สรุปเทคนิค สร้างไอเดียที่ไม่รู้จบ ด้วยการเขียน Mind Mapping
23 ธ.ค. 2021
สรุปเทคนิค สร้างไอเดียที่ไม่รู้จบ ด้วยการเขียน Mind Mapping | THE BRIEFCASE
เชื่อว่าตอนเด็ก ๆ หลายคนน่าจะเคยได้การบ้าน
ที่ให้เราเขียน Mind Mapping เกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ในชั้นเรียน
ซึ่งถ้าให้อธิบายคำว่า Mind Mapping ง่าย ๆ
ก็คือโชว์การเชื่อมโยงความคิดของเราให้ออกมาในรูปแบบ “แผนภาพ”
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ววิธีการที่เราเคยใช้ในตอนเด็ก ๆ นี่แหละ
กลับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับความคิดต่าง ๆ ที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทางได้
และยังช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญได้อีกด้วย
แล้วการเขียน Mind Mapping จะช่วยจัดการความคิดของเราได้อย่างไร ?
คุณ Tony Buzan นักจิตวิทยาชาวอังกฤษและที่ปรึกษาด้านการศึกษา และยังเป็นผู้ที่คิดค้นการเขียน Mind Mapping จากประสบการณ์การเรียนรู้ของเขา ได้อธิบายเอาไว้ว่า การเขียน Mind Mapping หรือแผนที่ความคิดนั้นเป็นการนำเอาทฤษฎีการทำงานของสมอง มาทำให้กลายเป็นแผนภาพบนกระดาษ
สำหรับการเขียน Mind Mapping ในยุคแรก ๆ นั้น คุณ Tony Buzan แนะนำว่า
ควรเขียนโดยวาดรูปภาพขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง ซึ่งเปรียบเสมือนกับ “แก่นกลาง” ของข้อมูล
จากนั้นจึงแตก “กิ่งก้าน” จากตรงกลางในลักษณะเส้นโค้ง ออกไปเรื่อย ๆ ทีละขั้น ๆ
โดยแต่ละกิ่งก้านนั้นให้ใช้คำเพียงแค่ 1 คำสั้น ๆ ต่อ 1 กิ่งเท่านั้น
แล้วทำไมถึงให้เขียนแค่ 1 คำ ไม่ใช่การเขียน 1 ประโยค ?
สาเหตุก็เป็นเพราะว่าคำ 1 คำนั้นสามารถกระจายเป็นสิ่งอื่น ๆ ได้อย่างไม่จำกัด
ทำให้ความคิดของเราเป็นอิสระมากขึ้น โดยไม่ถูกจำกัดความไว้ด้วยรูปประโยค
และหลังจากนั้นเราก็จะมองเห็นว่า ระบบความคิดของเรามีลักษณะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้คุณ Tony Buzan ยังแนะนำอีกว่าให้ใช้สีและรูปภาพในการวาด Mind Mapping
เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สมองของเราทั้งซีกซ้ายและซีกขวาทำงานไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะช่วยให้เราได้บริหารสมองทั้งสองข้างไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไปลักษณะการเขียน Mind Mapping ก็ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
หรือบางคนก็ใช้โปรแกรมในการช่วยเขียน Mind Mapping ให้รวดเร็วขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นหลักการของ Mind Mapping ก็ยังคงเหมือนเดิม คือการสร้างแผนภาพที่เน้นเชื่อมโยงความคิดของเราออกมาให้เข้าใจง่ายที่สุด
แล้ว Mind Mapping จะช่วยเราในการทำงานได้อย่างไรบ้าง ?
หากใครที่ทำงานด้านไอเดีย การเขียน Mind Mapping ก็จะช่วยให้เรามองเห็นไอเดียได้กว้างขึ้น
จากเดิมที่เราอาจมองเห็นภาพแค่ภาพเดียว การเขียน Mind Mapping ก็จะช่วยให้
เรามองเห็นภาพเหล่านั้นได้กว้างขึ้น จากการค่อย ๆ คิดออกไปทีละชั้น ๆ
หรือสำหรับคนที่ทำงานเป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ แต่ยังไม่เห็นภาพว่า ต้องเริ่มต้นอย่างไร อาจลองเริ่มต้นจากการเขียน Mind Mapping
จากนั้นก็ลองดูว่าแต่ละกิ่งก้านขั้นตอนจะมีอะไรบ้าง
แล้วค่อย ๆ เขียนขยายออกไปเรื่อย ๆ
ก็น่าจะช่วยให้เราเห็นขั้นตอนและภาพรวมของโปรเจกต์เหล่านั้นได้มากขึ้น รวมถึงอาจได้ไอเดียอะไรใหม่ ๆ ได้เช่นกัน..
References
-https://www.youtube.com/watch?v=u5Y4pIsXTV0
-https://www.mindmeister.com/blog/tony-buzan-tribute/
-https://cacoo.com/blog/8-science-backed-benefits-of-mind-mapping/
เชื่อว่าตอนเด็ก ๆ หลายคนน่าจะเคยได้การบ้าน
ที่ให้เราเขียน Mind Mapping เกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ในชั้นเรียน
ซึ่งถ้าให้อธิบายคำว่า Mind Mapping ง่าย ๆ
ก็คือโชว์การเชื่อมโยงความคิดของเราให้ออกมาในรูปแบบ “แผนภาพ”
แต่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ววิธีการที่เราเคยใช้ในตอนเด็ก ๆ นี่แหละ
กลับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถจัดการกับความคิดต่าง ๆ ที่ยุ่งเหยิงให้เข้าที่เข้าทางได้
และยังช่วยให้เราจัดลำดับความสำคัญได้อีกด้วย
แล้วการเขียน Mind Mapping จะช่วยจัดการความคิดของเราได้อย่างไร ?
คุณ Tony Buzan นักจิตวิทยาชาวอังกฤษและที่ปรึกษาด้านการศึกษา และยังเป็นผู้ที่คิดค้นการเขียน Mind Mapping จากประสบการณ์การเรียนรู้ของเขา ได้อธิบายเอาไว้ว่า การเขียน Mind Mapping หรือแผนที่ความคิดนั้นเป็นการนำเอาทฤษฎีการทำงานของสมอง มาทำให้กลายเป็นแผนภาพบนกระดาษ
สำหรับการเขียน Mind Mapping ในยุคแรก ๆ นั้น คุณ Tony Buzan แนะนำว่า
ควรเขียนโดยวาดรูปภาพขนาดใหญ่ไว้ตรงกลาง ซึ่งเปรียบเสมือนกับ “แก่นกลาง” ของข้อมูล
จากนั้นจึงแตก “กิ่งก้าน” จากตรงกลางในลักษณะเส้นโค้ง ออกไปเรื่อย ๆ ทีละขั้น ๆ
โดยแต่ละกิ่งก้านนั้นให้ใช้คำเพียงแค่ 1 คำสั้น ๆ ต่อ 1 กิ่งเท่านั้น
แล้วทำไมถึงให้เขียนแค่ 1 คำ ไม่ใช่การเขียน 1 ประโยค ?
สาเหตุก็เป็นเพราะว่าคำ 1 คำนั้นสามารถกระจายเป็นสิ่งอื่น ๆ ได้อย่างไม่จำกัด
ทำให้ความคิดของเราเป็นอิสระมากขึ้น โดยไม่ถูกจำกัดความไว้ด้วยรูปประโยค
และหลังจากนั้นเราก็จะมองเห็นว่า ระบบความคิดของเรามีลักษณะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้คุณ Tony Buzan ยังแนะนำอีกว่าให้ใช้สีและรูปภาพในการวาด Mind Mapping
เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้สมองของเราทั้งซีกซ้ายและซีกขวาทำงานไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะช่วยให้เราได้บริหารสมองทั้งสองข้างไปพร้อม ๆ กัน รวมถึงช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อกาลเวลาผ่านไปลักษณะการเขียน Mind Mapping ก็ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
หรือบางคนก็ใช้โปรแกรมในการช่วยเขียน Mind Mapping ให้รวดเร็วขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นหลักการของ Mind Mapping ก็ยังคงเหมือนเดิม คือการสร้างแผนภาพที่เน้นเชื่อมโยงความคิดของเราออกมาให้เข้าใจง่ายที่สุด
แล้ว Mind Mapping จะช่วยเราในการทำงานได้อย่างไรบ้าง ?
หากใครที่ทำงานด้านไอเดีย การเขียน Mind Mapping ก็จะช่วยให้เรามองเห็นไอเดียได้กว้างขึ้น
จากเดิมที่เราอาจมองเห็นภาพแค่ภาพเดียว การเขียน Mind Mapping ก็จะช่วยให้
เรามองเห็นภาพเหล่านั้นได้กว้างขึ้น จากการค่อย ๆ คิดออกไปทีละชั้น ๆ
หรือสำหรับคนที่ทำงานเป็นโปรเจกต์ขนาดใหญ่ แต่ยังไม่เห็นภาพว่า ต้องเริ่มต้นอย่างไร อาจลองเริ่มต้นจากการเขียน Mind Mapping
จากนั้นก็ลองดูว่าแต่ละกิ่งก้านขั้นตอนจะมีอะไรบ้าง
แล้วค่อย ๆ เขียนขยายออกไปเรื่อย ๆ
ก็น่าจะช่วยให้เราเห็นขั้นตอนและภาพรวมของโปรเจกต์เหล่านั้นได้มากขึ้น รวมถึงอาจได้ไอเดียอะไรใหม่ ๆ ได้เช่นกัน..
References
-https://www.youtube.com/watch?v=u5Y4pIsXTV0
-https://www.mindmeister.com/blog/tony-buzan-tribute/
-https://cacoo.com/blog/8-science-backed-benefits-of-mind-mapping/