<ผู้สนับสนุน> กรุงเทพฯ ในปี 2020

<ผู้สนับสนุน> กรุงเทพฯ ในปี 2020

24 มี.ค. 2018
<ผู้สนับสนุน>
กรุงเทพฯ ในปี 2020 / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนเคยเขียนถึงโลกในปี 2030 ไปแล้ว ว่าจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
แต่สำหรับบางคนอาจรู้สึกว่ายังเป็นเรื่องที่ไกลตัว มองเห็นภาพไม่ค่อยชัด เพราะยังเหลือเวลาอีกตั้งนาน
คำถามที่น่าสนใจกว่า คงจะกลายมาเป็นว่า
แล้วกรุงเทพมหานครในปี 2020 หรือในอีกแค่ไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
รู้หรือไม่ว่า ปี 2020 อาจเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดในโลก
การเปลี่ยนแปลงนั้นคืออะไร?
โครงการที่ใหญ่ที่สุดของเราในตอนนี้ คงหนีไม่พ้นโครงการรถไฟฟ้าสารพัดสีที่กำลังเกิดขึ้น
จากเดิมเมื่อหลายปีก่อน เวลาเรามองดูแผนที่รถไฟฟ้าในบ้านเรา แล้วเห็นเส้นทางเดินรถเพียงแค่ไม่กี่เส้น ถ้าลองเอาไปเทียบกับระบบรถไฟในเมืองอย่างโตเกียว ที่มี 13 เส้นทาง 285 สถานี ก็คงเรียกได้ว่า เทียบกันไม่ได้
ซึ่งเส้นทางทีมีอยู่ในทุกวันนี้ คงไม่เพียงพอที่จะแก้โจทย์การเดินทางที่แสนยากลำบากของคนในกรุงเทพฯ หนึ่งในเมืองที่ รถติดที่สุดในโลก
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันกรุงเทพฯ ครองตำแหน่งอันดับ 2 เมืองที่รถติดที่สุดมากที่สุดในโลก (ผลสำรวจจาก เมืองใหญ่ 390 เมืองใน 48 ประเทศโดย บริษัท ทอมทอม ผู้ผลิตอุปกรณ์ GPS)
แต่เมื่อโครงการทั้งหมดเสร็จสิ้นลง ไม่ว่าจะเป็น สายสีส้ม สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีชมพู สีทอง สีเทา สีแดงเข้ม และสีแดงอ่อน ทั้งที่เป็นเส้นทางใหม่และส่วนต่อขยาย รวมระยะทาง 303 กิโลเมตร และจำนวนสถานีที่เพิ่มขึ้นอีก 216 สถานี
แผนที่รถไฟฟ้าบ้านเรา จะเริ่มมีหน้าตาที่ดูคล้ายกับ แผนที่รถไฟฟ้าในโตเกียว หรือ ลอนดอนเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบรถไฟ
โครงการนี้จะเปลี่ยนชีวิตคนในเมืองอย่างไร?
คนในเมืองจะมีทางเลือกในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
เราจะมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถ ใช้ถนนที่น้อยลง
การเดินทางจากจุดนึงไปอีกจุดนึงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะสามารถกำหนดเวลาได้มากขึ้น
แค่การไปถึงจุดหมายได้ทันเวลา ซึ่งอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจให้กับคนทั้งเมืองได้เป็นอย่างมาก
โครงการนี้จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ไปในทิศทางไหน?
พื้นที่เศรษฐกิจที่ปัจจุบันจะกระจุกตัวกันอยู่แค่ในไม่กี่พื้นที่ จะเริ่มกระจายตัวออกไปสู่รอบนอกมากขึ้นเรื่อยๆ
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ใครก็อยากเข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตใจกลางเมือง ก็เพราะมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทำให้เกิดความสะดวกในการใช้ชีวิตประจำวัน
การลงทุนที่ว่า ก็ไล่ตั้งแต่ระบบสาธารณูปโภค ออฟฟิศสำนักงาน โครงการที่อยู่อาศัย โรงเรียน โรงพยาบาล ไปจนถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ
และเราก็รู้กันดีว่า ปัจจัยเหล่านี้ นอกจากจะส่งผลต่อราคาที่ดินแล้ว ยังมีผลต่อการตัดสินใจเวลาเราเลือกที่อยู่อาศัยทั้งเพื่อที่จะอยู่เอง และเพื่อปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ
อย่างไรก็ตาม โครงการรถไฟฟ้าทั้งหมดนี้ คงจะไม่ได้เสร็จสิ้นทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น แต่คงต้องใช้เวลาอีกเป็นสิบปี
แต่ถ้าเรามองที่ปี 2020 หรือ อีก 2 ปีข้างหน้า จะมีโครงการไหนที่เป็นรูปเป็นร่างแล้วบ้าง ?
โครงการที่เริ่มก่อสร้างแล้ว มีทั้งหมด 6 โครงการ
1. สายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และเตาปูน-ท่าพระ กำหนดเปิดให้บริการปี 2019 และ 2020 ตามลำดับ
2. สายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปรการ กำหนดเปิดให้บริการปี 2018
3. สายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เปิดให้บริการปี 2020
4. สายสีส้ม ฝั่งตะวันออก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี กำหนดเปิดให้บริการปี 2023
5. สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน กำหนดเปิดให้บริการปี 2020
6. สายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต กำหนดเปิดให้บริการปี 2020
โครงการที่กำลังจะสร้างในปีนี้ อีก 3 โครงการ
1. สายสีส้ม ฝั่งตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-ตลิ่งชัน กำหนดเปิดให้บริการปี 2024
2. สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี
3. สายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง
ในวันที่โครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ เราคงจะมีระบบขนส่งสาธารณะที่ครบวงจร และจะทำให้การเดินทางไปไหนมาไหนที่เดิมเคยรู้สึกว่าไกล จะกลายเป็นใกล้ขึ้นมาทันที
เราอาจจะตกใจถ้าจะบอกว่า กรุงเทพมหานคร ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอาจดูคล้ายกับ โตเกียว ที่เราเห็นคนส่วนใหญ่เดินทางด้วยรถไฟ
เมื่อพื้นที่ได้รับการพัฒนาในด้านของโครงสร้างพื้นฐานแล้ว สิ่งอื่นๆ ก็จะทยอยตามมา
และอีกสิ่งหนึ่งที่โตไปพร้อมกับความเจริญ ก็คือราคาที่ดิน ที่จะส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยอีกที โดยเฉพาะกับคอนโดมิเนียมที่ส่วนใหญ่จะอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งถ้าดูจากดัชนีราคาคอนโดมิเนียมก็มีการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามที่ดินแทบทุกปี โดยในปี 2559 โตขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
METRIS คอนโดตึกสูงจาก Major Development มี 2 โครงการที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่น่าสนใจ
ที่แรกคือ METRIS ลาดพร้าว
คอนโดสูง 29 ชั้น 193 ห้อง
ตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณห้าแยกลาดพร้าว ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน 250 เมตร
ซึ่งจริงๆ ก็เป็นพื้นที่ที่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว เพราะอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลลาดพร้าวและสวนจตุจักร
แต่ที่น่าสนใจคือ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทำเลนี้จะมีรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 1 เส้น คือ สายสีเขียว ที่จะวิ่งต่อจากสถานีหมอชิตไปทางรัชโยธิน และจะมีสถานีรถไฟฟ้า BTS ห้าแยกลาดพร้าวเพิ่มเข้ามาอีก
อีกที่คือ METRIS พระราม9 - รามคำแหง
คอนโดสูง 33 ชั้น 570 ห้อง
ตั้งอยู่ตรงสี่แยกรามคำแหง ติดถนนหลัก 2 เส้น และเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มเสร็จ จะอยู่ห่างจากสถานีรามคำแหง 300 เมตร
เป็นอีกหนึ่งทำเลที่กำลังได้รับความนิยม เพราะอยู่ไม่ห่างจากใจกลางเมือง และยังอยู่ใกล้กับสถานี Airport Link รามคำแหง ทำให้สะดวกต่อการเดินทางเข้าเมืองหรือไปสนามบินก็ได้
รวมถึงยังมีห้างเดอะมอลล์รามคำแหงที่กำลังปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย ก็น่าจะทำให้บรรยากาศย่านรามคำแหงคึกคักมากขึ้นอีก
และในอนาคต ทำเลนี้ก็จะถูกล้อมไปด้วยรถไฟฟ้า เพราะนอกจาก MRT สายสีส้มที่จะผ่านรามคำแหงโดยตรงแล้ว ยังมี BTS สายสีเหลืองอีกเส้นที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
เราคงจะเห็นได้ว่า คอนโด METRIS by Major Development ทั้ง 2 แห่งนี้ ต่างตั้งอยู่ภายในบริเวณที่เป็นเครือข่ายระบบรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
ถือได้ว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจ บนทำเลที่ความเจริญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ น่าจะเหมาะทั้งสำหรับคนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัยเองในกรุงเทพฯ เพราะคอนโดจะสร้างเสร็จในปี 2020 พอดี เราจะสามารถเดินทางไปทำงานได้สะดวก ไม่ต้องทนรถติดเวลาจะเข้าเมือง แต่ก็ยังรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่จะทำให้การใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นไปได้ตามใจเรา..
ชมห้องตัวอย่างได้แล้ววันนี้
METRIS ลาดพร้าว คลิก https://goo.gl/wpzv8u
METRIS พระราม9-รามคำแหง คลิก https://goo.gl/zyhAP4
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.