กรณีศึกษา Yamazaki บริษัทขายขนมปังอบ ที่ใหญ่สุดในโลก

กรณีศึกษา Yamazaki บริษัทขายขนมปังอบ ที่ใหญ่สุดในโลก | BrandCase
ปัจจุบัน เราเห็นแบรนด์ร้านขนมปังมากมายตามสถานที่ต่าง ๆ
ซึ่งหนึ่งในนั้นก็รวมถึงแบรนด์ “Yamazaki” ที่หน้าร้านมีป้ายสีแดง ๆ และหลายคนน่าจะเคยเห็น หรือเคยเข้าไปใช้บริการกันมาบ้าง
รู้ไหมว่า Yamazaki เป็นบริษัททำขนมปังอบ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยปัจจุบัน บริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว มีมูลค่าบริษัทประมาณ 97,000 ล้านบาท
และ Yamazaki ก็เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย เกือบ 4 ทศวรรษแล้ว
เส้นทางของ Yamazaki เป็นอย่างไร ? BrandCase จะสรุปให้ฟัง
Yamazaki ก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1948 โดยคุณโทจูโร อิจิมะ เพราะเขาเห็นว่าโอกาสในตลาดเบเกอรีที่นั่นค่อนข้างเปิดกว้าง
หลังจากที่เขาสังเกตเห็นว่า ขนมปังสไตล์ตะวันตก กำลังค่อย ๆ ได้รับความนิยมในญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
หนึ่งปีหลังจากผลิตขนมปัง บริษัทก็เริ่มผลิตลูกอมออกมาขาย
ซึ่งก็ต้องบอกว่า ในช่วงแรก ๆ นั้น กระบวนการผลิตของ Yamazaki ยังเป็นการผลิตสินค้าในปริมาณน้อย ๆ
แต่สินค้าของ Yamazaki นั้น ได้รับผลตอบรับที่ถือว่าดีเกินคาด ทำให้คุณโทจูโร ก่อตั้งโรงงานเพื่อผลิตสินค้าดังกล่าวขึ้นในปี 1951
จนนำไปสู่การผลิตสินค้าแบบ Mass Production หรือการผลิตสินค้าจำนวนมาก เพื่อทำให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง ตั้งแต่ปี 1955
หลังจากนั้นคุณโทจูโร จึงมีการนำเอาเทคโนโลยีการผลิตขนมปังที่ทันสมัย รวมไปถึงอุปกรณ์ในการทำแพ็กเกจจิงที่มีประสิทธิภาพจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป มาใช้ในโรงงาน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้จากที่เริ่มผลิตขนมปังเพียงไม่กี่ชนิดในช่วงแรก Yamazaki ก็เริ่มเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
เช่น เริ่มผลิตขนมและเค้กสไตล์ญี่ปุ่นและยุโรป, ขนมปังและแซนด์วิชปรุงสุก, ขนมทานเล่นอื่น ๆ
ปัจจุบัน Yamazaki ถือเป็นหนึ่งในซัปพลายเออร์รายใหญ่แห่งหนึ่ง ในการจัดหาขนมปังและผลิตภัณฑ์ขนมปังให้กับกลุ่มซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารภายในญี่ปุ่น
โดยช่องทางในการขายสินค้าของ Yamazaki ในญี่ปุ่นนั้น มีมากกว่า 100,000 ช่องทาง ผ่านทางร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านของ Yamazaki เอง
แต่ช่องทางการขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ
เพราะร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นประมาณ 53,000 ร้าน ซึ่ง 95% ของจำนวนร้านสะดวกซื้อทั้งหมดของญี่ปุ่นนั้น จะมีสินค้าของ Yamazaki วางขายอยู่
สำหรับการขยายสาขาที่ต่างประเทศนั้น หลังจากที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นแล้ว Yamazaki ก็เริ่มขยายสาขาไปยังต่างประเทศ
โดยเริ่มจากสหรัฐอเมริกาในปี 1977 ตามมาด้วยหลายประเทศในเอเชีย เช่น ฮ่องกง, ไทย, ไต้หวัน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ รวมทั้งในยุโรป
ซึ่งสหรัฐอเมริกานั้น ถือเป็นตลาดฝั่งตะวันตก ที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท
โดยจุดเด่นสำคัญของ Yamazaki ที่ทำให้ผู้บริโภคหลายคนติดใจ
คือแนวคิดของการทำขนมปังสไตล์สดใหม่จากเตา ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในต่างประเทศ
แล้ว Yamazaki Baking มีผลประกอบการเป็นอย่างไร
ปี 2020 รายได้ 264,000 ล้านบาท กำไร 1,800 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 273,000 ล้านบาท กำไร 2,700 ล้านบาท
สำหรับประเทศไทยนั้น Yamazaki เข้ามาเปิดสาขาแรกในปี 1984 นับจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 38 ปี
ดำเนินการโดย บริษัท ไทย ยามาซากิ จำกัด
ซึ่งผลประกอบการปี 2021 รายได้ 807 ล้านบาท กำไร 0.7 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ถ้าไปเปิดดูผลประกอบการ ช่วง 2 ปี ก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด 19
ปี 2018 รายได้ 1,006 ล้านบาท กำไร 14.4 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 1,013 ล้านบาท กำไร 22.8 ล้านบาท
จะเห็นว่าก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 บริษัทมีรายได้หลักพันล้านบาท และกำไรหลักสิบกว่าล้านบาท
ซึ่งมันก็คงสะท้อนว่า บริษัทคงได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ไม่น้อย เลยทีเดียว..
References:
-https://www.encyclopedia.com/books/politics-and-business-magazines/yamazaki-baking-co-ltd
-https://www.yamazakipan.co.jp/english/invester_info/segment/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Yamazaki_Baking
-https://www.statista.com/statistics/871768/yamazaki-baking-stores-numbers-by-sales-channel/
-https://www.yamazakipan.co.jp/english/invester_info/f_results/pdf/fiscal2021results.pdf