
กรณีศึกษา มหาเศรษฐีระดับโลก ที่เริ่มต้นจาก การเป็นพนักงานบริษัท
16 พ.ย. 2021
กรณีศึกษา มหาเศรษฐีระดับโลก ที่เริ่มต้นจาก การเป็นพนักงานบริษัท | THE BRIEFCASE
หลายคนอาจคิดมาตลอดว่า การเป็นแค่พนักงานบริษัทเราคงไม่มีวันกลายมาเป็นมหาเศรษฐีได้
แต่วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปดูกรณีศึกษาของบุคคล ที่เรียกได้ว่า กลายเป็นมหาเศรษฐี ด้วยการเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานกัน
แต่วันนี้ THE BRIEFCASE จะพาไปดูกรณีศึกษาของบุคคล ที่เรียกได้ว่า กลายเป็นมหาเศรษฐี ด้วยการเริ่มต้นจากการเป็นพนักงานกัน
โดยบุคคลที่ว่านั้นก็คือ..
1. Sundar Pichai - CEO ของบริษัท Alphabet
Sundar Pichai เข้าทำงานกับ Google ตั้งแต่ปี 2004 โดยเริ่มมาจากการเป็นผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น Google Chrome รวมไปถึงระบบปฏิบัติการ Android
จนต่อมาเขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเอง และไต่เต้าขึ้นมาเป็น CEO ได้ในปี 2015
ซึ่งถ้ามาดูจากผลงานที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็น CEO
มูลค่าบริษัทของ Alphabet นั้นเติบโตขึ้นกว่า 360%
จนต่อมาเขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเอง และไต่เต้าขึ้นมาเป็น CEO ได้ในปี 2015
ซึ่งถ้ามาดูจากผลงานที่ผ่านมานับตั้งแต่เขาขึ้นมาเป็น CEO
มูลค่าบริษัทของ Alphabet นั้นเติบโตขึ้นกว่า 360%
และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เขาขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีได้นั้นก็มาจากการได้รับ Stock Awards หรือรางวัลเป็นหุ้นนั่นเอง
ซึ่งในปี 2019 ทางสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่าเขาเป็น CEO ที่มีรายได้มากสุดเป็นอันดับที่ 8 ของโลก
โดยแบ่งเป็น Stock Awards เฉพาะในปีนั้นถึง 82.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท
และค่าจ้างรายปีที่ 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2,621 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็น Stock Awards เฉพาะในปีนั้นถึง 82.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,600 ล้านบาท
และค่าจ้างรายปีที่ 650,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21 ล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2,621 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้เขาก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นอยู่หลายครั้ง อย่างในปี 2014 ที่เขาได้ผลตอบแทนเป็นหุ้นมูลค่ากว่า 8,180 ล้านบาท และอีก 2 ครั้งในปีต่อ ๆ มารวมอีกกว่า 9,800 ล้านบาท
ทำให้เมื่อรวมกับรางวัลหุ้นที่ได้ในอดีต ส่งผลให้ปัจจุบัน เขาได้ขึ้นแท่นเป็นเศรษฐีพันล้าน (Billionaire) โดยมีทรัพย์สินรวมอยู่ที่ประมาณ 42,000 ล้านบาท อ้างอิงจากเว็บไซต์ Nationalworld ณ เดือนมิถุนายน
2. Sheryl Sandberg - COO ของ Meta (Facebook)
Facebook หรือ Meta ในปัจจุบันก็ถือเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ก่อให้เกิดมหาเศรษฐีมากมาย
ซึ่งนอกจากผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว หนึ่งในนั้นก็ยังมีพนักงานด้วย
ซึ่งนอกจากผู้ร่วมก่อตั้งแล้ว หนึ่งในนั้นก็ยังมีพนักงานด้วย
Sandberg นั้นเคยทำงานที่ Google มาก่อน โดยดำรงตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายและโฆษณา
และได้ฝากผลงานไว้มากมาย จนทีมฝ่ายขายและโฆษณาสามารถเติบโตขึ้นจาก 4 คนเป็น 4,000 คน
และได้ฝากผลงานไว้มากมาย จนทีมฝ่ายขายและโฆษณาสามารถเติบโตขึ้นจาก 4 คนเป็น 4,000 คน
แต่ในปี 2007 เธอก็ได้พบเจอกับ Mark Zuckerberg แล้วเขาก็ได้มีโอกาสชวนเธอไปร่วมงานด้วย
โดยในปี 2008 Sandberg ได้เข้ามาร่วมงานกับ Facebook ในฐานะ COO หรือ Chief Operating Officer ซึ่งรับหน้าที่เกี่ยวกับ การดูแลระบบหลังบ้านของ Facebook และก็ยังคงดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปัจจุบัน
โดยในปี 2008 Sandberg ได้เข้ามาร่วมงานกับ Facebook ในฐานะ COO หรือ Chief Operating Officer ซึ่งรับหน้าที่เกี่ยวกับ การดูแลระบบหลังบ้านของ Facebook และก็ยังคงดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปัจจุบัน
โดย Sandberg ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากในการสร้างการเติบโตของบริษัทนี้
อย่างการสร้างโมเดลธุรกิจสร้างรายได้จากโฆษณา จน Facebook สามารถทำกำไรได้ครั้งแรกในปี 2010
ซึ่งนับตั้งแต่เธอร่วมงานกับ Facebook เธอก็ได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นอยู่หลายครั้ง
อย่างการสร้างโมเดลธุรกิจสร้างรายได้จากโฆษณา จน Facebook สามารถทำกำไรได้ครั้งแรกในปี 2010
ซึ่งนับตั้งแต่เธอร่วมงานกับ Facebook เธอก็ได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นอยู่หลายครั้ง
ซึ่งพอรวมตั้งแต่ก่อนบริษัทจะเข้าตลาดหลักทรัพย์จนมาถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ Sandberg กลายเป็น “มหาเศรษฐินี” และมีทรัพย์สินรวมกว่า 62,000 ล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม
ก็มี CEO ที่เริ่มต้นจากการเป็นพนักงาน ที่โชว์ผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 33,000 ล้านบาท เช่นกัน
ก็มี CEO ที่เริ่มต้นจากการเป็นพนักงาน ที่โชว์ผลงานได้อย่างเยี่ยมยอด
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ถือว่าเป็นเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือบุคคลที่มีทรัพย์สินมากกว่า 33,000 ล้านบาท เช่นกัน
อย่างเช่น CEO คนล่าสุดของ Amazon.com อย่างคุณ Andy Jassy
ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นส่วนสำคัญในการปลุกปั้น AWS - Amazon Web Services
ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Amazon.com ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้
ที่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นส่วนสำคัญในการปลุกปั้น AWS - Amazon Web Services
ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Amazon.com ยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้
แต่นับตั้งแต่ที่เขาอยู่กับ Amazon.com มาเป็นเวลากว่า 24 ปี
ปัจจุบันเขามีหุ้น Amazon.com อยู่ในมือเพียง 81,500 หุ้น
หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท
ปัจจุบันเขามีหุ้น Amazon.com อยู่ในมือเพียง 81,500 หุ้น
หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท
เมื่อรวมกับสินทรัพย์และการลงทุนอื่น ๆ ส่งผลให้ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินรวมทั้งหมดประมาณ 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่แตะระดับที่จะเป็น Billionaire
และอีกคนก็คือ Satya Nadella CEO ของ Microsoft ที่ถึงแม้จะเป็นผู้ช่วยปลุกปั้นอาณาจักร Microsoft ให้เติบโตมาไกลมาก
แต่ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,000 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 8,000 ล้านบาทเท่านั้น
แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้ขึ้นแท่นมหาเศรษฐี
แต่ก็ต้องบอกว่า รายได้ของพวกเขานั้น ไม่ได้น้อยหน้าเจ้าของบริษัทหลาย ๆ แห่งเลย
และพวกเขาก็อาจพอใจแล้ว กับความสำเร็จ ณ ระดับนี้..
แต่ก็ต้องบอกว่า รายได้ของพวกเขานั้น ไม่ได้น้อยหน้าเจ้าของบริษัทหลาย ๆ แห่งเลย
และพวกเขาก็อาจพอใจแล้ว กับความสำเร็จ ณ ระดับนี้..
ทีนี้หลายคนอาจจะคิดว่า ต้องเป็นเพียงผู้บริหารระดับสูงเท่านั้นถึงจะได้มีโอกาสเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท หรือได้รับผลตอบแทนในรูปแบบนี้
แต่จริง ๆ แล้วจะเห็นว่า มีหลายคนเหมือนกัน ที่เริ่มต้นจากการเป็นพนักงานของบริษัท
แต่ไต่เต้าขึ้นมา จนเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกได้
แต่ไต่เต้าขึ้นมา จนเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกได้
และความจริงแล้วการให้ผลตอบแทนเป็นหุ้นนั้นมีมานานแล้ว
และไม่ได้มีเพียงผู้บริหารที่ได้เท่านั้น แต่รวมไปถึง นักกีฬาอาชีพ วิศวกรซอฟต์แวร์ของบริษัทเทคโนโลยี ผู้จัดการหรือหุ้นส่วนของวาณิชธนกิจ
และไม่ได้มีเพียงผู้บริหารที่ได้เท่านั้น แต่รวมไปถึง นักกีฬาอาชีพ วิศวกรซอฟต์แวร์ของบริษัทเทคโนโลยี ผู้จัดการหรือหุ้นส่วนของวาณิชธนกิจ
และยังรวมไปถึงพนักงานที่ได้เลื่อนขั้นเป็นหุ้นส่วนของบริษัทตรวจสอบบัญชีหรือที่ปรึกษาอีกหลายแห่ง ก็มีโอกาสกลายเป็นมหาเศรษฐี ได้เช่นกัน..
References
-https://www.nationalworld.com/arts-and-culture/film-and-tv/sundar-pichai-salary-net-worth-and-career-history-of-google-ceo-explained-and-who-is-his-wife-anjali-pichai-3305097
-https://www.bloomberg.com/graphics/2020-highest-paid-ceos/
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1652044/000130817920000203/lgoog2020_def14a.htm
-https://www.theverge.com/2019/12/20/21031629/google-ceo-sundar-pichai-pay-package-amount-alphabet-compensation-stock
-https://www.nationalworld.com/arts-and-culture/film-and-tv/sundar-pichai-salary-net-worth-and-career-history-of-google-ceo-explained-and-who-is-his-wife-anjali-pichai-3305097
-https://www.forbes.com/profile/sheryl-sandberg/?sh=6edfa4b158b6
-https://www.forbes.com/sites/laurendebter/2021/02/03/andy-jassy-owns-more-amazon-stock-than-any-employee-except-jeff-bezos-and-hes-still-not-a-billionaire/?sh=7f9b32a151af
-https://www.inc.com/quora/they-say-youll-never-get-rich-working-as-an-employee-but-they-are-wrong.html
-https://finance.yahoo.com/news/much-satya-nadella-worth-165542428.html
-https://www.nationalworld.com/arts-and-culture/film-and-tv/sundar-pichai-salary-net-worth-and-career-history-of-google-ceo-explained-and-who-is-his-wife-anjali-pichai-3305097
-https://www.bloomberg.com/graphics/2020-highest-paid-ceos/
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1652044/000130817920000203/lgoog2020_def14a.htm
-https://www.theverge.com/2019/12/20/21031629/google-ceo-sundar-pichai-pay-package-amount-alphabet-compensation-stock
-https://www.nationalworld.com/arts-and-culture/film-and-tv/sundar-pichai-salary-net-worth-and-career-history-of-google-ceo-explained-and-who-is-his-wife-anjali-pichai-3305097
-https://www.forbes.com/profile/sheryl-sandberg/?sh=6edfa4b158b6
-https://www.forbes.com/sites/laurendebter/2021/02/03/andy-jassy-owns-more-amazon-stock-than-any-employee-except-jeff-bezos-and-hes-still-not-a-billionaire/?sh=7f9b32a151af
-https://www.inc.com/quora/they-say-youll-never-get-rich-working-as-an-employee-but-they-are-wrong.html
-https://finance.yahoo.com/news/much-satya-nadella-worth-165542428.html