‘โลตัส’ ออกหุ้นกู้ เสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน มีให้เลือก 4 รุ่น อายุไม่เกิน 7 ปี คาดเสนอขายกลางเดือน ต.ค. นี้

‘โลตัส’ ออกหุ้นกู้ เสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน มีให้เลือก 4 รุ่น อายุไม่เกิน 7 ปี คาดเสนอขายกลางเดือน ต.ค. นี้

23 ก.ย. 2022
Lotus’s x ลงทุนแมน
‘โลตัส’ ออกหุ้นกู้ เสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน
มีให้เลือก 4 รุ่น อายุไม่เกิน 7 ปี คาดเสนอขายกลางเดือน ต.ค. นี้
โดยรุ่นอายุ 3 ปี – 5 ปี - 7 ปี อัตราดอกเบี้ยเบื้องต้นอยู่ระหว่าง [3.00 - 4.00]% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายรอประกาศ
บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด หรือที่รู้จักกันดีในแบรนด์ Lotus’s (“โลตัส”) ผู้นำธุรกิจค้าปลีก New SMART Retail ได้ก้าวสู่การระดมทุนด้วยหุ้นกู้เป็นครั้งแรกหลังจากเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์
“โลตัส” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 4 รุ่น ดังนี้
รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยรอประกาศ
รุ่นอายุ 3 ปี ช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.00-3.25]% ต่อปี
รุ่นอายุ 5 ปี ช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.30-3.55]% ต่อปี และ
รุ่นอายุ 7 ปี ช่วงอัตราดอกเบี้ยเบื้องต้น [3.75-4.00]% ต่อปี
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยสุดท้ายจะประกาศให้ทราบก่อนเปิดจองซื้อ โดยเป็นดอกเบี้ยคงที่ และการจ่ายดอกเบี้ยจะชำระทุกๆ 6 เดือน
อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “A+” แนวโน้ม “คงที่” โดย ทริสเรทติ้ง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2565
คาดว่าจะเสนอขายในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2565 นี้ ให้แก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน ผ่านทั้งสาขา ช่องทางออนไลน์ รวมถึงแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet
เรามาดูข้อมูลสำคัญๆ ของ “โลตัส” เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้กันสักหน่อย
เราเห็นจุดเด่นของโลตัสในเชิงของการแข่งขันหลายเรื่องด้วยกัน
หากมองในด้านของการขายผ่านร้านค้าหรือศูนย์การค้า เรื่องทำเลที่ตั้งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งโลตัสก็เลือกทำเลที่ตั้งได้ดีในทุกๆ จุด
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ การขายผ่านช่องทางออนไลน์มีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ทางโลตัสเองก็ได้พัฒนาช่องทาง omni-channel ที่แข็งแกร่ง โดยการเชื่อมประสานระหว่างระบบออนไลน์กับสาขาต่างๆ
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 Lotus’s มีร้านค้าปลีกจำนวน 2,597 แห่ง ทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 224 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,171 แห่ง
การใช้ช่องทาง omni-channel เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าด้วยการสั่งซื้อสินค้าแบบออนไลน์ และใช้เครือข่ายร้านค้าทั้งหมด 2,597 แห่งทั่วประเทศ เป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย ทำให้ในปัจจุบันมีตัวเลขการให้บริการลูกค้าถึงกว่า 11 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ผ่านช่องทาง omni-channel
นอกจากนี้ โลตัสยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) เช่น Grab, Shopee และ Lazada เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภคอีกด้วย
ในด้านของการบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้านั้น โลตัสมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 201 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 784,612 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก
ในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมดนี้ บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 69 แห่ง ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 89% และบริษัทฯ ยังถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,000 ตารางเมตรอีกด้วย
นอกจากโลตัสจะมีระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง มีระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพแล้ว จะเห็นว่า การปรับตัวที่รวดเร็วเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลาก็เป็นจุดแข็งอีกประการหนึ่ง โดยปัจจุบัน เราได้เห็นธุรกิจใหม่ๆ ของโลตัสเกิดขึ้นอีกหลายอย่าง ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine)
ส่วนเรื่องของราคาสินค้านั้นทางผู้บริโภครู้ดีว่าสินค้าในโลตัสมีคุณภาพสูงในราคาที่เอื้อมถึง จึงตัดสินใจซื้อได้ง่าย
ในภาวะที่โอกาสทางการค้าเปิดกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ ภายหลังการผ่อนคลายมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 ธุรกิจค้าปลีกจึงฟื้นตัวและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน จึงถือเป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนที่จะได้ร่วมลงทุนกับหุ้นกู้โลตัสในครั้งนี้
ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สนใจหุ้นกู้โลตัส สามารถติดต่อผ่านสถาบันการเงิน 8 แห่งนี้ได้เลย
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือ 02-645-5555
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 819
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)** โทร. 02-777-6784
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร 0-2111-1111
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 1428 กด#4
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555
บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555
* ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และรวมทั้งการจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล)
** ซึ่งรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
*** ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ผู้สนใจจองซื้อหุ้นกู้ผ่านทางระบบจองซื้อของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ที่อยู่ในแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet สามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6
สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน สามารถติดต่อผ่านสถาบันการเงิน 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.