้บริโภคต้องการ แต่รวมไปถึง “ความปลอดภัย” ด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นพวกอาหารผลไม้
ทำให้เรื่องความสะอาด ความปลอดภัย และการผลิตที่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งที่คุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณีให้ความสำคัญมาตั้งแต่ช่วงแรกที่ตัดสินใจมาปลูกกล้วยหอมขาย
ซึ่งทั้ง 2 คนมองว่า สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้กล้วยหอมของทั้งคู่ สามารถขยายตลาดไปได้เยอะ เมื่อเทียบกับในอดีต
3. มองหา “ตลาด” ที่กว้างพอจะสร้างรายได้ระดับร้อยล้านบาทได้
จุดเริ่มต้นที่ทำให้กล้วยหอมของทั้งคู่เริ่มขยายตลาดได้มาก
นั่นก็คือ การได้รับโอกาสให้เริ่มเข้าไปขายในห้างค้าส่งอย่าง MAKRO
ซึ่งหลังจากเข้าร้านค้าส่งอย่าง MAKRO แล้ว กล้วยหอมทองของคิง ฟรุทส์ ก็เริ่มมีโอกาสไปขายตามโมเดิร์นเทรดอื่น ๆ
เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ครัวกลางของสายการบินต่าง ๆ
รวมไปถึงโรงงานที่ใช้กล้วยหอมเป็นวัตถุดิบในการทำขนม ก็ยังเป็นลูกค้าของกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ เช่นกัน
ทำให้ปัจจุบันนี้ กล้วยหอมคิง ฟรุทส์ จะมีรายได้ตามสัดส่วนของกลุ่มลูกค้า ที่มาจาก
- ร้านสะดวกซื้อ 40%
- ห้างสรรพสินค้า 30%
- ครัวของสายการบิน 20%
- โรงงานเบเกอรี 10%
โดยรายได้ของ บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาคือ
ปี 2561 รายได้ 149 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 135 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 158 ล้านบาท
มาถึงตรงนี้ เรื่องราวของคิง ฟรุทส์ สะท้อนได้ว่า..
เมื่อเรามาทำธุรกิจที่จะขายสินค้าธรรมดา ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม ก็สามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทได้
จากจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจสวนส้มของทั้งคู่ที่ไม่ได้ราบรื่นตั้งแต่แรก ลองผิดลองถูกทำสวนผักอยู่สักพัก แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ทั้งคู่ไม่ได้ล้มเลิก พร้อมทั้งยังคงมองหาโอกาสในการทำสินค้าเกษตรอื่น ๆ แทน จนได้มาพบกับ “กล้วยหอมทอง”
เมื่อพบสินค้าที่น่าสนใจ ก็พร้อมขยายแหล่งเพาะปลูกกล้วยหอมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย แล้วก็มองหาตลาดที่ใหญ่มากพอจนสามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทต่อปีได้สำเร็จ
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเส้นทางธุรกิจที่ทำให้วันนี้ คิง ฟรุทส์ สามารถขายสินค้าธรรมดา ๆ อย่างกล้วยหอม จนมีรายได้เป็นหลักร้อยล้าน นั่นเอง..
References
-https://www.youtube.com/watch?v=trYNCHgkMf8
-http://www.kingfruits.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1&Itemid=110&lang=th
-https://www.sentangsedtee.com/career-channel/article_100317
ถ้าถามว่าผลไม้ชนิดไหนที่คนไทยนิยมบ้าง หนึ่งในนั้นน่าจะมี “กล้วยหอม” รวมอยู่ด้วย
รู้หรือไม่ว่า ผลไม้คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างกล้วยหอม ก็สามารถสร้างรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาทได้เหมือนกัน
และผู้ที่พิสูจน์ความสำเร็จนี้ก็คือ แบรนด์กล้วยหอมทอง Banana King ของบริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด
แล้วเส้นทางธุรกิจที่ทำให้ คิง ฟรุทส์ สามารถขายกล้วยหอม สร้างรายได้หลักร้อยล้านบาท คืออะไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. มองหา “สินค้า” ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จ
จุดเริ่มต้นของกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ นั้นเกิดมาจากคุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณี วิเลปะนะ
2 สามีภรรยาที่มาเอาดีในด้านการปลูกกล้วยหอมขาย
แต่กว่าที่เขาจะมาถึงวันนี้ ทั้งคู่นั้นไม่ได้เริ่มต้นจากการขายกล้วยหอมตั้งแต่แรก
เดิมทีทั้งคู่เริ่มต้นเป็นเกษตรกรทั่วไปมาก่อน โดยทำสวนส้มขาย แต่ทั้งคู่มองว่า ปัญหาของการทำสวนส้มนั้นคือ โรคระบาด จนสร้างความเสียหายให้กับสวนส้มของทั้งคู่อยู่เสมอ
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ทั้งคู่เลยหันมาปลูกผักสวนครัว รวมถึงกล้วยหอม
ซึ่งในส่วนของผักสวนครัวนั้น ทั้งคู่มองว่าผักก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้ดีเท่าไรนัก
แต่สำหรับกล้วยหอมนั้น หลังจากขายไปสักพัก ก็มีผลตอบรับที่ดี
ทั้งคู่จึงเชื่อว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จ ทำให้ทั้งคุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณี จึงเริ่มตัดสินใจที่จะปลูกกล้วยหอมขาย เพราะเล็งเห็นว่า เป็นผลไม้ที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ
2. ขยาย “แหล่งเพาะปลูกกล้วยหอม” ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีมาตรฐาน
เดิมที ทั้งคู่เริ่มต้นปลูกกล้วยหอมจำนวนประมาณ 30 ไร่ แต่เมื่อความต้องการกล้วยหอมมากขึ้น ทั้งคู่จึงค่อย ๆ ขยายพื้นที่ปลูกกล้วยมากขึ้น
จนปัจจุบัน พื้นที่ปลูกกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ มีกว่า 4,000 ไร่ กระจายตามจังหวัดต่าง ๆ เช่น ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, กำแพงเพชร และนครนายก
ซึ่งในจำนวนไร่ทั้งหมดดังกล่าว มีทั้งไร่ที่เป็นของทั้งคู่เอง และเป็นไร่ของเกษตรกร ชาวสวนคนอื่นที่คิง ฟรุทส์ ไปทำสัญญารับซื้อกล้วยหอมมา หรือที่เรารู้จักกันว่า Contract Farming
โดยทั้ง 2 คนจะมาช่วยกันวางแผนว่าแต่ละปีควรจะผลิตเท่าไร ด้วยการสอบถามกับลูกค้าถึงความต้องการ หลังจากนั้นจึงเริ่มวางแผนการผลิตให้กับสวนตัวเอง และของเกษตรกรเครือข่าย
รวมถึงเตรียมแผนสำรองว่า จะสามารถจัดหากล้วยที่ไหนเพิ่มได้อีก ในกรณีที่พื้นที่ที่ปลูกกล้วยให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
อีกประเด็นสำคัญของการทำกล้วยหอมที่ทั้ง 2 คน เน้นย้ำมาตลอดก็คือ ในการผลิตสินค้าให้ผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงแค่ “สินค้า” เท่านั้นที่ผู้บริโภคต้องการ แต่รวมไปถึง “ความปลอดภัย” ด้วย โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นพวกอาหารผลไม้
ทำให้เรื่องความสะอาด ความปลอดภัย และการผลิตที่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งที่คุณเกรียงศักดิ์และคุณเสาวณีให้ความสำคัญมาตั้งแต่ช่วงแรกที่ตัดสินใจมาปลูกกล้วยหอมขาย
ซึ่งทั้ง 2 คนมองว่า สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้กล้วยหอมของทั้งคู่ สามารถขยายตลาดไปได้เยอะ เมื่อเทียบกับในอดีต
3. มองหา “ตลาด” ที่กว้างพอจะสร้างรายได้ระดับร้อยล้านบาทได้
จุดเริ่มต้นที่ทำให้กล้วยหอมของทั้งคู่เริ่มขยายตลาดได้มาก
นั่นก็คือ การได้รับโอกาสให้เริ่มเข้าไปขายในห้างค้าส่งอย่าง MAKRO
ซึ่งหลังจากเข้าร้านค้าส่งอย่าง MAKRO แล้ว กล้วยหอมทองของคิง ฟรุทส์ ก็เริ่มมีโอกาสไปขายตามโมเดิร์นเทรดอื่น ๆ
เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ครัวกลางของสายการบินต่าง ๆ
รวมไปถึงโรงงานที่ใช้กล้วยหอมเป็นวัตถุดิบในการทำขนม ก็ยังเป็นลูกค้าของกล้วยหอมคิง ฟรุทส์ เช่นกัน
ทำให้ปัจจุบันนี้ กล้วยหอมคิง ฟรุทส์ จะมีรายได้ตามสัดส่วนของกลุ่มลูกค้า ที่มาจาก
- ร้านสะดวกซื้อ 40%
- ห้างสรรพสินค้า 30%
- ครัวของสายการบิน 20%
- โรงงานเบเกอรี 10%
โดยรายได้ของ บริษัท คิง ฟรุทส์ จำกัด ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาคือ
ปี 2561 รายได้ 149 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 135 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้ 158 ล้านบาท
มาถึงตรงนี้ เรื่องราวของคิง ฟรุทส์ สะท้อนได้ว่า..
เมื่อเรามาทำธุรกิจที่จะขายสินค้าธรรมดา ๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม ก็สามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทได้
จากจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจสวนส้มของทั้งคู่ที่ไม่ได้ราบรื่นตั้งแต่แรก ลองผิดลองถูกทำสวนผักอยู่สักพัก แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ทั้งคู่ไม่ได้ล้มเลิก พร้อมทั้งยังคงมองหาโอกาสในการทำสินค้าเกษตรอื่น ๆ แทน จนได้มาพบกับ “กล้วยหอมทอง”
เมื่อพบสินค้าที่น่าสนใจ ก็พร้อมขยายแหล่งเพาะปลูกกล้วยหอมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย แล้วก็มองหาตลาดที่ใหญ่มากพอจนสามารถสร้างรายได้หลักร้อยล้านบาทต่อปีได้สำเร็จ
ทั้งหมดนี้ จึงเป็นเส้นทางธุรกิจที่ทำให้วันนี้ คิง ฟรุทส์ สามารถขายสินค้าธรรมดา ๆ อย่างกล้วยหอม จนมีรายได้เป็นหลักร้อยล้าน นั่นเอง..
References
-https://www.youtube.com/watch?v=trYNCHgkMf8
-http://www.kingfruits.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=1&Itemid=110&lang=th
-https://www.sentangsedtee.com/career-channel/article_100317