ถอดรหัส ทำไมโครงการ Mixed Use ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ถึงน่าลงทุน

ถอดรหัส ทำไมโครงการ Mixed Use ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ถึงน่าลงทุน

ถอดรหัส ทำไมโครงการ Mixed Use ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ถึงน่าลงทุน
เซ็นทรัล x ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า จังหวัดไหนที่น่าลงทุน หลังสถานการณ์โควิด 19 ที่กำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ
หนึ่งในนั้นก็น่าจะมี “ระยอง” จังหวัดที่มีรายได้ต่อประชากร 1 คนเฉลี่ยสูงถึง 1.25 ล้านบาทต่อปี
เหตุผลที่ GDP ต่อประชากรสูง เพราะนอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศแล้ว
ยังเป็นจังหวัดที่มีแรงงานจำนวนมาก และมีนิคมอุตสาหกรรม 13 แห่ง
เช่น นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่มีโรงงานของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายตั้งอยู่ที่นี่
จนถึงโครงการ Eastern Seaboard พื้นที่อุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยปีละหลายแสนล้านบาท
เมื่อเป็นจังหวัดที่ช่วยผลักดันระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ทำให้ภาครัฐเข้ามาลงทุนในโครงการคมนาคมขนาดใหญ่หลายโครงการ
เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพฯ-ระยอง เชื่อมโยง 3 สนามบิน, โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด, โครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา
อีกทั้ง เมื่อโควิด 19 เริ่มคลี่คลาย จังหวัดระยองที่สวยงาม และมีหมู่เกาะมากมาย
ก็จะกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากมายมาเยือนในจังหวัดนี้
พอทุกอย่างเป็นสัญญาณบวก ก็คงต้องถามต่อว่า แล้วจะลงทุนอะไรในจังหวัดระยองดี
รู้หรือไม่ว่า หนึ่งในนั้นก็คือโครงการ Mixed Use ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ที่มีผู้คนแวะเวียนมาในศูนย์การค้า จำนวน 35,000-40,000 คนต่อวัน
และตัวเลขนี้ จึงกลายเป็นหนึ่งในโอกาสอันมหาศาลให้แก่ธุรกิจอสังหาฯ ที่อยู่รอบ ๆ ศูนย์การค้า
เช่น คอนโดมิเนียม, อาคารพาณิชย์, โรงแรม
แล้วโอกาสในการลงทุนจะมีอะไรบ้าง และน่าสนใจมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
สิ่งแรกในธุรกิจอสังหาฯ ที่จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน และคนทั่วไปก็คือ “ทำเล”
โดยโครงการ Mixed Use ของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
ซึ่งใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง จนถึง โรงเรียน และโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ห่างจากตัวโครงการแค่ 2-5 กิโลเมตรเท่านั้น
แปลว่า การใช้ชีวิตในสถานที่แห่งนี้ ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง
ก็เลยทำให้ คอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ ระยอง ที่มีอยู่ 2 โครงการ บริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง ที่พัฒนาโดยบริษัท ซีพีเอ็น เรซซิเด้นซ์ จำกัด
มียอดขายเกินคาด เพราะเมื่อโครงการแรกเปิดขาย ไม่นานก็ติดป้าย Sold Out เป็นที่เรียบร้อย
ส่วนโครงการที่ 2 ก็คือ เอสเซ็นท์ ระยอง 2
เป็นคอนโดมิเนียม 1 อาคาร สูง 23 ชั้น มีห้องพักทั้งหมด 420 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เลยทำให้มีกระแสตอบรับที่ดี ทั้งจากนักลงทุน และลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง
อีกทั้งคอนโดมิเนียมทั้ง 2 โครงการนี้ ยังอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง แค่ 40 เมตร
ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งของโครงการ Mixed Use แห่งนี้ ที่โครงการอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้
เพราะเพียงแค่เดินไม่กี่ก้าว ก็สามารถช็อปปิงสินค้ามากมาย ทานอาหารอร่อย ดูหนังในโรงภาพยนตร์
ที่น่าสนใจคือ เอสเซ็นท์ ระยอง 2 เป็นคอนโดมิเนียมที่รายล้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และมีส่วนกลาง ตอบโจทย์ความสุขในการใช้ชีวิต
ช่วยสร้างความรู้สึกให้ผู้อยู่อาศัยอยากกลับมาพักผ่อนจากการทำงานหนัก ๆ ในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำลอยฟ้า, ฟิตเนสบนชั้น 23
หรือพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ชั้น 1 เป็นทั้งพื้นที่นั่งเล่น และนั่งทำงานได้ตามใจ
จนถึงการมีเทคโนโลยีล้ำ ๆ ในระบบรักษาความปลอดภัย Access Control ควบคุมการเข้าออกของคนแปลกหน้า, การเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางจะใช้ Face Scan และมีกล้องวงจรปิดที่ทันสมัย
ซื้ออยู่อาศัยเองก็คุ้มค่า แต่อีกทางเลือกที่น่าสนใจคือ ซื้อเพื่อลงทุนเป็น Passive Income
เพราะเมื่อการระบาดของโควิด 19 มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ
กระแสการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง และระยอง ก็ถือเป็นหนึ่งในจังหวัดที่ใคร ๆ ต่างชื่นชอบในความสวยงามของทะเล
อีกทั้ง ระยอง ยังเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง
ซึ่งมีทั้งชาวต่างชาติ และคนในจังหวัดอื่น ๆ เข้ามาทำงานในตำแหน่งสูง ๆ ในโรงงานต่าง ๆ
ทีนี้คงพอมองออกแล้วว่า หากซื้อเพื่อการลงทุน ก็น่าจะสามารถปล่อยเช่าให้แก่นักท่องเที่ยว
ไปจนถึงการปล่อยเช่าสัญญาระยะยาวให้แก่คนไทย และชาวต่างชาติที่มาทำงานในจังหวัดระยองได้
ถ้าถามว่าอะไรคือ หัวใจของโครงการ Mixed Use ที่โครงการอื่น ๆ ลอกเลียนแบบได้ยาก
คำตอบคือ จำนวนผู้คนมหาศาลที่มีกำลังซื้อสูง ที่เข้ามาใช้ชีวิตแต่ละวันในศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, ออฟฟิศ และโรงแรม ที่อยู่ในทำเลเดียวกัน บนพื้นที่ขนาดใหญ่
กลายเป็นพื้นที่ที่สร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล
การลงทุนในอาคารพาณิชย์ เอสเซ็นท์ อเวนิว ระยอง ภายในโครงการ Mixed Use ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง
จึงเป็นทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะซื้อเพื่อปล่อยเช่า, เปิดร้านขายอาหาร ขายสินค้า หรือโฮมออฟฟิศ
เพราะนอกจากดีไซน์ที่ดูโมเดิร์น ฉีกกรอบอาคารพาณิชย์ ที่เราเคยเห็นแล้วนั้น
บริเวณโครงการ ก็ยังมีพื้นที่กว้างให้จอดรถได้หลายคัน เพื่อรองรับจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการ
ส่วนเรื่องที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ อาคารพาณิชย์แห่งนี้ ยังทำให้ทุกตารางเมตรเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยแบ่งสัดส่วน ด้านหน้าอาคาร เพื่อการทำธุรกิจ ส่วนด้านหลัง ถูกตกแต่งเป็นที่พักอาศัย
อีกทั้ง ภายในตัวอาคาร ยังสามารถดัดแปลงมาเป็น โฮมออฟฟิศ
ที่มีให้เลือก 2 ขนาด ก็คือ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 210 ตารางเมตร และขนาดพื้นที่ใช้สอย 263 ตารางเมตร
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะซื้อคอนโดมิเนียม หรืออาคารพาณิชย์ในโครงการแห่งนี้
สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเหมือนกันคือ มูลค่าเพิ่มที่แฝงมากับการลงทุนในโครงการ Mixed Use ที่ช่วยทำให้มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้น
ด้วยการนำอสังหาฯ หลายประเภทมาอยู่ในอาณาจักรเดียวกัน จึงส่งเสริมช่วยเพิ่มมูลค่าที่ดินต่อ 1 ตารางเมตร ให้มีมูลค่าทางธุรกิจเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่าตัว
แน่นอนว่า เมื่อเวลาผ่านไป หากจะหาคอนโดมิเนียม หรืออาคารพาณิชย์
ที่มีศักยภาพขนาดนี้ในราคาที่เข้าถึงได้ คงกลายเป็นเรื่องยาก ซึ่งกลายเป็นปัจจัยบวกที่จะช่วยเพิ่มโอกาสผลักดันให้ราคาขายขยับตัวขึ้นได้ในอนาคต
ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมโครงการ Mixed Use ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ระยอง
ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ในอนาคตอาจจะกลายเป็น Rare Item เสมือนไข่มุกใต้ท้องทะเลของ เกาะเสม็ด ในจังหวัดระยอง..
เบอร์ติดต่อ เอสเซ็นท์ ระยอง 2: 096-214-5146
หรือ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษก่อนใคร คลิก https://bit.ly/3vDqoT2
เบอร์ติดต่อ เอสเซ็นท์ อเวนิว: 096-536-4244
หรือ https://bit.ly/3BhPiL4
ติดต่อทาง Line
Line: https://lin.ee/0AzYmUd

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon