ทำไม “Food Truck” ถึงเป็นโมเดลขายอาหาร ที่หลายคนสนใจ

ทำไม “Food Truck” ถึงเป็นโมเดลขายอาหาร ที่หลายคนสนใจ | BrandCase
ถ้าหากพูดถึงร้านอาหารแบบ Food Truck หรือรถขายอาหารแบบเคลื่อนที่
โมเดลนี้อาจจะยังดูใหม่ในสายตาของใครหลายคน
ธุรกิจที่ใช้โมเดลนี้ ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นร้านอาหาร ที่ใช้เวลาในการทำค่อนข้างเร็ว
เช่น ก๋วยเตี๋ยว เบเกอรี หรือเมนูน้ำหวาน เพราะพื้นที่ครัวทำอาหารบนรถค่อนข้างจำกัด และในบางพื้นที่ ที่เข้าไปตั้งร้านขาย อาจไม่มีที่ให้ลูกค้าได้นั่งรอ
แต่ในปัจจุบันดูเหมือนว่าโมเดลธุรกิจ Food Truck จะได้รับความนิยมมากขึ้นในประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างแบรนด์ใหญ่ ๆ ที่ลงไปทำเองเลยก็มี
เช่น Krispy Kreme, Mister Donut, Dairy Queen
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารแบบตามริมทาง หรือแบบที่คนทั่วไปทำก็มีให้เห็นมากขึ้นด้วยเช่นกัน
แล้วทำไม Food Truck ถึงเป็นโมเดลขายอาหาร ที่หลายคนสนใจ ?
1. ต้นทุนในการเป็นเจ้าของ Food Truck ที่เข้าถึงได้ไม่ยาก
ถ้าเราจะเปิดร้านอาหาร ต้นทุนหลัก ๆ ของเรา ก็จะมีค่าวัตถุดิบ ค่าตกแต่งร้าน และค่าเช่าพื้นที่ (ถ้าไม่ได้ทำบนพื้นที่ของเราเอง)
โดยค่าเช่า ก็มีราคาที่ต้องจ่ายแตกต่างกันไป ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น แล้วแต่ทำเลของร้าน
พอเป็น Food Truck แน่นอนว่าเงินลงทุนก้อนสำคัญ ก็คือลงทุนกับตัวรถ Truck
ซึ่งปัจจุบันก็ต้องบอกว่ามีต้นทุนที่เข้าถึงได้ไม่ยาก และน่าสนใจ เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าเช่าพื้นที่สำหรับทำร้านอาหาร
เช่นกรณีของ Suzuki CARRY SUZUKI CARRY รถบรรทุกคันเล็ก ๆ ที่พื้นที่กระบะด้านหลัง สามารถดัดแปลงเป็นเหมือนร้านขายของเคลื่อนที่ได้ ก็มีราคาราว ๆ 395,000 บาท
ใครไม่สะดวกซื้อเงินสด ก็สามารถผ่อนซื้อได้ ตกเดือนละหลักพันปลาย ๆ จนถึงหลักหมื่นบาท
ซึ่งก็เทียบได้พอ ๆ กับค่าเช่าร้าน ในกรณีที่เปิดร้านอาหารบางทำเล แต่ที่น่าสนใจก็คือ เราจะได้เป็นเจ้าของรถ Food Truck ด้วย
หรือบางคนอาจจะไปซื้อรถ Truck ที่มีอายุแล้วแต่ยังใช้งานได้ดี มาดัดแปลงเป็นร้านค้า ซึ่งก็อาจจะมีต้นทุนที่ถูกลงได้อีก
2. เป็นร้านค้าเคลื่อนที่ได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการหาทำเลที่ดี
คนทำร้านอาหารหรือจะขายอะไรก็ตาม เรื่องโลเคชันหรือสถานที่ขาย ถือว่าสำคัญมาก
บางคนเจอปัญหา เลือกที่ผิดชีวิตเปลี่ยน
ขายได้ไม่นานก็เจ๊ง ซึ่งก็เป็นปัญหาสำคัญของคนขายอาหาร
ทีนี้ เมื่อตัวร้านอยู่ในรูปแบบรถที่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนก็ได้ ก็น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ลงได้บ้าง
เช่น ถ้าปกติร้านของเราตั้งขายอยู่หน้าโรงงาน แล้ววันนั้นเป็นวันหยุด เราก็สามารถเคลื่อนย้ายรถ Food Truck ไปที่อื่น ที่มีคนพลุกพล่านได้
และด้วยความสะดวกในการย้ายทำเล ทำให้บางครั้ง เรามักจะเห็น Food Truck เจ้าเดียวกัน อยู่ที่หน้าตึกสำนักงานตอนเที่ยง ช่วงหลังเวลาเลิกเรียน ร้านก็ย้ายไปแถวหน้าโรงเรียน บางครั้งก็อยู่หน้าตลาดนัดในตอนเย็นที่คนพลุกพล่าน และเมื่อตกดึกก็ย้ายไปอยู่หน้าปั๊มน้ำมัน
การย้ายหาทำเลทองที่ง่ายนี้เอง จึงเป็นข้อได้เปรียบของการเปิดร้านอาหารในรูปแบบ Food Truck ที่ทำให้ร้านอาหารประเภทนี้สำเร็จได้
3. ไม่ต้องรอให้ลูกค้ามาหา เราเข้าไปหาลูกค้าเองได้เลย
การระบาดของโควิด 19 ทำให้คนออกมานั่งกินที่ร้านกันน้อยลง หลายร้านต้องพึ่งพาการขายแบบ Take Away หรือ Food Delivery กันมากขึ้น
ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสให้ Food Truck ที่เข้าไปหาลูกค้าได้ถึงในชุมชน คอนโดมิเนียม หรือหน้าบ้าน สามารถเสนอขายอาหาร ให้กับคนที่ไม่อยากออกไปกินอะไรข้างนอกได้
แต่การเปิดร้านอาหารแบบ Food Truck มีข้อควรระวังเช่นกัน เพราะถ้าหากเราย้ายที่ตั้งร้านบ่อยเกินไป ทำให้ลูกค้าที่จะกลับมาซื้อซ้ำ หาร้านของเราไม่เจอ ซึ่งจะทำให้เราสูญเสียลูกค้าประจำได้
ซึ่งทางแก้ที่เหล่าแม่ค้า Food Truck ทำคือ เปิดร้านขายในช่วงเวลาและสถานที่เดิม ที่เคยเปิดเป็นประจำ เพื่อให้ลูกค้าหาเราเจอได้ทุกครั้ง และทำให้ผู้คนจดจำร้านของเราได้นั่นเอง
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ร้านอาหารแบบ “Food Truck”
เป็นโมเดลขายอาหาร ที่หลายคนกำลังให้ความสนใจมากขึ้นในตอนนี้ นั่นเอง..