รู้จัก Next Level กลยุทธ์ความหวังใหม่ ของ Origin

รู้จัก Next Level กลยุทธ์ความหวังใหม่ ของ Origin

17 ธ.ค. 2021
รู้จัก Next Level กลยุทธ์ความหวังใหม่ ของ Origin | THE BRIEFCASE
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ คือหนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างมาก ในช่วงที่ผ่านมา
บริษัทถูกก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2009 และได้ใช้เวลาเพียง 12 ปีในการสร้างอาณาจักรออริจิ้น จนมีมูลค่าราว 28,000 ล้านบาท ในปัจจุบัน
ที่น่าสนใจคือ บริษัท ออริจิ้น กำลังกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมอื่น นอกเหนือจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งธุรกิจที่ ออริจิ้น ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจศูนย์โลจิสติกส์ และธุรกิจบริหารสินทรัพย์
แล้ว ออริจิ้น มีเหตุผลอะไรถึงต้องกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจอื่น ๆ ?
แน่นอนว่าเรื่องนี้ คือการขยับตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
ที่ส่งผลให้หลาย ๆ บริษัทต้องรีบปรับตัวเข้าหาพฤติกรรมของลูกค้าในยุค New Normal และ Next Normal
ซึ่ง ออริจิ้น คือหนึ่งในองค์กรที่ถูกปลูกฝังแนวคิดให้พร้อมปรับตัวเข้าหาการเปลี่ยนแปลงอยู่สม่ำเสมอ หรือที่ ออริจิ้น เรียกว่า Disruptor Mindset
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ออริจิ้น เดินหน้าคิดค้นกลยุทธ์ในการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ เพื่อที่จะยกระดับการให้บริการที่ครบวงจรแก่ผู้บริโภค
กลยุทธ์นี้มีชื่อว่า “Origin Next Level” ที่นำโดย คุณพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
แล้วกลยุทธ์ Next Level มีความน่าสนใจอย่างไร ?
หลัก ๆ แล้ว กลยุทธ์ Next Level จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แกนหลัก
อย่างแรกคือ “Next Level of Business Expansion” ที่จะยกระดับการขยายบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ของ ออริจิ้น ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ
ยกตัวอย่างเช่น การเปิดแบรนด์โครงการใหม่ ๆ บนทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์ และประยุกต์การใช้เทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ซึ่งในปี 2021 บริษัทตั้งเป้าหมายในการขยายโครงการใหม่ กว่า 20 โครงการ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ ออริจิ้น มีแผนที่จะขยายธุรกิจใหม่อีก 3 กลุ่ม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตการลงทุนของบริษัท
1) กลุ่มธุรกิจบริการสุขภาพ (Healthcare) อย่างเช่น ศูนย์บริการสุขภาพ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเสริมความงาม ธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ให้บริการด้านสุขภาพ และอื่น ๆ
2) กลุ่มธุรกิจศูนย์โลจิสติกส์ (Logistic Center) โดยการเป็นพันธมิตรกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โกดังสินค้า ธุรกิจแวร์เฮาส์ และอื่น ๆ
3) กลุ่มธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (Asset Management Company หรือ AMC) เช่น การบริหารทรัพย์สินรอการขาย (NPA) และการบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) เพื่อเพิ่มตัวเลือกของการบริการให้แก่ผู้บริโภค
พูดง่าย ๆ คือ กลยุทธ์ Next Level of Business Expansion จะเน้นการขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยแนวคิดใหม่ ๆ พร้อมกับการกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เพื่อสร้างช่องทางรายได้ใหม่ นั่นเอง
กลยุทธ์ที่สอง คือ มิติใหม่ของการใช้ชีวิต หรือ “Next Level of Living Solutions”
กลยุทธ์นี้จะเน้นการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีและสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคในยุค Next Normal, New Normal และ Aging Society หรือสังคมผู้สูงอายุ
พอเป็นเเบบนี้ ออริจิ้น ได้เดินหน้าจับมือกับโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศอย่างโรงพยาบาลสมิติเวช
เพื่อสร้างโรงพยาบาลเสมือนจริง หรือที่เรียกว่า Origin Samitivej Club
โดย Origin Samitivej Club จะให้บริการทางด้านสุขภาพแก่ผู้บริโภคถึงโครงการที่ตั้ง โดยที่ผู้บริโภคไม่จำเป็นต้องเดินทางแต่อย่างใด หรือที่เราเรียกกันว่า Hospital at Home
อีกทั้ง ออริจิ้น ยังมีพันธมิตรอย่าง Let's Relax ธุรกิจสปาที่โด่งดัง เพื่อให้บริการด้านการบำบัดและผ่อนคลาย แก่ลูกค้าในโครงการอีกด้วย
ด้วยเหตุผลนี้ กลยุทธ์ Next Level of Living Solutions เปรียบเสมือนกับการยกระดับการให้บริการที่เป็นมิติใหม่ของการใช้ชีวิตแก่ผู้บริโภค เลยก็ว่าได้
มาถึงตรงนี้ เราคงพอสรุปได้ว่า บริษัท ออริจิ้น กำลังกระจายความเสี่ยงไปยังธุรกิจที่เป็น Non-Property เพื่อที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตการลงทุนของบริษัท
บวกกับการยกระดับการให้บริการแก่ผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ว่าเราคงต้องรอดูกันต่อไปว่า ออริจิ้น จะประสบความสำเร็จในการทำตามกลยุทธ์ Next Level ได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือ คนที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่เลยก็คงไม่พ้นผู้บริโภค ที่จะได้รับบริการที่หลากหลายมากขึ้น..
References:
-https://www.origin.co.th/news/
-https://www.thebangkokinsight.com/news/ceo-insight/570881/
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.