กรณีศึกษา หมูทอดเจ๊จง ขายดี ทั้งที่เคย ทำกับข้าวไม่เก่ง

กรณีศึกษา หมูทอดเจ๊จง ขายดี ทั้งที่เคย ทำกับข้าวไม่เก่ง

11 ส.ค. 2022
กรณีศึกษา หมูทอดเจ๊จง ขายดี ทั้งที่เคย ทำกับข้าวไม่เก่ง | BrandCase
หลายคนอาจไม่รู้ว่า “หมูทอดเจ๊จง” นั้น เกิดขึ้นมาจากผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำกับข้าวไม่เก่ง
แต่ด้วยแรงผลักดันที่ต้องการให้ครอบครัวหลุดพ้นจากปัญหาหนี้สิน ทำให้สุดท้ายเธอได้มาก่อตั้งธุรกิจหมูทอด ที่หลายคนเรียกกันติดปากว่า “หมูทอดเจ๊จง”
แล้วทำไม จากคนที่ทำกับข้าวไม่เก่ง ถึงสามารถสร้างธุรกิจหมูทอด ที่ประสบความสำเร็จอย่างในวันนี้ BrandCase จะเล่าเคสนี้ของเจ๊จง ให้เข้าใจแบบง่าย ๆ
ผู้ก่อตั้งธุรกิจหมูทอดเจ๊จง คือ คุณจงใจ กิจแสวง หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ “เจ๊จง”
อดีตเคยเปิดร้านขายของชำเลี้ยงครอบครัว
ซึ่งก็ต้องบอกว่า ธุรกิจขายของชำของเจ๊จงนั้นจบลงไม่สวย เนื่องจากมีปัญหาในการทำธุรกิจหลายอย่าง
เจ๊จงปิดตัวร้านขายของชำลงพร้อมกับหนี้สิน และบอกว่าการเป็นหนี้สินนั้น ทำให้เธอนอนไม่หลับ เพราะรู้สึกเป็นทุกข์ จนครั้งหนึ่งถึงขนาดเคยคิดฆ่าตัวตาย เพื่อหนีปัญหาเหล่านี้
วันหนึ่งมีคนมาแนะนำให้เจ๊จง ลองมาขายข้าวแกงบุฟเฟต์ดู
แต่ด้วยความที่เธอทำกับข้าวไม่เก่ง
เธอจึงเดินไปที่ร้านหนังสือ เพื่อหาวิธีทำกับข้าวอร่อย ๆ
หลังจากอ่านไปสักพัก เจ๊จงก็คิดว่าตัวเองน่าจะทำได้
จึงจดจำคำแนะนำในหนังสือ แล้วมาลองทำกับข้าวที่บ้าน
แม้ในตอนแรก ทางคุณพ่อและคุณแม่ของเจ๊จง จะไม่เห็นด้วย
แถมยังบอกว่า ทำไปก็มีโอกาสขาดทุนสูง แต่สำหรับเจ๊จงเธอบอกว่า อยากลองทำไปก่อน ถ้าขายได้ไม่ดีค่อยเปลี่ยนไปขายอย่างอื่น เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว
แม้ธุรกิจข้าวแกงบุฟเฟต์จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าในระดับหนึ่ง แต่รายได้ก็ยังไม่เพียงพอต่อการใช้หนี้ เธอจึงอยากขายอะไรเพิ่มอีก
วันหนึ่ง เจ๊จงได้ไปซื้อหมูทอดราดข้าวให้ลูกไปกินที่โรงเรียน
แต่เมื่อเปิดกล่องออกมาพบว่า ภายในกล่องข้าวนั้น มีหมูทอดชิ้นบาง ๆ อยู่เพียงแค่ 4 ชิ้น
ทำให้วันนั้นเธอจึงบอกลูกว่า วันพรุ่งนี้ แม่จะลองขายหมูทอดเพิ่มไปด้วย
เจ๊จงทดลองตลาด และหารายได้เพิ่มไปในตัว
ด้วยการไปซื้อหมูสามชั้นมาหมัก ชุบแป้งทอด แล้วขายให้ลูกค้าที่ร้านทานในช่วงบ่าย หลังจากที่ข้าวราดแกงบุฟเฟต์ขายหมดในตอนเที่ยง
ในระหว่างที่ขายนั้น เจ๊จงก็ค่อย ๆ พัฒนาและปรับปรุงรสชาติของหมูทอดเจ๊จง จนกระทั่งได้สูตรที่ลงตัว และเป็นที่ติดอกติดใจลูกค้า
จากเดิมที่ขายเฉพาะช่วงบ่าย หลังขายข้าวแกงหมด แต่กลับมีลูกค้ามารอสั่งซื้อหมูทอดตั้งแต่ช่วงเช้า มากขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อหมูทอดเริ่มเป็นที่ต้องการของลูกค้า มากกว่าข้าวแกงบุฟเฟต์ ประกอบกับการที่เจ๊จงต้องย้ายร้าน
สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจมาขายเพียงแค่หมูทอดที่เป็นสินค้าหลัก
จนสุดท้ายก็ขายดี และกลายมาเป็นหนึ่งในร้านหมูทอด ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในที่สุด
โดยปี 2564 บริษัท ร้านหมูทอดเจ๊จง จำกัด มีรายได้ประมาณ 19 ล้านบาท
นอกจากนี้ เจ๊จงมักชอบคืนประโยชน์ให้แก่สังคม เช่น อยากให้ลูกค้าทานให้อิ่ม จึงให้ลูกค้าสามารถเติมข้าวฟรีได้ไม่อั้น รวมถึงยังมีผักและมีกล้วยให้ทานฟรีด้วย
ซึ่งถ้ามองในแง่กลยุทธ์การตลาดนั้น กลยุทธ์นี้ ก็ยิ่งช่วยให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่า พร้อมที่จะมาซื้อสินค้าของเจ๊จงซ้ำ ๆ ทุกวัน
และยังเกิดการบอกต่อกันอีกด้วย ซึ่งเป็นการช่วยกันประชาสัมพันธ์ ร้านหมูทอดเจ๊จง ไปในตัว
เรื่องราวของหมูทอดเจ๊จง บอกเราว่า ชีวิตของคนเรานั้น ต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ และกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า
ถึงเจ๊จงจะเคยทำกับข้าวไม่เก่งมาก่อน
แต่เปิดใจมองหาความรู้ จนนำไปสู่การเริ่มต้นขายข้าวแกงบุฟเฟต์
รวมไปถึงการเปลี่ยนจากขายข้าวแกงบุฟเฟต์ มาขายหมูทอด
จริงอยู่ที่ว่า ไม่มีใครรู้ ว่าการเปลี่ยนแปลง จะเกิดสิ่งที่ดีหรือแย่ลงตามมา
แต่หากเปลี่ยนแล้วมันดี เราก็เพียงแค่ตั้งใจทำออกมาให้เต็มที่
สุดท้ายความสำเร็จก็จะตามมาได้ เหมือนอย่างเคสของ หมูทอดเจ๊จง ในวันนี้..
References
-https://taokaemai.com/หมูทอดเจ๊จง-จากล้มละลาย/
-https://www.youtube.com/watch?v=ot0YJi7hIak
-https://www.softbankthai.com/Article/Detail/1918
-https://www.facebook.com/JehJong/photos/a.603136066372195/5455359284483158/?type=3
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.