รู้จักมาดามแป้ง ผู้หญิงที่สร้างความเชื่อ ให้กับลูกค้าและทีมงาน
17 ม.ค. 2022
รู้จักมาดามแป้ง ผู้หญิงที่สร้างความเชื่อ ให้กับลูกค้าและทีมงาน | THE BRIEFCASE
เมื่อ 10-20 ปีก่อน เราคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น “ผู้หญิงกับธุรกิจ” หรือ “ผู้หญิงกับการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย” และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำทั้งสองอย่างได้ดี จนได้ขึ้นเป็นระดับแถวหน้าของวงการก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะโลกของเรามักมีวิกฤติและสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่ตลอด
ดังนั้นการมีแค่เงินอย่างเดียวก็คงจะแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด หากไม่มีกลยุทธ์และเทคนิคการบริหารทีมที่ดีพอ
ดังนั้นการที่มาดามแป้ง หรือคุณนวลพรรณ ล่ำซำ กลายมาเป็นแถวหน้าในวงการธุรกิจ และผู้จัดการทีมชาติได้ จึงเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน และทำให้เชื่อว่าผู้หญิงก็เก่งไม่แพ้ผู้ชาย
และล่าสุด Forbes ก็ได้จัดอันดับ 50 Over 50: Asia 2022 ซึ่งมีการคัดเลือกบรรดาผู้นำหญิงที่ประสบความสำเร็จในเอเชียประจำปี 2022
โดยมาดามแป้ง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก็ได้เป็น 1 ใน 4 สาวไทย ที่ได้รับเลือกจาก Forbes ในการจัดอันดับครั้งนี้
ในบทความนี้ THE BRIEFCASE จะชวนทุกคนมาทำความรู้จัก มาดามแป้ง ว่าปัจจุบันเธอทำอะไรอยู่ และเธอใช้หลักคิดอะไรในการบริหารและทำให้คนเชื่อมั่นในตัวเธอ..
ปัจจุบันมาดามแป้ง เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยที่เพิ่งจะคว้าแชมป์อาเซียนในรายการ AFF Suzuki Cup 2020 รวมถึงเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยจะแข่งที่
ประเทศอุซเบกิสถาน ในเดือนมิถุนายน ปี 2565 นี้อีกด้วย
และยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่ปลุกปั้น และพานักเตะหญิงไทยเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 2 สมัย
มาดามแป้งยังดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
นอกจากนี้เธอยังเป็นตัวแทนผู้นำเข้าแบรนด์หรูจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Hermes, Emporio Armani, Tod's และ Chloé
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงและนามสกุลของมาดามแป้ง จะชวนให้หลายคนคิดว่าเธอทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมด แต่ความจริงแล้วชีวิตของเธอก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไปเสียทีเดียว..
ช่วงที่มาดามแป้งขอสิทธิ์นำเข้า Hermes เธอต้องใช้เวลากว่า 1 ปี กว่าที่ทาง Hermes จะยอมตกลงเจรจาด้วย และแม้ว่าจะได้สิทธิ์มาอยู่ในมือแล้ว แต่ตอนเปิดร้านในปี 2540 ก็เกือบแย่ เพราะต้องเจอกับเรื่องของค่าเงินบาทลอยตัวในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง
อีกทั้งในการดูแลธุรกิจประกันภัยของเธอก็เคยต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เพราะเหตุการณ์วิกฤติที่หลายคนไม่คาดฝัน และมีวิกฤติที่เราต่างไม่เคยรู้จักและรับมือกับมัน เกิดขึ้นหลายครั้ง
เช่น สึนามิ เหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่วิกฤติที่สุดของคนทำประกันภัย ทำให้บริษัทมียอดที่ต้องจ่ายในปีเดียวเป็นหมื่นล้าน และยังไม่รวมเหตุการณ์ความไม่สงบอื่น ๆ ที่เธอต้องบริหารจัดการเพื่อให้ลูกค้าและพนักงานต่างยังเชื่อมั่น และอุ่นใจที่เลือกอยู่กับบริษัทของเธอ
ดังนั้นคำว่า “ทำให้คนเชื่อใจ” จึงเป็นเหมือนคีย์สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและสิ่งที่เธอทำนั้นไปต่อได้
แล้วเธอทำอย่างไร ให้คนเชื่อมั่นในตัวเธอ ?
THE BRIEFCASE จะขอสรุปแนวคิดของเธอเป็นข้อ ๆ จากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาของเธอ ดังนี้
1. หัดรับฟังให้มาก และรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเอง
2. เชื่อในศาสตร์ของการผสมผสาน ระหว่างประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า และสิ่งใหม่จากคนรุ่นใหม่
3. อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เก่งที่สุด เพราะเราจะไม่พัฒนาต่อ
4. ต้องไม่ยึดตนเป็นใหญ่และกล้าให้ใจ เช่น กล้ายกมือไหว้ทีมงาน รวมถึงกล้าก้มลงไปสวมรองเท้าให้กับลูกค้าได้ เพราะหากเราไม่แสดงให้เห็นว่าตัวเรามีใจรักในการบริการและดูแลคนได้อย่างดีมากพอ ก็จะไม่มีคนให้ใจ ไว้ใจและเชื่อใจเรา
การทำทุกอย่างด้วยหัวใจบริการ คือสิ่งที่เธอใช้อยู่เสมอ และเธอยังส่งความคิดเหล่านี้ไปยังทีมงานทั้งหมดของเธอ เพราะเธอมองว่าบริษัทของเธออยู่ได้ด้วยความเชื่อและความไว้ใจมาตลอด
เพราะโลกที่ไม่แน่นอน ทำให้ทั้งลูกค้าและทีมงาน ต่างมีความกังวลใจ และไม่แน่ใจในอนาคตของตัวเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่มาดามแป้งมองว่าผู้นำต้องทำให้ได้คือ “สร้างความเชื่อมั่นให้พวกเขาให้ได้”
อย่างช่วงวิกฤติโควิด 19 บริษัทเมืองไทยประกันภัย ก็ไม่มีนโยบายตัดเงินเดือนพนักงาน แต่ไปลดเงินเดือนในฝั่งของผู้บริหารแทน เพราะพนักงานทุกคนเป็นกำลังหลักสำคัญที่จะพาไปบริษัทไปต่อได้
ดังนั้นถ้าผู้นำสามารถทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเรา เขาก็จะพร้อมให้เราเป็นคนดูแล รวมถึงการทำบริษัทให้แข็งแรง ทำบริการให้มีคุณภาพ เพื่อให้บริษัทยังอยู่ในใจของลูกค้าเสมอ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะเห็นได้ว่า มาดามแป้ง คืออีกหนึ่งผู้นำที่ใช้ Empathy หรือความเห็นอกเห็นใจเป็นหลัก ในการบริหารทีม
ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เข้าถึงใจใครหลายคน และทำให้คนเห็นว่าแม้จะเป็นผู้หญิง ก็ไม่มีอะไรมาเป็นข้อจำกัดได้..
References
-ข้อมูลจากเพจลงทุนเกิร์ล
-ช่อง Youtube มาดามแป้ง
-https://www.forbes.com/sites/maggiemcgrath/2022/01/11/50-over-50-asia-2022/?sh=31ad1d26350c
เมื่อ 10-20 ปีก่อน เราคงไม่ค่อยมีโอกาสได้เห็น “ผู้หญิงกับธุรกิจ” หรือ “ผู้หญิงกับการเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย” และการที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำทั้งสองอย่างได้ดี จนได้ขึ้นเป็นระดับแถวหน้าของวงการก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย
เพราะโลกของเรามักมีวิกฤติและสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอยู่ตลอด
ดังนั้นการมีแค่เงินอย่างเดียวก็คงจะแก้ปัญหาไม่ได้ทั้งหมด หากไม่มีกลยุทธ์และเทคนิคการบริหารทีมที่ดีพอ
ดังนั้นการที่มาดามแป้ง หรือคุณนวลพรรณ ล่ำซำ กลายมาเป็นแถวหน้าในวงการธุรกิจ และผู้จัดการทีมชาติได้ จึงเป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน และทำให้เชื่อว่าผู้หญิงก็เก่งไม่แพ้ผู้ชาย
และล่าสุด Forbes ก็ได้จัดอันดับ 50 Over 50: Asia 2022 ซึ่งมีการคัดเลือกบรรดาผู้นำหญิงที่ประสบความสำเร็จในเอเชียประจำปี 2022
โดยมาดามแป้ง กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก็ได้เป็น 1 ใน 4 สาวไทย ที่ได้รับเลือกจาก Forbes ในการจัดอันดับครั้งนี้
ในบทความนี้ THE BRIEFCASE จะชวนทุกคนมาทำความรู้จัก มาดามแป้ง ว่าปัจจุบันเธอทำอะไรอยู่ และเธอใช้หลักคิดอะไรในการบริหารและทำให้คนเชื่อมั่นในตัวเธอ..
ปัจจุบันมาดามแป้ง เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยที่เพิ่งจะคว้าแชมป์อาเซียนในรายการ AFF Suzuki Cup 2020 รวมถึงเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งผ่านเข้ารอบสุดท้าย โดยจะแข่งที่
ประเทศอุซเบกิสถาน ในเดือนมิถุนายน ปี 2565 นี้อีกด้วย
และยังเป็นอดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในคนที่ปลุกปั้น และพานักเตะหญิงไทยเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกถึง 2 สมัย
มาดามแป้งยังดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว
นอกจากนี้เธอยังเป็นตัวแทนผู้นำเข้าแบรนด์หรูจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Hermes, Emporio Armani, Tod's และ Chloé
ปฏิเสธไม่ได้ว่าชื่อเสียงและนามสกุลของมาดามแป้ง จะชวนให้หลายคนคิดว่าเธอทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปหมด แต่ความจริงแล้วชีวิตของเธอก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไปเสียทีเดียว..
ช่วงที่มาดามแป้งขอสิทธิ์นำเข้า Hermes เธอต้องใช้เวลากว่า 1 ปี กว่าที่ทาง Hermes จะยอมตกลงเจรจาด้วย และแม้ว่าจะได้สิทธิ์มาอยู่ในมือแล้ว แต่ตอนเปิดร้านในปี 2540 ก็เกือบแย่ เพราะต้องเจอกับเรื่องของค่าเงินบาทลอยตัวในช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง
อีกทั้งในการดูแลธุรกิจประกันภัยของเธอก็เคยต้องประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก เพราะเหตุการณ์วิกฤติที่หลายคนไม่คาดฝัน และมีวิกฤติที่เราต่างไม่เคยรู้จักและรับมือกับมัน เกิดขึ้นหลายครั้ง
เช่น สึนามิ เหตุการณ์มหาอุทกภัย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่วิกฤติที่สุดของคนทำประกันภัย ทำให้บริษัทมียอดที่ต้องจ่ายในปีเดียวเป็นหมื่นล้าน และยังไม่รวมเหตุการณ์ความไม่สงบอื่น ๆ ที่เธอต้องบริหารจัดการเพื่อให้ลูกค้าและพนักงานต่างยังเชื่อมั่น และอุ่นใจที่เลือกอยู่กับบริษัทของเธอ
ดังนั้นคำว่า “ทำให้คนเชื่อใจ” จึงเป็นเหมือนคีย์สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและสิ่งที่เธอทำนั้นไปต่อได้
แล้วเธอทำอย่างไร ให้คนเชื่อมั่นในตัวเธอ ?
THE BRIEFCASE จะขอสรุปแนวคิดของเธอเป็นข้อ ๆ จากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาของเธอ ดังนี้
1. หัดรับฟังให้มาก และรู้จักปรับเปลี่ยนตัวเอง
2. เชื่อในศาสตร์ของการผสมผสาน ระหว่างประสบการณ์ของคนรุ่นเก่า และสิ่งใหม่จากคนรุ่นใหม่
3. อย่าคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เก่งที่สุด เพราะเราจะไม่พัฒนาต่อ
4. ต้องไม่ยึดตนเป็นใหญ่และกล้าให้ใจ เช่น กล้ายกมือไหว้ทีมงาน รวมถึงกล้าก้มลงไปสวมรองเท้าให้กับลูกค้าได้ เพราะหากเราไม่แสดงให้เห็นว่าตัวเรามีใจรักในการบริการและดูแลคนได้อย่างดีมากพอ ก็จะไม่มีคนให้ใจ ไว้ใจและเชื่อใจเรา
การทำทุกอย่างด้วยหัวใจบริการ คือสิ่งที่เธอใช้อยู่เสมอ และเธอยังส่งความคิดเหล่านี้ไปยังทีมงานทั้งหมดของเธอ เพราะเธอมองว่าบริษัทของเธออยู่ได้ด้วยความเชื่อและความไว้ใจมาตลอด
เพราะโลกที่ไม่แน่นอน ทำให้ทั้งลูกค้าและทีมงาน ต่างมีความกังวลใจ และไม่แน่ใจในอนาคตของตัวเอง ดังนั้นสิ่งสำคัญที่มาดามแป้งมองว่าผู้นำต้องทำให้ได้คือ “สร้างความเชื่อมั่นให้พวกเขาให้ได้”
อย่างช่วงวิกฤติโควิด 19 บริษัทเมืองไทยประกันภัย ก็ไม่มีนโยบายตัดเงินเดือนพนักงาน แต่ไปลดเงินเดือนในฝั่งของผู้บริหารแทน เพราะพนักงานทุกคนเป็นกำลังหลักสำคัญที่จะพาไปบริษัทไปต่อได้
ดังนั้นถ้าผู้นำสามารถทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในตัวเรา เขาก็จะพร้อมให้เราเป็นคนดูแล รวมถึงการทำบริษัทให้แข็งแรง ทำบริการให้มีคุณภาพ เพื่อให้บริษัทยังอยู่ในใจของลูกค้าเสมอ
อ่านมาถึงตรงนี้ เราจะเห็นได้ว่า มาดามแป้ง คืออีกหนึ่งผู้นำที่ใช้ Empathy หรือความเห็นอกเห็นใจเป็นหลัก ในการบริหารทีม
ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ทำให้เข้าถึงใจใครหลายคน และทำให้คนเห็นว่าแม้จะเป็นผู้หญิง ก็ไม่มีอะไรมาเป็นข้อจำกัดได้..
References
-ข้อมูลจากเพจลงทุนเกิร์ล
-ช่อง Youtube มาดามแป้ง
-https://www.forbes.com/sites/maggiemcgrath/2022/01/11/50-over-50-asia-2022/?sh=31ad1d26350c