กรณีศึกษา แป้งเย็นตรางู กำลังตั้งเป้าเป็น แบรนด์ระดับโลก

กรณีศึกษา แป้งเย็นตรางู กำลังตั้งเป้าเป็น แบรนด์ระดับโลก

17 พ.ค. 2022
กรณีศึกษา แป้งเย็นตรางู กำลังตั้งเป้าเป็น แบรนด์ระดับโลก | BrandCase
การสร้างสินค้าสักตัวให้ติดตลาดเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
แล้วยิ่งทำให้สินค้าสามารถครองตลาดและครองใจคนได้กว่า 100 ปี ก็ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
แต่แป้งเย็นตรางู คือหนึ่งในแบรนด์ที่ทำเรื่องเหล่านี้ได้..
และที่น่าสนใจก็คือ วันนี้แป้งเย็นตรางู กำลังตั้งเป้าที่จะเติบโตไปเป็น “Global Brand” แล้ว
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง..
หลายคนอาจไม่รู้ว่า แป้งเย็นยี่ห้อแรกของโลกคือ แป้งเย็นตรางู
โดยจุดเริ่มต้นของแป้งเย็นยี่ห้อนี้ เกิดจากนายแพทย์ทอมัส เฮย์เวิร์ด เฮส์ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า “หมอเฮส์” ได้ถูกว่าจ้างให้มาเป็นแพทย์ใหญ่ประจำโรงพยาบาลศิริราช
ในปี 1892 หรือประมาณ 130 ปีที่แล้ว (สมัยรัชกาลที่ 5) หมอเฮส์ ได้ร่วมทุนกับ ดร.ปีเตอร์ กาแวน นายแพทย์อีกคนหนึ่ง เพื่อเปิดร้านขายยาเป็นของตนเองขึ้นที่ประเทศไทย
ร้านที่ว่านี้ ตั้งอยู่บริเวณถนนเจริญกรุง โดยใช้ชื่อว่า “British Dispensary” โดยมีสัญลักษณ์เป็นรูปงูถูกลูกศรปัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษ ทำให้คนไทยในสมัยนั้นไม่คุ้นเคย คนส่วนใหญ่จึงนิยมเรียกชื่อร้านขายยาดังกล่าวว่า “ห้างขายยาอังกฤษตรางู”
หลังจากดำเนินกิจการไปได้สักระยะ ห้างขายยาอังกฤษตรางู ก็เริ่มเป็นที่รู้จัก มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ทั้งคู่จึงเปิดสาขาอีกแห่ง จนเมื่อเวลาผ่านไป กิจการห้างขายยาอังกฤษตรางูก็มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ
จนกระทั่งในปี 1928 นายล้วน ว่องวานิช ชาวจีนที่อพยพมาทำมาหากินที่เมืองไทย เข้ามาเป็นผู้รับซื้อกิจการทั้งหมด และนั่นจึงทำให้ตระกูลว่องวานิช ได้บริหารกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู มาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนายล้วน ซื้อกิจการห้างขายยาอังกฤษตรางู
เขาก็เดินหน้าขยายกิจการร้านขายยาหลายสาขา ทั้งยังเป็นเอเจนต์รับยาต่าง ๆ จากต่างประเทศเข้ามาขายในสาขาต่าง ๆ ของร้าน
และในเวลาเดียวกัน ยังมีการคิดค้นพัฒนาสูตรสินค้าต่าง ๆ จนเป็นที่มาของผลิตภัณฑ์ “แป้งเย็น” โดยวัตถุประสงค์คือ เพื่อเป็นแป้งยา สำหรับใช้รักษาผดผื่นคัน
ซึ่งแป้งเย็นของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางูที่ผลิตขึ้นมานั้น ไม่เพียงแต่เป็นผู้ผลิตแป้งเย็นรายแรกในประเทศไทย แต่ยังถือเป็นผู้ผลิตแป้งเย็นรายแรกของโลกอีกด้วย
และรู้ไหมว่า ในปัจจุบัน สินค้าของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ไม่ได้มีเพียงแค่แป้งเย็นเท่านั้น
แต่ยังรวมไปถึงสินค้าด้านเวชภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ยาแก้ไข้เด็กตรางู ยาแก้ไอเด็กตรางู ยาแก้หวัดเด็กตรางู ยาแก้ไอน้ำดำตรางู และน้ำมันเซนลุกซ์
อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ นอกจากสินค้าของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู จะเป็นที่ยอมรับในประเทศ จนกลายมาเป็น National Brand ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในวันนี้ผู้บริหารของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู กำลังตั้งเป้าที่จะพาองค์กรไปสู่การเป็น “Global Brand” เพราะตราบใดที่อากาศร้อนยังมีอยู่ในหลายประเทศ โอกาสในการเติบโตของแป้งเย็นตรางูก็ยังมีอยู่
ปัจจุบัน สินค้าของแบรนด์อังกฤษตรางูนั้น มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไนจีเรีย ฮ่องกง และจีน อยู่แล้ว
แต่ผู้บริหารของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางูก็มองว่า สินค้าของบริษัทยังมีโอกาสเติบโต โดยตั้งเป้าที่จะโฟกัสในตลาดเอเชียให้เพิ่มมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน
ซึ่งปัจจุบัน กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางูนั้น มีการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เพื่อคิดค้นและพัฒนาสินค้าให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในท้องถิ่นนั้น ๆ
และยังมีการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น โดยจัดจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดียของแบรนด์ทุกช่องทาง
โดยทางกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู เชื่อว่าจะยิ่งทำให้แบรนด์ของกลุ่มบริษัทสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ประกอบด้วย 5 บริษัท โดยมีผลประกอบการในปี 2563 ดังนี้
บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด รายได้ 410 ล้านบาท
บริษัท บริทิช ดิสเพนซารี่ คอนซูมเมอร์ จำกัด (มหาชน) รายได้ 361 ล้านบาท
บริษัท บริทิช ดิสเพนซารี่ เฮลท์แคร์ จำกัด รายได้ 168 ล้านบาท
บริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) สาย 5 จำกัด รายได้ 95 ล้านบาท
บริษัท ห้างขายยาอังกฤษ (ตรางู) จำกัด รายได้ 79 ล้านบาท
เมื่อเรารวมรายได้ทั้งหมดของกลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู จะพบว่า มีรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่หลายคนอาจจะสงสัยกันมานานคือ ทำไมแป้งเย็นนี้ต้องมีสัญลักษณ์เป็นรูปงู พร้อมกับมีลูกศรปักที่หัวงู
ที่เป็นแบบนี้เนื่องจาก งูอสรพิษนั้นเปรียบเสมือนโรคภัยไข้เจ็บ ขณะที่ลูกศรนั้นเปรียบเสมือนยารักษาโรค ดังนั้น ตราสัญลักษณ์รูปงูมีลูกศรปัก จึงเปรียบเสมือนว่า แป้งเย็นยี่ห้อนี้ทำมาเพื่อใช้สำหรับรักษาโรคนั่นเอง
ต้องยอมรับว่า การที่สินค้าของแบรนด์จะมีอายุยืนยาวมากว่า 100 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะท่ามกลางสิ่งต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภค หรือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มีผลทำให้ธุรกิจจำนวนไม่น้อย ต้องล้มหายตายจาก และเหลือไว้เพียงแค่ชื่อให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก
แต่ไม่ใช่สำหรับ “แป้งเย็นตรางู” ที่ยังครองใจหลายคนตอนนี้
และกำลังดันตัวเอง ให้ก้าวไปสู่การเป็น “Global brand” อย่างเต็มตัว..
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Dispensary
-http://www.britishdispensary.com/about.php
-https://www.silpa-mag.com/history/article_49206
-https://www.thansettakij.com/business/522572
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.