สรุปกลยุทธ์ ที่ทำให้ Decathlon ขายสินค้าคุณภาพดีได้ ในราคาสมเหตุสมผล

สรุปกลยุทธ์ ที่ทำให้ Decathlon ขายสินค้าคุณภาพดีได้ ในราคาสมเหตุสมผล

21 พ.ย. 2021
สรุปกลยุทธ์ ที่ทำให้ Decathlon ขายสินค้าคุณภาพดีได้ ในราคาสมเหตุสมผล | THE BRIEFCASE
หากพูดถึงร้านขายอุปกรณ์กีฬาใหญ่ ๆ ในไทย
หลายปีมานี้ หลายคนคงคุ้นชื่อ Decathlon มากขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะแบรนด์ฝรั่งเศสรายนี้ เข้ามาตั้งสาขาแรกในไทยตั้งแต่ปี 2542 และขยายสาขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้มีหลายสิบสาขาแล้วในไทย
โดยจุดเริ่มต้นของอาณาจักรขายอุปกรณ์กีฬาแห่งนี้
เริ่มจากที่ คุณ Michel Leclercq และเพื่อนอีก 6 คน มีไอเดียอยากเห็นร้านขนาดใหญ่ที่ขายเพียงอุปกรณ์กีฬาอย่างเดียว และอยากให้ทุกคนได้เข้าถึงอุปกรณ์คุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล
ยกตัวอย่างคร่าว ๆ ให้เห็นภาพ
ถ้าเราต้องการจะซื้อแว่นตาว่ายน้ำสักอันหนึ่ง ถ้าเราซื้อจากแบรนด์ดัง อย่างเช่น SPEEDO เราอาจต้องจ่ายหลักพันบาท
แต่ถ้าเราซื้อที่ Decathlon เราสามารถจ่ายแค่หลักร้อยบาทต้น ๆ พร้อมทั้งได้สินค้าในระดับคุณภาพที่เหมาะสมกับราคา
ปี 1976 Decathlon สาขาแรกก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในตอนเหนือของฝรั่งเศส
มาถึงปี 2020 Decathlon เติบโตขึ้นมาก จนมีสาขากว่า 1,700 สาขา ใน 60 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ที่น่าสนใจก็คือ Decathlon ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของสินค้าที่มีคุณภาพดี ในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ จนกลายมาเป็นจุดเด่นมาก ๆ ในวันนี้
โดยเรื่องน่าสนใจก็คือ Decathlon จะเน้นขายสินค้าที่เป็น House Brand หรือก็คือแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง ซึ่งก็มีมากถึง 85 แบรนด์
ซึ่งข้อได้เปรียบของการเน้นขาย House Brand แบบนี้ คือบริษัทจะควบคุมคุณภาพสินค้า ให้เป็นไปตามความต้องการได้ง่ายขึ้นด้วย
แล้ว Decathlon มีกลยุทธ์อย่างไร
ถึงทำให้ขายสินค้าคุณภาพดีได้ ในราคาที่สมเหตุสมผล ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
1. ให้ความสำคัญกับ การวิจัยและพัฒนา (R&D) เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบ
Decathlon มีศูนย์วิจัยและพัฒนาที่มีบุคลากรที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกีฬาประเภทนั้น และที่ตั้งของศูนย์วิจัยอยู่ใกล้สภาพแวดล้อมตามแต่กีฬาแต่ละประเภท
เช่น มีศูนย์วิจัยใกล้กับเทือกเขา Mont Blanc ในประเทศฝรั่งเศส เพื่อออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอุปกรณ์ปีนเขา ตั้งแคมป์ เดินป่าต่าง ๆ
2. ฟังคำแนะนำจากลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตอบโจทย์อยู่เสมอ
Decathlon เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถแสดงความเห็น แนะนำ และติชมผลิตภัณฑ์ได้ หลังจากที่ลูกค้าได้ลองใช้ เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
Decathlon ยังเรียกพนักงานขายว่า Sport Leader
ทำให้ภาพลักษณ์การขายของพนักงาน Decathlon ดูมีกิมมิก และมีความหลงใหลในกีฬาประเภทต่าง ๆ คอยแนะนำสินค้า วิธีการใช้งานสินค้า รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า ทำให้สามารถเก็บข้อมูลจากประสบการณ์โดยตรงได้ เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น
3. ไม่ใช้ Influencer มาโฆษณาสินค้า แต่เน้นสร้างการรับรู้ ด้วยคุณภาพสินค้าเอง
Decathlon จะไม่ใช้งบโฆษณาการตลาดกับการจ้างนักกีฬาที่มีชื่อเสียง โดยการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ทำให้ไม่ต้องผลักภาระส่วนนี้ไปให้กับลูกค้า
เรื่องนี้ถือเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับราคาที่สมเหตุสมผลไว้ได้
อีกทั้งยังคงภาพลักษณ์อุปกรณ์กีฬาที่ทุกคนเข้าถึงได้
เพราะการที่ไม่ใช้ Influencer ยังมีส่วนทำให้ลูกค้าส่วนมากรู้สึกถึงความ Friendly ของสินค้า รู้สึกเข้าถึงได้ง่าย
4. เน้นทำสินค้าไม่มีบรรจุภัณฑ์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางอ้อม
Decathlon ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยใช้วิธี อย่างเช่น เมื่อลูกค้าซื้อรองเท้าคู่หนึ่ง ก็จะได้แค่รองเท้า ไม่มีกล่องให้
ซึ่งการทำแบบนี้ ก็ถือเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง และเป็นไปตามความตั้งใจของบริษัท อีกทั้งยังเป็นการลดต้นทุนสินค้าลง ตั้งราคาได้ถูกลงด้วย
5. สร้าง Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพ แล้วต้นทุนจะลดเอง
Decathlon จะมองหา Supplier ที่สามารถเป็นคู่ค้ากันได้ในระยะยาว และดีที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น ๆ เพื่อให้ดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่น และได้สินค้าที่มีคุณภาพ ทนทานต่อการใช้งาน
นอกจากนั้น บริษัทยังมีการลงทุนระบบขนส่งเอง เพื่อกระจายสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงยังมีหน้าร้านสาขาเป็นของตัวเอง ซึ่งช่วยให้บริหารค่าใช้จ่ายได้ง่าย
และนี่ก็คือเหตุผลที่ Decathlon สามารถรักษาเอกลักษณ์ของสินค้าที่มีคุณภาพดี
ราคาสมเหตุสมผล ตามความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง มานานกว่า 45 ปี..
References
-https://sustainability.decathlon.com
-https://www.decathlon.com/blogs/inside-decathlon/how-do-we-make-our-prices-so-affordable
-https://drive.google.com/file/d/11AhSOhgUoJkWyDfRgEewLMKsqlvyNJMc/view
-https://sustainability.decathlon.com/passion-sports-sports-passion
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.