ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ของไทย เป็นอันดับ 4 ของโลก

ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ของไทย เป็นอันดับ 4 ของโลก

17 เม.ย. 2023
ท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ของไทย เป็นอันดับ 4 ของโลก /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามถึงสาเหตุที่ทำให้ไทยกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลก
หลายคนคงนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม ประเพณีและวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ ตลอดจนผู้คนที่เป็นมิตร
แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาไทยกันเป็นจำนวนมาก นั่นคือ การเข้ามารับบริการทางการแพทย์
โดยในปี 2019 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ มากเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 4 ของโลก
เป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกา, ตุรกี และฝรั่งเศส
โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากถึง 9% ของโลก
แล้วอะไรที่ทำให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ในไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์คือหนึ่งในเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรงของโลกในยุคนี้ ด้วยมูลค่าตลาดรวมที่สูงถึง 4 ล้านล้านบาท
จึงทำให้นานาประเทศ ต่างพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้มารักษาตัวในประเทศของตนเอง
ซึ่งประเทศไทยก็คือหนึ่งในนั้น..
โดยจุดแข็งที่ทำให้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย อยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลกได้ คือ
1. คุณภาพของสถานพยาบาล
ถ้าพูดถึงคุณภาพของสถานพยาบาลแล้ว มาตรฐานสากลที่มักใช้วัดกันก็คือ JCI
ซึ่ง Joint Commission International หรือ JCI เป็นองค์กรสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่คอยตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย เพื่อให้การรับรองคุณภาพแก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ใน 72 ประเทศ
โดยในประเทศไทยมีสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล JCI อยู่ 61 แห่ง ซึ่งมากเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย และบราซิล
ซึ่งสถานพยาบาลในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐาน JCI ก็ครอบคลุมแทบทุกกลุ่มโรค และยังกระจายอยู่ในทุกภาคทั่วไทยอีกด้วย
2. ค่ารักษาพยาบาล
ถ้าเทียบกับประเทศที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์เหมือนกัน อย่างเช่น เกาหลีใต้, สหรัฐอเมริกา, มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ แล้ว
ค่ารักษาพยาบาลในประเทศไทย จะมีราคาที่ต่ำกว่า
โดยเฉพาะในด้านการศัลยกรรมความงาม ที่ประเทศไทยเรามีราคาต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับทุกประเทศ
และด้วยจุดเด่นนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำศัลยกรรมความงามในไทยกันเป็นจำนวนมาก และสร้างรายได้เข้าประเทศได้มากกว่า 75,000 ล้านบาท ในปี 2019 ที่ผ่านมา
3. คุณภาพของบุคลากรทางการแพทย์
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในวันนี้แพทย์ไทยกำลังมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการศัลยกรรมความงาม, การรักษาภาวะมีบุตรยาก และการผ่าตัดแปลงเพศ
โดยจะสังเกตได้ว่า ในวงเสวนาทางการแพทย์หลายเวที เรามักจะเห็นแพทย์ของไทยได้เข้าร่วม และได้รับเกียรติให้บรรยายความรู้ สู่สายตาแพทย์ชาวต่างชาติอยู่หลายครั้ง
และนอกจาก 3 ปัจจัยสำคัญเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก เช่น
- การมีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่มีชื่อเสียงมากมาย
- การมีค่าครองชีพที่ค่อนข้างต่ำ
- การให้สิทธิพิเศษทางวีซ่า แก่ผู้ที่เข้ามาเพื่อรับการรักษาทางการแพทย์
โดยนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่เข้ามายังประเทศไทย ไม่ได้มีแค่ชาวตะวันตก หรือประเทศแถบตะวันออกกลางเท่านั้น
แต่ในปัจจุบัน ประเทศเพื่อนบ้านของเรา ทั้งกัมพูชา, ลาว, เมียนมา รวมถึงจีน ได้ก้าวขึ้นมาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่สำคัญที่สุดของไทยไปแล้ว
โดยเฉพาะชาวกัมพูชา ที่มีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ต่อคนสูงที่สุด สูงกว่าประเทศแถบตะวันออกกลางเสียอีก
ด้วยมาตรฐาน ความเชี่ยวชาญ และปัจจัยเฉพาะตัวของประเทศ ที่ส่งเสริมเช่นนี้ จึงทำให้ไทยเราตั้งเป้าจะเป็น “Medical Hub” หรือ ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ
แต่ก็ต้องแข่งขันกับหลายประเทศ ที่ต้องการจะแย่งชิงการเป็นผู้นำในด้านนี้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น จีน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือสิงคโปร์
ซึ่งการก้าวขึ้นมาเป็น Medical Hub จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น สายการบิน, โรงแรม, ร้านอาหาร, สถานที่ท่องเที่ยว, ภาคบริการ ตลอดจนบุคลากร หรือพนักงานที่เกี่ยวข้อง
และยังรวมไปถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทางการแพทย์ อย่างเช่น ธุรกิจยา หรือธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์ ที่ก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หากผู้กำหนดนโยบายเดินหน้าผลักดันอย่างไม่สมดุล ก็อาจสร้างผลกระทบในเชิงลบให้กับประเทศได้เช่นกัน
เพราะยิ่งการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยเติบโตมากเท่าไร การแย่งชิงบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถ เพื่อไปให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.scbeic.com/th/detail/file/product/8848/gipkq624ky/SCB-EIC_In-focus_Medical-tourism_20230302.pdf
-https://krungthai.com/Download/economyresources/EconomyResourcesDownload_467Medical_Hub.pdf
-https://www.ttbbank.com/th/newsroom/detail/medical-tourism-2566
-https://www.jointcommissioninternational.org/
-https://elchm.ssru.ac.th/alisa_ri/pluginfile.php/40/course/summary/2.pdf
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.