รู้จัก กลยุทธ์การตลาด ที่ตอบโจทย์ลูกค้า สายเสี่ยงดวง
28 มิ.ย. 2022
รู้จัก กลยุทธ์การตลาด ที่ตอบโจทย์ลูกค้า สายเสี่ยงดวง | BrandCase
ที่ผ่านมากลยุทธ์การตลาดที่ถูกนำมาใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ก็อย่างเช่น การลด แลก แจก แถม หรือการซื้อ 1 แถม 1 แต่ในบทความนี้ เราจะให้ทุกคนได้รู้จักกับอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Lotto Marketing” หรือการตลาดแบบเสี่ยงดวง
โดย Lotto Marketing เป็นกลยุทธ์ที่บริษัทหลายแห่ง นิยมนำมาสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ
Lotto Marketing คืออะไร ทำไมหลายครั้งจึงช่วยให้ยอดขายของบริษัทนั้น ประสบความสำเร็จ ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง..
ถ้าถามว่า หนึ่งในกิจกรรมที่คนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบ มีอะไรบ้าง ?
หนึ่งในนั้นก็น่าจะมีเรื่องของการเสี่ยงดวง และการเสี่ยงโชครวมอยู่ด้วย
ซึ่งคงไม่เกินเลย ถ้าจะบอกว่า การรักเรื่องของการเสี่ยงโชคนั้นอยู่ใน DNA ของใครหลาย ๆ คน
เราจึงมักเห็นหลาย ๆ ธุรกิจ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องของการเสี่ยงดวง และการเสี่ยงโชคมากมาย
เช่น หวยใต้ดิน สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือแม้แต่ธุรกิจการพนัน ที่มักได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้นักการตลาดเริ่มนำเอาเรื่องของการเสี่ยงโชค มาเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กระตุ้นยอดขาย ด้วยการให้ผู้บริโภคเข้ามาร่วมสนุกผ่านการเสี่ยงโชค และตั้งชื่อกลยุทธ์นี้ว่า “Lotto Marketing”
และนี่คือคำจำกัดความของ กลยุทธ์ Lotto Marketing คือ ง่าย-กระตุ้น-ลุ้นถี่
- ง่าย
กลยุทธ์นี้ต้องทำให้ผู้บริโภคที่มาร่วมสนุกนั้น สามารถสมัครเข้ามาได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน
เช่น ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าอย่างเครื่องดื่ม ก็เพียงแค่ใช้รหัสที่อยู่ใต้ฝา บนฉลากสินค้า หรือในใบเสร็จรับเงิน แล้วส่งรหัสเหล่านั้นผ่านทาง SMS เพื่อเข้าลุ้นรางวัลได้เลย
เรียกว่า ถ้าซื้อสินค้าปุ๊บ เปิดปั๊บ ก็สามารถเข้าร่วมการชิงโชคได้ทันที
ยิ่งการเข้าร่วมกิจกรรมง่ายเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาร่วมกิจกรรมได้มากขึ้นเท่านั้น
- กระตุ้น
หนึ่งในวิธีที่ช่วยกระตุ้นลูกค้าก็คือ การเลือกรางวัลที่นำมาให้ผู้บริโภคร่วมลุ้นสนุก
ยิ่งถ้าเป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูง เช่น ทองคำ รถยนต์ ตั๋วเครื่องบินเดินทางไปท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมพิเศษในต่างประเทศ รวมไปถึงการแจกสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
รางวัลต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้า เพื่อร่วมลุ้นชิงโชคได้ง่ายขึ้น
- ลุ้นถี่
นอกจากจะต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างง่าย ๆ และกระตุ้นให้เกิดความอยากด้วยการนำรางวัลที่น่าสนใจมาร่วมในกิจกรรมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือการวางแผนกิจกรรม ให้มีการออกผลรางวัลให้ถี่มาก ๆ เช่น ประกาศเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายวัน
เพราะยิ่งออกผลรางวัลถี่มาก ๆ ก็จะมีโอกาสกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มีโอกาสที่จะกระตุ้นยอดขายสินค้าได้มากขึ้นตามไปด้วย
แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคชอบกิจกรรมลุ้นโชคแบบนี้ ?
1. ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า โดยสินค้าบางอย่างราคาก็ไม่ได้สูง เช่น ซื้อสินค้าในราคาเพียงแค่ไม่กี่สิบบาท ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมชิงโชคได้แล้ว ซึ่งก็ถูกกว่าซื้อหวย หรือลอตเตอรี่
โดยรางวัลที่มีโอกาสได้นั้น มีมูลค่าเป็น “ทวีคูณ” กับเงินที่เสียไปเพื่อให้ได้สินค้านั้นมา
2. มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่าการซื้อหวย หรือลอตเตอรี่ หากกิจกรรมชิงโชคมีความถี่มากกว่า
แล้วที่ผ่านมามีธุรกิจไหนที่นำกลยุทธ์ Lotto Marketing มาใช้บ้าง ?
ตัวอย่างธุรกิจที่นำกลยุทธ์ Lotto Marketing มาใช้ จนกลายเป็นไวรัลก็หนีไม่พ้น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม เช่น ชาเขียวของอิชิตัน เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
โดยอิชิตัน ได้ริเริ่มนำแคมเปญที่มีชื่อว่า “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง” ซึ่งเป็นการพลิกรูปแบบกิจกรรมการตลาดเมืองไทย ที่เมื่อก่อนจะมีแต่การส่งชิ้นส่วนชิงโชคมาที่รายการใดรายการหนึ่ง แล้วประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางโทรทัศน์
แต่อิชิตันเปลี่ยนมาเป็นการส่งรหัสใต้ฝา เพื่อชิงโชคผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม จนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้แบรนด์อิชิตันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ซึ่งแคมเปญดังกล่าว ก็เป็นกลยุทธ์ของ Lotto Marketing เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าการที่แบรนด์หรือธุรกิจใด ๆ ก็ตาม จะนำแคมเปญ หรือกลยุทธ์นี้มาใช้ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องการจัดหาของรางวัลให้ดี
เช่น การใช้ของรางวัลที่มีราคาสูงจนเกินไป ก็จะทำให้ธุรกิจนั้นมีต้นทุนที่สูงสำหรับการทำการตลาดในแคมเปญนั้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ แบรนด์ก็ควรทำการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคด้วยว่า ในแต่ละช่วงเวลานั้น ผู้บริโภคต้องการรางวัลลักษณะใด
เพราะถ้าเป็นรางวัลแบบจำเจ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ สุดท้ายก็อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกเบื่อหน่ายกับแคมเปญหรือกลยุทธ์ดังกล่าว และไม่อยากร่วมกิจกรรมลุ้นโชค
ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะพาลให้ไม่อยากซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์นั้น ๆ ตามไปด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือ แทนที่จะเป็นแคมเปญหรือกลยุทธ์ที่มากระตุ้นยอดขาย กลับส่งผลให้ยอดขายนั้นลดลงเพราะแบรนด์ดูไม่ดี ก็เป็นได้..
References:
- http://www.thaismescenter.com/รู้จักไหม-การตลาดแบบ-lotto-marketing/
- http://www.gamblingstudy-th.org/issues_topic_1/280/1/1/การตลาดชวนพนัน/
- http://www.ichitandrink.com/summer2018/
- https://positioningmag.com/55922
ที่ผ่านมากลยุทธ์การตลาดที่ถูกนำมาใช้ เพื่อกระตุ้นยอดขาย ก็อย่างเช่น การลด แลก แจก แถม หรือการซื้อ 1 แถม 1 แต่ในบทความนี้ เราจะให้ทุกคนได้รู้จักกับอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เรียกว่า “Lotto Marketing” หรือการตลาดแบบเสี่ยงดวง
โดย Lotto Marketing เป็นกลยุทธ์ที่บริษัทหลายแห่ง นิยมนำมาสร้างยอดขายให้กับธุรกิจ
Lotto Marketing คืออะไร ทำไมหลายครั้งจึงช่วยให้ยอดขายของบริษัทนั้น ประสบความสำเร็จ ?
BrandCase จะสรุปให้ฟัง..
ถ้าถามว่า หนึ่งในกิจกรรมที่คนจำนวนไม่น้อยชื่นชอบ มีอะไรบ้าง ?
หนึ่งในนั้นก็น่าจะมีเรื่องของการเสี่ยงดวง และการเสี่ยงโชครวมอยู่ด้วย
ซึ่งคงไม่เกินเลย ถ้าจะบอกว่า การรักเรื่องของการเสี่ยงโชคนั้นอยู่ใน DNA ของใครหลาย ๆ คน
เราจึงมักเห็นหลาย ๆ ธุรกิจ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องของการเสี่ยงดวง และการเสี่ยงโชคมากมาย
เช่น หวยใต้ดิน สลากกินแบ่งรัฐบาล หรือแม้แต่ธุรกิจการพนัน ที่มักได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้นักการตลาดเริ่มนำเอาเรื่องของการเสี่ยงโชค มาเป็นกลยุทธ์ที่ใช้กระตุ้นยอดขาย ด้วยการให้ผู้บริโภคเข้ามาร่วมสนุกผ่านการเสี่ยงโชค และตั้งชื่อกลยุทธ์นี้ว่า “Lotto Marketing”
และนี่คือคำจำกัดความของ กลยุทธ์ Lotto Marketing คือ ง่าย-กระตุ้น-ลุ้นถี่
- ง่าย
กลยุทธ์นี้ต้องทำให้ผู้บริโภคที่มาร่วมสนุกนั้น สามารถสมัครเข้ามาได้อย่างง่าย ๆ โดยไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากและซับซ้อน
เช่น ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าอย่างเครื่องดื่ม ก็เพียงแค่ใช้รหัสที่อยู่ใต้ฝา บนฉลากสินค้า หรือในใบเสร็จรับเงิน แล้วส่งรหัสเหล่านั้นผ่านทาง SMS เพื่อเข้าลุ้นรางวัลได้เลย
เรียกว่า ถ้าซื้อสินค้าปุ๊บ เปิดปั๊บ ก็สามารถเข้าร่วมการชิงโชคได้ทันที
ยิ่งการเข้าร่วมกิจกรรมง่ายเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาร่วมกิจกรรมได้มากขึ้นเท่านั้น
- กระตุ้น
หนึ่งในวิธีที่ช่วยกระตุ้นลูกค้าก็คือ การเลือกรางวัลที่นำมาให้ผู้บริโภคร่วมลุ้นสนุก
ยิ่งถ้าเป็นรางวัลที่มีมูลค่าสูง เช่น ทองคำ รถยนต์ ตั๋วเครื่องบินเดินทางไปท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมพิเศษในต่างประเทศ รวมไปถึงการแจกสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด
รางวัลต่าง ๆ เหล่านี้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้า เพื่อร่วมลุ้นชิงโชคได้ง่ายขึ้น
- ลุ้นถี่
นอกจากจะต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างง่าย ๆ และกระตุ้นให้เกิดความอยากด้วยการนำรางวัลที่น่าสนใจมาร่วมในกิจกรรมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือการวางแผนกิจกรรม ให้มีการออกผลรางวัลให้ถี่มาก ๆ เช่น ประกาศเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายวัน
เพราะยิ่งออกผลรางวัลถี่มาก ๆ ก็จะมีโอกาสกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าและบริการมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มีโอกาสที่จะกระตุ้นยอดขายสินค้าได้มากขึ้นตามไปด้วย
แล้วอะไรคือเหตุผลที่ทำให้ผู้บริโภคชอบกิจกรรมลุ้นโชคแบบนี้ ?
1. ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า โดยสินค้าบางอย่างราคาก็ไม่ได้สูง เช่น ซื้อสินค้าในราคาเพียงแค่ไม่กี่สิบบาท ก็สามารถเข้าร่วมกิจกรรมชิงโชคได้แล้ว ซึ่งก็ถูกกว่าซื้อหวย หรือลอตเตอรี่
โดยรางวัลที่มีโอกาสได้นั้น มีมูลค่าเป็น “ทวีคูณ” กับเงินที่เสียไปเพื่อให้ได้สินค้านั้นมา
2. มีโอกาสได้ลุ้นมากกว่าการซื้อหวย หรือลอตเตอรี่ หากกิจกรรมชิงโชคมีความถี่มากกว่า
แล้วที่ผ่านมามีธุรกิจไหนที่นำกลยุทธ์ Lotto Marketing มาใช้บ้าง ?
ตัวอย่างธุรกิจที่นำกลยุทธ์ Lotto Marketing มาใช้ จนกลายเป็นไวรัลก็หนีไม่พ้น ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม เช่น ชาเขียวของอิชิตัน เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว
โดยอิชิตัน ได้ริเริ่มนำแคมเปญที่มีชื่อว่า “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง” ซึ่งเป็นการพลิกรูปแบบกิจกรรมการตลาดเมืองไทย ที่เมื่อก่อนจะมีแต่การส่งชิ้นส่วนชิงโชคมาที่รายการใดรายการหนึ่ง แล้วประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทางโทรทัศน์
แต่อิชิตันเปลี่ยนมาเป็นการส่งรหัสใต้ฝา เพื่อชิงโชคผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม จนเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้แบรนด์อิชิตันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
ซึ่งแคมเปญดังกล่าว ก็เป็นกลยุทธ์ของ Lotto Marketing เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่าการที่แบรนด์หรือธุรกิจใด ๆ ก็ตาม จะนำแคมเปญ หรือกลยุทธ์นี้มาใช้ ก็ต้องคำนึงถึงเรื่องการจัดหาของรางวัลให้ดี
เช่น การใช้ของรางวัลที่มีราคาสูงจนเกินไป ก็จะทำให้ธุรกิจนั้นมีต้นทุนที่สูงสำหรับการทำการตลาดในแคมเปญนั้นด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ แบรนด์ก็ควรทำการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคด้วยว่า ในแต่ละช่วงเวลานั้น ผู้บริโภคต้องการรางวัลลักษณะใด
เพราะถ้าเป็นรางวัลแบบจำเจ ไม่มีอะไรแปลกใหม่ สุดท้ายก็อาจทำให้ผู้บริโภครู้สึกเบื่อหน่ายกับแคมเปญหรือกลยุทธ์ดังกล่าว และไม่อยากร่วมกิจกรรมลุ้นโชค
ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะพาลให้ไม่อยากซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์นั้น ๆ ตามไปด้วย
พูดง่าย ๆ ก็คือ แทนที่จะเป็นแคมเปญหรือกลยุทธ์ที่มากระตุ้นยอดขาย กลับส่งผลให้ยอดขายนั้นลดลงเพราะแบรนด์ดูไม่ดี ก็เป็นได้..
References:
- http://www.thaismescenter.com/รู้จักไหม-การตลาดแบบ-lotto-marketing/
- http://www.gamblingstudy-th.org/issues_topic_1/280/1/1/การตลาดชวนพนัน/
- http://www.ichitandrink.com/summer2018/
- https://positioningmag.com/55922