Invisalign นวัตกรรมจัดฟันใส ล้านล้าน

Invisalign นวัตกรรมจัดฟันใส ล้านล้าน

9 ส.ค. 2021
Invisalign นวัตกรรมจัดฟันใส ล้านล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากเราพูดถึงเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดฟัน
หนึ่งในนั้นก็ต้องมีชื่อของ “Invisalign” หรือการจัดฟันแบบใส
ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการจัดฟัน ภายใต้บริษัท Align Technology
รู้หรือไม่ว่าบริษัทแห่งนี้ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq
และถือเป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีมูลค่าเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปัจจุบัน มีมูลค่าบริษัท 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 7.6 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน
เราเคยสงสัยไหมว่า การจัดฟันเริ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร
แล้วบริษัท Align Technology น่าสนใจขนาดไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จริง ๆ แล้ว หลักฐานทางประวัติศาสตร์ระบุว่าการจัดฟัน มีมาตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
อ้างอิงจากการพบเครื่องมือทันตกรรมและอุปกรณ์จัดฟันที่ถูกผลิตขึ้น
โดยสมัยนั้นมีวัสดุเป็นทองคำ
หลังจากช่วงอียิปต์โบราณ การจัดฟันก็ยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากนัก
จนกระทั่งมาถึงศตวรรษที่ 19 ก็ได้มีการใช้คำศัพท์ “Orthodontics”
แปลว่าการจัดฟันอย่างเป็นทางการ
คำดังกล่าวถูกคิดค้นขึ้นโดย คุณ Pierre-Joachim Lefoulon หมอฟันชาวฝรั่งเศส
ที่เป็นผู้เรียบเรียงหนังสือ The Surgeon Dentist ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดฟัน
ซึ่งปัจจุบันได้รับการยอมรับให้กลายมาเป็นวิธีแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน
รวมถึงเป็นการรักษาสภาพเหงือกและฟันให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
รู้หรือไม่ว่ากว่า 60% ของประชากรทั่วโลกประสบปัญหาเรื่องการเรียงตัวของฟัน
ซึ่งในกลุ่มประชากรในประเทศพัฒนาแล้ว พบว่ามีการจัดฟันเฉลี่ยราว 15 ล้านรายต่อปี
จากภาพรวมตรงนี้ สะท้อนให้เห็นว่าการจัดฟันถือเป็นหนึ่งในธุรกิจ ที่มีความข้องเกี่ยวกับประชากรเป็นจำนวนมากและกำลังเติบโต โดยมีการคาดการณ์ว่าตลาดการจัดฟันจะมีมูลค่าราว 350,000 ล้านบาทในปี 2027
ทีนี้ เรามาดูกันว่า Invisalign หรือนวัตกรรมการจัดฟันด้วยพลาสติกใส
ถูกคิดค้นขึ้นมาเมื่อไร แล้วใครเป็นคนคิด ?
Invisalign เป็นชื่อเรียกของระบบการจัดฟันใส มีความหมายตรงไปตรงมา
ผสมกันระหว่างคำว่า “Invisible” แปลว่าล่องหน รวมกับ “Aligners” แปลว่าการจัดฟัน
เทคโนโลยีดังกล่าว เป็นของบริษัท Align Technology ที่มีจุดเริ่มต้น
มาจากอดีตนักศึกษา Stanford University 2 คน ก็คือ Kelsey Wirth และ Zia Chishti
หนึ่งในผู้ก่อตั้ง หรือ Chishti พบว่าหลังจากที่จัดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะพิมพ์ฟันของเรา
หลังจากนั้น ก็จะนำไปทำเป็นรีเทนเนอร์พลาสติก เพื่อให้เราใส่ไว้เพื่อคงสภาพฟัน
ให้เป็นระเบียบ ถือเป็น Post Treatment หรือการดูแลรักษาหลังถอดแบร็กเกต
หรืออุปกรณ์จำพวกโลหะ ลวดและยางออกไปแล้ว
จุดนี้เอง Chishti จึงได้ไอเดียขึ้นมาว่าแล้วทำไมเรายังต้องใช้เครื่องมือ
ที่ต้องติดอยู่กับฟันเราถาวรแบบนี้ เป็นระยะเวลาหลายปี

ทั้ง ๆ ที่รีเทนเนอร์พลาสติกใส แบบที่ใช้ทำรีเทนเนอร์ ก็น่าจะมีคุณสมบัติ
ในการเคลื่อนฟันและคงสภาพฟันให้เป็นระเบียบได้เหมือนกัน
นั่นจึงทำให้หลังจากนั้น Wirth และ Chishti เริ่มพัฒนาเครื่องมือพลาสติกใส
สำหรับการจัดฟันขึ้นมา เพื่อหวังว่ามันจะเข้าไปแก้ไขปัญหาการจัดฟันแบบดั้งเดิม
ด้วยความที่ทั้ง 2 ผู้ก่อตั้ง มีพื้นฐานการศึกษาสาขาวิชาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
พวกเขาก็ได้เริ่มจำลองอุปกรณ์ต้นแบบบนโปรแกรมออกแบบ 3 มิติ
ก่อนที่จะนำต้นแบบไปนำเสนอ จนมีคนสนใจเข้าร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับพวกเขาอีก 2 คน
ในที่สุด พวกเขาก็ได้นำไอเดียดังกล่าวมาก่อตั้งเป็นธุรกิจผลิตอุปกรณ์จัดฟันใส
ภายใต้บริษัทที่ชื่อว่า “Align Technology” ในปี 1997
Align Technology ได้นำเทคโนโลยีการออกแบบ 3 มิติและการพิมพ์ 3 มิติ
มาพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ของทางบริษัทเอง เพื่อนำไปใช้สำหรับจัดทำเครื่องมือจัดฟันใส
นอกจากนั้น บริษัทก็มีการนำปัญญาประดิษฐ์มาใช้ศึกษาข้อมูลคนไข้ใหม่
รวมถึงศึกษาจากข้อมูลฐานคนไข้เดิมเพื่อนำไปออกแบบเครื่องมือ
ให้เข้ากับรูปฟันของคนไข้แต่ละราย ทั้งหมดนี้ ถูกเรียกว่า “Invisalign System”
หลังจากก่อตั้งบริษัท 2 ปี อุปกรณ์จัดฟันใสของบริษัทก็ถูกพัฒนาขึ้นจนสำเร็จ
และก็ได้การรับรองจาก FDA หรือองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
โดยบริษัทก็ได้เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่นั้นมาและสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ได้
หลังจากก่อตั้งธุรกิจได้เพียง 4 ปี
และในปี 2011 บริษัทได้เข้าซื้อบริษัทพัฒนาเครื่องสแกนช่องปาก iTero
เพื่อนำมาพัฒนาระบบให้วิเคราะห์ปัญหาของคนไข้ได้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น
แล้วปัจจุบัน Align Technology ใหญ่ขนาดไหน ?
ปัจจุบัน บริษัท Align Technology ดำเนินธุรกิจมา 24 ปี รักษาคนไข้และมีฐานข้อมูลคนไข้
อยู่บนระบบกว่า 10.2 ล้านเคส และได้ขยายฐานลูกค้าครอบคลุมแทบทุกช่วงอายุ
แบ่งกลุ่มคนไข้ออกเป็นวัยรุ่น 25% และผู้ใหญ่ 75%
หากเรามาดูผลประกอบการของ Align Technology ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2017 รายได้ 48,770 ล้านบาท กำไร 7,660 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 64,730 ล้านบาท กำไร 13,250 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 79,500 ล้านบาท กำไร 14,660 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าบริษัทมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด
มีรายได้และกำไรเติบโตเฉลี่ย 28% และ 38% ต่อปี
สำหรับในปี 2020 บริษัทก็ยังคงเติบโต แต่เติบโตในอัตราที่ต่ำลง เนื่องจากผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 81,800 ล้านบาท และมีกำไร 58,800 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีรายการพิเศษทางบัญชี
จึงทำให้กำไรเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ในขณะเดียวกัน หากเรามาดูผลประกอบการ
ไตรมาสที่ 2 ปี 2021 ที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้
ไตรมาสที่ 2 ปี 2020 รายได้ 11,670 ล้านบาท
ไตรมาสที่ 2 ปี 2021 รายได้ 33,457 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 187%
โดยการเติบโตเป็นผลมาจากการส่งมอบอุปกรณ์จัดฟันไปกว่า 665,500 เคส
สะท้อนให้เห็นว่า Invisalign ถือเป็นอีกธุรกิจที่มีความต้องการฟื้นตัวขึ้นมาทันที
หลังสถานการณ์โรคระบาดปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากการเติบโตของรายได้และกำไรแล้ว ข้อมูลจากผลประกอบการของ Align Technology ก็ยังถือว่ามีอีกหลายจุดที่น่าสนใจ
เรื่องแรกก็คือ จริง ๆ แล้ว บริษัทแห่งนี้มีกำไรขั้นต้น หรือ รายได้หักต้นทุน ที่สูงมาก
เฉลี่ยย้อนหลัง 4 ไตรมาส สูงถึง 74% หมายความว่าเครื่องมือจัดฟันใสของ Align Technology
มีความสามารถในการตั้งราคาที่แพงได้และยังมีคนยอมจ่าย
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการทำการตลาด ค่าคอมมิชชัน และเงินเดือนผู้บริหาร
สูงไม่แพ้กัน หรือที่เรียกรวมกันสั้น ๆ ว่า SG&A (Selling, General & Administrative Expenses)
ปี 2018 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 43%
ปี 2019 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 45%
ปี 2020 SG&A ต่อรายได้ คิดเป็น 49%
สำหรับค่าทำการตลาดก็เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ เนื่องจาก Invisalign
ยังนับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศนอกสหรัฐอเมริกา
ในขณะที่ค่าคอมมิชชัน ในที่นี้ก็คือคลินิกหรือโรงพยาบาลที่นำ Invisalign ไปให้บริการ
ซึ่งจุดนี้ก็ถือเป็นการกระตุ้นยอดขายทางอ้อม ของบริษัท โดยที่มีคุณหมอฟันเป็นผู้แนะนำสินค้าให้
ถึงตรงนี้ ก็น่าติดตามกันต่อไปว่านวัตกรรมจัดฟันใส Invisalign จะเติบโตไปได้อีกไกลแค่ไหน
เพราะหากให้ดูจากจำนวนผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับฟันไม่เรียงกันเป็นระเบียบนั้น
มีจำนวนมากเป็น 6 ใน 10 ของประชากรโลก ซึ่งนั่นก็อาจจะหมายถึงโอกาสในการเติบโตที่ไม่น้อย
ซึ่งนักลงทุน ก็น่าจะเห็นศักยภาพในการเติบโต เหมือน ๆ กัน
เพราะปัจจุบัน Align Technology มีมูลค่าบริษัทมากถึง 1.8 ล้านล้านบาท
หลังจากทำธุรกิจมาได้เพียง 24 ปี ใหญ่กว่าทุกบริษัทในตลาดหุ้นไทย
และซื้อขายกันที่ P/E สูงถึง 80 เท่า เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.washingtonpost.com/archive/lifestyle/wellness/1995/09/19/the-origins-of-orthodontics/3bf16abe-f5f1-4667-a143-54e5a5b77464/
-https://www.zippia.com/align-technology-careers-387/history/
-https://www.orchardscottsdental.com/the-startup-story-behind-invisalign/
-https://www.globenewswire.com/news-release/2021/01/21/2162193/0/en/Orthodontics-Market-Size-Worth-USD-10-60-Billion-by-2027-Surging-Demand-for-Cosmetic-Dentistry-Procedures-will-be-the-Key-Factor-Driving-the-Industry-Growth-States-Emergen-Research.html
-https://www.orthodonticslimited.com/orthodontics/orthodontics-history/
-https://investor.aligntech.com/static-files/c591d579-29b0-4abb-8dbc-31f10686c40b
-https://finance.yahoo.com/quote/ALGN/financials?p=ALGN
-https://investor.aligntech.com/static-files/766a6eaa-7cc7-4846-883b-ba65adcb1faa
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.