สรุปกลยุทธ์ ของร้านตำนานอาหารเช้า “ออน ล๊อก หยุ่น”

สรุปกลยุทธ์ ของร้านตำนานอาหารเช้า “ออน ล๊อก หยุ่น” | THE BRIEFCASE
รู้หรือไม่ ? ร้านอาหารเช้าที่ชื่อว่า “ออน ล๊อก หยุ่น” ร้านอาหารเช้าขวัญใจคนกรุง ที่ตั้งอยู่บริเวณ “วังบูรพาภิรมย์” เป็นธุรกิจที่อยู่มายาวนานกว่า 4 รุ่นแล้ว ซึ่งการที่ทำธุรกิจร้านอาหารแล้วอยู่มาได้ยาวนานขนาดนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
แล้วถ้าถามว่าท้าทายขนาดไหน ?
ก็ถึงขนาดที่มีคนพูดกันว่า “รุ่นหนึ่งสร้าง รุ่นสองรักษา รุ่นสามทำลาย”
เพราะการทำธุรกิจแบบส่งผ่านกันรุ่นสู่รุ่น มักจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารกันภายในครอบครัว ช่องว่างระหว่างช่วงวัย ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ และปัจจัยอีกมากมาย ดังนั้นการทำให้ธุรกิจอยู่ได้ถึง 4 รุ่นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก
แต่ ออน ล๊อก หยุ่น กลับทำได้ จนกลายเป็นตำนานร้านอาหารเช้าอายุกว่า 80 ปี
และปัจจุบันก็ตกอยู่ในความดูแลของทายาทรุ่น 3 และรุ่น 4
นั่นคือ คุณสมบัติ ทยานุกูล ทายาทรุ่น 3, คุณวัชราภรณ์ ทยานุกูล และคุณอภิรัตน์ ทยานุกูล ทายาทรุ่น 4
อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ออน ล๊อก หยุ่น ยังฮอตฮิตอยู่ถึงทุกวันนี้
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง..
1. ตอนสร้างธุรกิจ รู้ว่าอะไรคือกระแส และดึงเทรนด์นั้นมาเป็นจุดเด่น
ออน ล๊อก หยุ่น เป็นร้านที่เติบโตมาพร้อม ๆ กับยุค 1960s หรือยุคเฟื่องฟูของ เอลวิส เพรสลีย์
ทำให้การตกแต่งร้านจะออกมาในรูปแบบสภากาแฟ ใช้เก้าอี้ไม้และโต๊ะกลม เพื่อให้มีพื้นที่สำหรับการล้อมวงพูดคุยกันในทุกเช้า
ส่วนที่ตั้งของร้าน ตั้งอยู่บริเวณ “วังบูรพาภิรมย์” ซึ่งเป็นแหล่งรวมวัยรุ่นชาย-หญิง ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น อีกทั้งยังเป็นจุดรวมตัวของเหล่าบรรดานักแสดงและแมวมอง ที่ชอบมานั่งดื่มกาแฟกันที่ร้าน เพราะเป็นร้านกาแฟที่ดังที่สุดในยุคโก๋หลังวัง
และสาเหตุที่เรียกว่า ยุคโก๋หลังวัง เพราะสมัยนั้นมีภาพยนตร์ไทยย้อนยุค เรื่อง โก๋หลังวัง ออกฉาย และได้รับกระแสตอบรับอย่างดี โดยเนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับวิถีชีวิตของวัยรุ่นไทยในยุค 1960s ที่นิยมมาเที่ยวเล่นในแถบย่านวังบูรพา มักจะแต่งตัวดูดี และนิยมฟังเพลงตะวันตกของ เอลวิส เพรสลีย์
ดังนั้นทุกคนจึงเปรียบย่านวังบูรพา ว่าเป็นแหล่งรวมของโก๋หลังวัง
เมื่อ ออน ล๊อก หยุ่น นำเทรนด์ในสมัยนั้นมาเป็นไอเดียธุรกิจ และตกแต่งร้าน รวมไปถึงเลือกทำเลทองที่เป็นแหล่งรวมของวัยรุ่น จึงทำให้ ออน ล๊อก หยุ่น กลายเป็นร้านที่โด่งดังตั้งแต่สมัยนั้น
2. คงความคลาสสิก หรือจุดเด่นที่หาได้ยากจากแบรนด์อื่น
เมื่อธุรกิจถูกส่งไม้ต่อให้กับรุ่นลูกหลาน ทุก ๆ คนก็พยายามรักษาเอกลักษณ์และสิ่งเดิมที่ดีของแบรนด์เอาไว้ และจะพยายามปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับลูกค้าในยุคสมัยใหม่
ซึ่งคอนเซปต์ของร้านก็ยังเหมือนเดิม คือไม่ได้ขายแค่อาหารเช้า แต่ขายความรู้สึกของ “เช้าวันใหม่” ที่ทำให้ลูกค้าได้มีความสุขไปกับการกิน ทั้งจากบรรยากาศร้านที่มีความคลาสสิกและเมนูอาหารที่ยังเป็นเมนูยอดนิยม
เช่น ขนมปังชุบไข่ ที่หาทานได้ที่นี่ที่เดียว, ไข่กวน ไข่ดาว แฮม เบคอน กุนเชียง, กาแฟ ที่คั่วเอง 100%, ไข่ลวก
ดังนั้นหากใครที่มาร้านนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว รสชาติอาหาร คุณภาพ และบรรยากาศ ก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ส่วนในช่วงโควิด 19 ทางร้านก็มีการปรับสูตรและเมนู เพื่อให้เหมาะสมกับการทำดิลิเวอรีให้กับลูกค้า
เช่น ออกเมนูข้าวไข่เจียวไส้กรอก กล่องละ 30 บาท ซึ่งเป็นเมนูที่ทางร้านไม่เคยทำมาก่อน แต่กลับได้ผลตอบรับที่ดี จนมีคนรีวิวในทวิตเตอร์มากมาย
3. คุณภาพอาหาร คืออีกสิ่งสำคัญที่ทำให้รักษาธุรกิจไว้ได้
ถึงแม้บางคนจะรู้สึกว่า เมนูในออน ล๊อก หยุ่น จะเป็นเมนูที่ดูธรรมดา ทำกินเองก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่า ทางร้านใส่ใจกับทุกรายละเอียดของเมนู ขนาดเมนู “ไข่ลวก” ถ้าทางร้านตอกแล้วไข่แดงแตก ก็จะไม่เสิร์ฟให้ลูกค้า เพราะอาจจะทำให้มีกลิ่นคาว
และเมนูน้ำชา ที่ถึงแม้จะให้ลูกค้าดื่มฟรีที่ร้าน แต่ทางร้านก็จะมีสูตรลับ และใช้ใบชาจริงมาผสมกัน เพื่อให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม
โดยสรุปก็คือ สิ่งที่ทำให้ออน ล๊อก หยุ่น เดินมาได้ถึง 4 รุ่น เพราะความสามารถในการสร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจ และรุ่นต่อมา ก็ไม่ละทิ้งแก่นแท้ของแบรนด์ คือความเป็นยุค 1960s แต่ก็ไม่ได้ยึดติดกับสิ่งเก่า มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย
และที่สำคัญความใส่ใจในคุณภาพของอาหาร จนทำให้ลูกค้ารู้สึกมีความสุขกับเช้าวันใหม่ คือสิ่งที่ทำให้ออน ล๊อก หยุ่น ยังอยู่ในใจลูกค้ามาตลอด 80 ปี..
References
-บทความจากเพจ MarketThink
-https://bit.ly/3cwBPVP
-https://bit.ly/3HsYi4j
-https://www.youtube.com/watch?v=UZjUNzww4IQ