สรุปกลยุทธ์ขยายธุรกิจ จากจำนำทะเบียนรถ สู่ Buy Now Pay Later ของ ศรีสวัสดิ์
18 พ.ย. 2021
สรุปกลยุทธ์ขยายธุรกิจ จากจำนำทะเบียนรถ สู่ Buy Now Pay Later ของ ศรีสวัสดิ์ | THE BRIEFCASE
ถ้าพูดถึงกลุ่มธุรกิจ Non-Bank รายใหญ่ในประเทศไทย
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงรู้จัก ศรีสวัสดิ์ กันเป็นอย่างดี
ศรีสวัสดิ์ เริ่มต้นจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อเล็ก ๆ ในจังหวัดเพชรบูรณ์
จนกลายมาเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท
และยืนหยัดทำธุรกิจมายาวนานถึง 42 ปี
ที่น่าสนใจก็คือในตอนนี้ ศรีสวัสดิ์ กำลังขยับตัวเข้าสู่ธุรกิจ Buy Now Pay Later ที่คาดว่าจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้
เรื่องราวความเป็นมาของ ศรีสวัสดิ์ เป็นอย่างไร
และการขยับตัวเข้าสู่ธุรกิจ Buy Now Pay Later น่าสนใจอย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ศรีสวัสดิ์ เริ่มต้นทำธุรกิจมาจากการให้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ทางการเกษตรในจังหวัดเพชรบูรณ์
ธุรกิจนี้ทำได้ยากมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้า คือ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างยากลำบาก
พอจะออกกฎเข้มงวดก็จะทำให้เสียลูกค้า แต่ถ้าผ่อนปรนเกินไป ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้สูญ
และเมื่อทำธุรกิจไปได้สักระยะ ตลาดให้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ก็เล็กลงเรื่อย ๆ
ศรีสวัสดิ์จึงเริ่มหาทางออกด้วยการ เปลี่ยนจากลูกค้าเกษตรกรรมมาเป็นลูกค้าจักรยานยนต์
โดยศรีสวัสดิ์สังเกตเห็นว่า มีคนที่ต้องการจะกู้เงินจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารได้
ประกอบกับการสังเกตว่าต่างจังหวัด ชาวบ้านจะมีรถจักรยานยนต์กันเป็นจำนวนมาก
และเล่มทะเบียนของรถจักรยานยนต์น่าจะใช้เป็นหลักประกันได้ จึงเกิดเป็น ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขึ้นมา
ซึ่งธุรกิจนี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย จนไม่สามารถหาเงินมาปล่อยกู้ได้ทัน
ศรีสวัสดิ์จึงต้องมองหาช่องทางการระดมทุนใหม่ นั่นก็คือ การนำบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
ศรีสวัสดิ์สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจด้วยการขยายสาขา จากเงินทุนที่ได้มา
เพราะหัวใจของธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกัน คือ การมีสาขาเป็นหน้าร้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่เข้ามากู้เงิน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ธุรกิจจะค่อนข้างประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
แต่ความเสี่ยงของธุรกิจประเภทนี้ก็มีเช่นเดียวกัน
เนื่องจากศรีสวัสดิ์เป็นเจ้าแรก ๆ ในตลาดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
การจะหาบุคลากรเก่ง ๆ และเข้าใจธุรกิจจริง ๆ เข้ามาร่วมงานจึงเป็นเรื่องยาก
ทำให้ในช่วงแรก ศรีสวัสดิ์ประสบกับปัญหาขาดแคลนพนักงานที่มีฝีมือ
คุณฉัตรชัย แก้วบุตตา ผู้บริหารศรีสวัสดิ์จึงต้องทุ่มเทกับพนักงานที่มีอยู่ให้เก่งที่สุด
เพื่อให้พนักงานเหล่านี้เป็นหัวหอกรายต่อไปในการฝึกฝนพนักงานคนอื่น ๆ ให้เก่งขึ้น
และสร้างการเจริญเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต
แต่สุดท้ายแล้ว การขาดแคลนพนักงานก็ไม่ใช่ความเสี่ยงเดียวที่ศรีสวัสดิ์ต้องเจอ
เพราะธุรกิจนี้ ยังมีความเสี่ยงอีกหลาย ๆ อย่างด้วย
เรื่องนี้ ทำให้ศรีสวัสดิ์ต้องปรับโครงสร้างบริษัท ด้วยการแปรสภาพศรีสวัสดิ์เป็นธุรกิจ Holdings และกระจายกลุ่มธุรกิจออกมาเป็นบริษัทย่อย และใช้ศรีสวัสดิ์เข้าไปถือหุ้นแทน
ซึ่งกลยุทธ์การแปรสภาพเป็น Holdings เข้าไปถือบริษัทย่อยก็มีข้อดี คือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับธุรกิจย่อย จะทำให้ธุรกิจใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
และการกระจายออกเป็นหลาย ๆ กลุ่มบริษัท ทำให้มีโอกาสดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมงานได้มากขึ้น
เพราะให้ผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับความสามารถได้
ภายหลังจากการปรับโครงสร้างบริษัทแล้ว การทำธุรกิจก็คล่องตัวมากขึ้น
เช่น การจับมือกับธนาคารออมสิน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
หรือการเตรียมความพร้อมนำบริษัทในเครือจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
บริษัทที่ว่านี้ก็คือ AMC ซึ่งทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร และธุรกิจ Buy Now Pay Later หรือ ธุรกิจซื้อก่อนผ่อนทีหลัง
โดยธุรกิจ Buy Now Pay Later เกิดมาจากการที่ศรีสวัสดิ์เห็นเทรนด์ของธุรกิจนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ
และในส่วนของประเทศไทยเอง ก็มีช่องว่างในการทำธุรกิจได้
เช่น มีคนจำนวนมากอยากซื้อประกัน แต่ไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวได้
ศรีสวัสดิ์จึงเข้ามาแก้ Pain Point เรื่องนี้ด้วยการ ออกประกันรถยนต์ แบบ Buy Now Pay Later
คือ สามารถซื้อประกันรถยนต์และผ่อนจ่าย 12 งวดได้
ซึ่งวิธีนี้ ก็จะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่มีเงินก้อนพร้อมอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Buy Now Pay Later เช่นกัน
โดยศรีสวัสดิ์จะเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะไปเติมเต็มความต้องการอื่น ๆ ของลูกค้าได้
ซึ่งการรุกสู่ธุรกิจอื่น ๆ นี่เอง ที่เป็นกลยุทธ์สร้างการเติบโตที่สำคัญ
และสามารถทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น และยาวนานขึ้น
เพราะไม่ว่าลูกค้าจะต้องการอะไร เช่น สินเชื่อ ประกัน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็แค่มาที่สาขาศรีสวัสดิ์ ลูกค้าก็จะได้สิ่งที่ต้องการ ครบ จบ ภายในที่เดียว
สุดท้ายนี้ กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก็คือ
การจับทางธุรกิจให้ถูก รู้ตัวว่าเราเก่งอะไร และขยายธุรกิจจากสิ่งที่เราเก่งนั้น
เพื่อให้เติบโตได้อย่างมั่นใจและแข็งแกร่งในอนาคต..
Reference
-วิดีโอสัมภาษณ์ คุณฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และ คุณวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล และ กรรมการ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น โดยเพจ THE BRIEFCASE
ถ้าพูดถึงกลุ่มธุรกิจ Non-Bank รายใหญ่ในประเทศไทย
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงรู้จัก ศรีสวัสดิ์ กันเป็นอย่างดี
ศรีสวัสดิ์ เริ่มต้นจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อเล็ก ๆ ในจังหวัดเพชรบูรณ์
จนกลายมาเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท
และยืนหยัดทำธุรกิจมายาวนานถึง 42 ปี
ที่น่าสนใจก็คือในตอนนี้ ศรีสวัสดิ์ กำลังขยับตัวเข้าสู่ธุรกิจ Buy Now Pay Later ที่คาดว่าจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้
เรื่องราวความเป็นมาของ ศรีสวัสดิ์ เป็นอย่างไร
และการขยับตัวเข้าสู่ธุรกิจ Buy Now Pay Later น่าสนใจอย่างไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ศรีสวัสดิ์ เริ่มต้นทำธุรกิจมาจากการให้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ทางการเกษตรในจังหวัดเพชรบูรณ์
ธุรกิจนี้ทำได้ยากมาก เนื่องจากกลุ่มลูกค้า คือ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ทำให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างยากลำบาก
พอจะออกกฎเข้มงวดก็จะทำให้เสียลูกค้า แต่ถ้าผ่อนปรนเกินไป ก็มีโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้สูญ
และเมื่อทำธุรกิจไปได้สักระยะ ตลาดให้เช่าซื้อรถแทรกเตอร์ก็เล็กลงเรื่อย ๆ
ศรีสวัสดิ์จึงเริ่มหาทางออกด้วยการ เปลี่ยนจากลูกค้าเกษตรกรรมมาเป็นลูกค้าจักรยานยนต์
โดยศรีสวัสดิ์สังเกตเห็นว่า มีคนที่ต้องการจะกู้เงินจำนวนมาก แต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้จากธนาคารได้
ประกอบกับการสังเกตว่าต่างจังหวัด ชาวบ้านจะมีรถจักรยานยนต์กันเป็นจำนวนมาก
และเล่มทะเบียนของรถจักรยานยนต์น่าจะใช้เป็นหลักประกันได้ จึงเกิดเป็น ธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถขึ้นมา
ซึ่งธุรกิจนี้ก็ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย จนไม่สามารถหาเงินมาปล่อยกู้ได้ทัน
ศรีสวัสดิ์จึงต้องมองหาช่องทางการระดมทุนใหม่ นั่นก็คือ การนำบริษัทจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
ศรีสวัสดิ์สร้างการเติบโตให้กับธุรกิจด้วยการขยายสาขา จากเงินทุนที่ได้มา
เพราะหัวใจของธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกัน คือ การมีสาขาเป็นหน้าร้าน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนที่เข้ามากู้เงิน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ธุรกิจจะค่อนข้างประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
แต่ความเสี่ยงของธุรกิจประเภทนี้ก็มีเช่นเดียวกัน
เนื่องจากศรีสวัสดิ์เป็นเจ้าแรก ๆ ในตลาดที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
การจะหาบุคลากรเก่ง ๆ และเข้าใจธุรกิจจริง ๆ เข้ามาร่วมงานจึงเป็นเรื่องยาก
ทำให้ในช่วงแรก ศรีสวัสดิ์ประสบกับปัญหาขาดแคลนพนักงานที่มีฝีมือ
คุณฉัตรชัย แก้วบุตตา ผู้บริหารศรีสวัสดิ์จึงต้องทุ่มเทกับพนักงานที่มีอยู่ให้เก่งที่สุด
เพื่อให้พนักงานเหล่านี้เป็นหัวหอกรายต่อไปในการฝึกฝนพนักงานคนอื่น ๆ ให้เก่งขึ้น
และสร้างการเจริญเติบโตให้กับบริษัทในอนาคต
แต่สุดท้ายแล้ว การขาดแคลนพนักงานก็ไม่ใช่ความเสี่ยงเดียวที่ศรีสวัสดิ์ต้องเจอ
เพราะธุรกิจนี้ ยังมีความเสี่ยงอีกหลาย ๆ อย่างด้วย
เรื่องนี้ ทำให้ศรีสวัสดิ์ต้องปรับโครงสร้างบริษัท ด้วยการแปรสภาพศรีสวัสดิ์เป็นธุรกิจ Holdings และกระจายกลุ่มธุรกิจออกมาเป็นบริษัทย่อย และใช้ศรีสวัสดิ์เข้าไปถือหุ้นแทน
ซึ่งกลยุทธ์การแปรสภาพเป็น Holdings เข้าไปถือบริษัทย่อยก็มีข้อดี คือ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับธุรกิจย่อย จะทำให้ธุรกิจใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
และการกระจายออกเป็นหลาย ๆ กลุ่มบริษัท ทำให้มีโอกาสดึงคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมงานได้มากขึ้น
เพราะให้ผลตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกับความสามารถได้
ภายหลังจากการปรับโครงสร้างบริษัทแล้ว การทำธุรกิจก็คล่องตัวมากขึ้น
เช่น การจับมือกับธนาคารออมสิน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
หรือการเตรียมความพร้อมนำบริษัทในเครือจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
บริษัทที่ว่านี้ก็คือ AMC ซึ่งทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร และธุรกิจ Buy Now Pay Later หรือ ธุรกิจซื้อก่อนผ่อนทีหลัง
โดยธุรกิจ Buy Now Pay Later เกิดมาจากการที่ศรีสวัสดิ์เห็นเทรนด์ของธุรกิจนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศ
และในส่วนของประเทศไทยเอง ก็มีช่องว่างในการทำธุรกิจได้
เช่น มีคนจำนวนมากอยากซื้อประกัน แต่ไม่สามารถจ่ายค่าเบี้ยประกันเป็นเงินก้อนใหญ่ทีเดียวได้
ศรีสวัสดิ์จึงเข้ามาแก้ Pain Point เรื่องนี้ด้วยการ ออกประกันรถยนต์ แบบ Buy Now Pay Later
คือ สามารถซื้อประกันรถยนต์และผ่อนจ่าย 12 งวดได้
ซึ่งวิธีนี้ ก็จะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เนื่องจากลูกค้าจะไม่ใช่แค่กลุ่มคนที่มีเงินก้อนพร้อมอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังมีธุรกิจ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบ Buy Now Pay Later เช่นกัน
โดยศรีสวัสดิ์จะเข้ามาเป็นผู้จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งจะไปเติมเต็มความต้องการอื่น ๆ ของลูกค้าได้
ซึ่งการรุกสู่ธุรกิจอื่น ๆ นี่เอง ที่เป็นกลยุทธ์สร้างการเติบโตที่สำคัญ
และสามารถทำให้บริษัทมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น และยาวนานขึ้น
เพราะไม่ว่าลูกค้าจะต้องการอะไร เช่น สินเชื่อ ประกัน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็แค่มาที่สาขาศรีสวัสดิ์ ลูกค้าก็จะได้สิ่งที่ต้องการ ครบ จบ ภายในที่เดียว
สุดท้ายนี้ กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จก็คือ
การจับทางธุรกิจให้ถูก รู้ตัวว่าเราเก่งอะไร และขยายธุรกิจจากสิ่งที่เราเก่งนั้น
เพื่อให้เติบโตได้อย่างมั่นใจและแข็งแกร่งในอนาคต..
Reference
-วิดีโอสัมภาษณ์ คุณฉัตรชัย แก้วบุตตา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และ คุณวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บจ. ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล และ กรรมการ บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น โดยเพจ THE BRIEFCASE