Tyson Foods บริษัทอาหารที่โตด้วยนวัตกรรมกับแนวคิดลงทุนในไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกระดับเอเซีย

Tyson Foods บริษัทอาหารที่โตด้วยนวัตกรรมกับแนวคิดลงทุนในไทยเพื่อเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกระดับเอเซีย

25 มิ.ย. 2022
Tyson Foods x ลงทุนแมน
เมื่อปีที่ผ่านมา Tyson Foods เป็นบริษัทอาหารที่มียอดขายสูงถึง 47,049 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 8.9% จากปี 2020
ถือเป็นหนึ่งในบริษัทอาหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนชั้นนำ
โดยดำเนินธุรกิจมายาวนานถึง 87 ปี ด้วยเจตนารมย์เดียวกันทั่วโลก คือต้องการ “ยกระดับความคาดหวังในเรื่องอาหารของคนทั่วโลกว่า
‘อาหารที่ดี’ สามารถสร้างประโยชน์ได้มากมาย” หรือ “Raising the world’s expectations for how much good food can do”
แนวคิดนี้เองทำให้ทุกผลิตภัณฑ์ของ Tyson Foods ได้รับความนิยมในทุกๆ ประเทศที่เข้าไปทำตลาด
โดยปัจจุบันกลายเป็นบริษัทอาหารที่มีเครือข่ายธุรกิจกว่า 150 ประเทศทั่วโลก มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมโปรตีนหลากหลายประเภท
ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ เนื้อวัว ปลา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากโปรตีนจากพืช (Plant-based) รวมไปถึงเนื้อสัตว์แบบสดด้วย
โดยกลุ่มลูกค้า Tyson Foods จะมีทั้งกลุ่ม B2B ที่เป็นเครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟูดแบรนด์ดังระดับโลก
ที่เลือกใช้เนื้อสัตว์จาก Tyson Foods เพื่อปรุงอาหารและเสิร์ฟให้คนทั่วโลก รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร ธุรกิจค้าปลีก และอีกมากมาย
ส่วนกลุ่ม B2C หรือผู้บริโภคทั่วไปอย่างเรา ๆ Tyson Foods เองก็มีผลิตภัณฑ์นวัตกรรมโปรตีนหลากหลายประเภท
เช่น ไก่ปรุงสุกแช่แข็งพร้อมทาน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากโปรตีนจากพืช (Plant-based)
เบื้องหลังความสำเร็จของ Tyson Foods คือการให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมการผลิตอาหาร
และเข้าใจตลาดและผู้บริโภคแต่ละพื้นที่อย่างลึกซึ้ง
โดย Tyson Foods มีศูนย์นวัตกรรมระดับสากล (International Innovation Centers) ใน 6 ประเทศ
เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมอาหาร และส่งมอบรสชาติที่ตอบโจทย์ผู้คนในแต่ละภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมีฐานการผลิตอยู่ทั่วโลก โดยในประเทศไทย Tyson Foods ได้ลงทุนสร้างโรงงานถึง 6 แห่ง
ที่นอกจากผลิตเพื่อขายในประเทศไทยแล้วนั้น ยังส่งออกไปกว่า 20 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ทำไม Tyson Foods ถึงให้ความสำคัญกับ “นวัตกรรม” และทำไมถึงเลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิต และส่งออกไปทั่วทวีปเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า Tyson Foods คือบริษัทที่โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมอาหาร
ซึ่งในแต่ละปีบริษัทจะทุ่มงบสำหรับวิจัยและพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมนักวิจัยและพัฒนาอาหารระดับโลกและท้องถิ่น และใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย มีมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อให้ได้สินค้าคุณภาพสูงและอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน จนลูกค้าทั่วโลกให้การยอมรับ
ซึ่งนอกจากความหลากหลายด้านรสชาติอาหารที่ตอบโจทย์คนทุกพื้นที่แล้วนั้น
หากใครที่เคยลองทานอาหารของ Tyson Foods จะรู้ว่าอร่อยไม่ซ้ำใคร
เช่น ไก่กรอบ ใช้เทคโนโลยีเคลือบกรอบพิเศษ 3 ชั้น ทำให้ไก่คงความกรอบตั้งแต่คำแรกยันคำสุดท้าย
ส่วนเนื้อไก่จะมีความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ รสชาติอร่อยเข้าเนื้อ ด้วยเทคโนโลยีการหมักสุญญากาศ ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของ Tyson Foods
นอกจากนี้ทุกผลิตภัณฑ์อาหาร ยังทำง่าย สะดวก คนทำอาหารไม่เป็นก็ยังทำได้ แค่ ฉีกซองเอาไปทอดด้วย Air Fryer หรือ Deep fry หรืออุ่นด้วยไมโครเวฟได้เลย โดยไม่ต้องรอทำให้ละลาย ทานได้ทุกโอกาส และเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
แม้นวัตกรรมจะช่วยสร้างจุดแข็งให้ผลิตภัณฑ์ได้ทั้งเรื่องคุณภาพ, รสชาติ, ความสะอาด และความสะดวก แต่ Tyson Foods ก็รู้ดีว่า รสนิยมและความชื่นชอบในการทานอาหารของคนในแต่ละประเทศมีความ “ต่าง”
พอเป็นแบบนี้ เลยทำให้ก่อนบุกตลาดในประเทศใดนั้น Tyson Foods จะมีทีมนักพัฒนาอาหารของเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมของบริษัท ทำงานร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นในแต่ละประเทศ ศึกษาพฤติกรรมการทานอาหาร และความชื่นชอบของผู้บริโภคในประเทศนั้น ๆ
จากนั้นผสานความเชี่ยวชาญระดับโลกเข้ากับองค์ความรู้พื้นถิ่น และพัฒนาเป็นเมนูที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ที่มีความต้องการแตกต่างกันออกไป
กลยุทธ์นี้เรียกว่า “Be as Global as Possible, as Local as Needed” หรือ การดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางระดับสากล และปรับตัวให้เข้ากับตลาดท้องถิ่นให้มากที่สุด
การขยับตัวของ Tyson Foods ในประเทศไทยถือเป็นจังหวะที่เหมาะเจาะพอดี เมื่อเวลานี้ ภาครัฐต้องการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น Regional Food HUB หรือ ศูนย์กลางการส่งออกอาหาร โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทเนื้อไก่ ที่ประเทศไทยส่งออกติดอันดับต้น ๆ ของโลก
การเข้ามาลงทุนครั้งใหญ่ของ Tyson Foods นอกจากจะเป็นการเพิ่มมูลค่าการส่งออกแล้วนั้น ก็ยังช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น ที่ช่วยกันผลักดันให้ Tyson Foods ขึ้นแท่นเป็นผู้ส่งออกไก่แปรรูปอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
Tyson Foods เลือกที่จะบุกตลาดไทย ด้วยผลิตภัณฑ์จากเนื้อไก่ เหตุผลเพราะคนไทยบริโภคเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์สูงกว่า 1 ล้านตันต่อปี (ข้อมูลปี 2564) อีกทั้งแม้ตลาดในประเทศจะแข่งขันกันอย่างดุเดือด
แต่ Tyson Foods กลับมองว่าในภาวะตลาดเช่นนี้ ก็เลือกใช้นวัตกรรมที่เป็นจุดแข็งของบริษัท และเป็นอาวุธในการบุกตลาดประเทศไทยและประเทศอื่นๆ
โดยเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวแบรนด์ “Tyson” ผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกแช่แข็งพร้อมทาน
เราจึงได้เห็นเทคโนโลยีการผลิตอาหารล้ำ ๆ ผ่าน 7 เมนูความอร่อย และเตรียมพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกมากมายให้คนไทยได้ลิ้มลอง ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์จะพัฒนาให้ได้รสชาติที่ถูกปากเหมาะกับคนไทย
รวมถึงเน้นความสะดวก ทำทานง่าย คนทำอาหารไม่เป็นก็ยังทำได้ แค่ฉีกซองเอาไปทอดด้วย Air Fryer หรือ Deep fry หรืออุ่นด้วยไมโครเวฟ ก็อร่อยแล้ว
ตัวอย่างเช่น
- ไก่ทอดกรอบสูตรคลาสสิก กรอบนอกแต่เนื้อไก่ข้างในนุ่มลิ้น รสชาติเข้าเนื้อ โดยปัจจุบันเป็นสินค้าขายดีอันดับ 1
- ปีกไก่บนสไตล์อเมริกัน คลุกเคล้าด้วยซอสสูตรลับพิเศษของ Tyson Foods หมักด้วยเทคโนโลยีสุญญากาศจนเข้าเนื้อ ได้รสชาติจัดจ้าน
- ไก่กรอบไม่มีกระดูก เนื้อไก่คุณภาพสูงผ่านการเคลือบกรอบ 3 ชั้น จนได้ความอร่อยลงตัว เรียกว่ามาครบ ทั้งอร่อย สะดวก และคุณภาพดี สมกับสโลแกนที่ว่า แค่ ฉีก – ทอด - ก็อร่อยฟิน
ที่น่าสนใจ Tyson Foods ไม่ได้แค่นำนวัตกรรมอาหารสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างเดียว แต่ยังใช้ในการช่วยเหลือสังคมร่วมกับพันธมิตรในแต่ละประเทศที่เข้าไปทำธุรกิจ อย่างในประเทศไทย ก็มีการมอบไก่ปรุงสุกช่วยเหลือคนที่ต้องเจอภัยพิบัติต่างๆ จนถึงมีการจัดกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย
เมื่อนวัตกรรมด้านอาหารคือ จุดแข็ง ที่ใช้เป็นแต้มต่อในการแข่งขันทางธุรกิจอาหารและสร้างความยั่งยืนให้สังคม อีกทั้ง Tyson Foods ก็มีทีมการตลาดที่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมการทานอาหารของคนทั่วโลก
จนมาพบว่า หนึ่งเทรนด์ ที่กำลังเติบโตทั่วโลกก็คือ “Plant-Based Food” หรืออาหารโปรตีนที่ทำมาจากพืชโดย Tyson Foods บุกตลาดนี้ด้วยแบรนด์ “First Pride” (เฟิร์ส ไพรด์)
สิ่งที่เป็นเรื่องยากของตลาดนี้ก็คือ ผู้บริโภคมักเชื่อว่า แม้อาหารโปรตีนที่ทำมาจากพืชจะให้ประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็มาพร้อมจุดอ่อน คือ รสชาติ “ไม่ถูกปาก”
วิธีแก้เกมของ Tyson Foods คือ การใช้ประสบการณ์ และเทคโนโลยีระดับโลกของทีม R&D คิดค้นสุดยอดวัตถุดิบหลักจากพืช คือ ถั่วเหลือง, ข้าวสาลี, ใยไผ่, ใยซิทรัส มาผสมกัน
และที่ขาดไม่ได้ คือการผสานวัฒนธรรมการกิน และรสชาติที่ถูกปากคนไทยเข้าไปในทุกเมนู ทำให้ผลิตภัณฑ์ First Pride อร่อย จนลืมไปเลยว่าทำจากพืช
ตัวอย่างสินค้าที่คนกำลังพูดถึงในโลกออนไลน์จนกลายเป็นกระแส คือ นักเก็ต ที่มีรสชาติเหมือนเราทานนักเก็ตที่ทำมาจากเนื้อไก่จริง ๆ
และทอดมันทรงเครื่อง ซอสลาวาจากพืช ที่แค่นำเข้าไมโครเวฟ ก็ได้ซอสลาวาชุ่มฉ่ำ อร่อยเข้มข้น
โดยเราสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Tyson Foods ได้ในซูเปอร์มาร์เก็ตและโมเดิร์นเทรดชั้นที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ส่วนช่องทางออนไลน์ก็คือ Shopee, Lazada, JD Central, Foodpanda รวมถึงเว็บไซต์ https://tyson.co.th/
ทีนี้ถ้าถามว่าการมาของ Tyson Foods สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้อุตสาหกรรมและผู้บริโภคบ้าง
จะเห็นว่าส่งที่ Tyson Foods มุ่งมั่นคือผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางผลิตและส่งออกอาหารระดับภูมิภาค
ปรากฎการณ์ตรงนี้ก็น่าจะทำให้บริษัทผู้ผลิตอาหารต่าง ๆ ในเมืองไทยตื่นตัว พร้อมกับหันมาให้ความสำคัญในเรื่องนวัตกรรมการผลิตอาหาร ที่จะถูกใช้แข่งขันในตลาดมากขึ้น
ซึ่งในการแข่งขันที่ต่างไม่มีใครยอมใคร..
คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ ผู้บริโภคอย่างเรา ที่จะมีตัวเลือก ในการทานอาหารรสชาติอร่อยมากขึ้น นั่นเอง
References
-Tyson Foods annual report 2021
-ข้อมูลประชาสัมพันธ์บริษัท Tyson Foods Thailand
-https://www.firstpridethailand.com/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.