“Inter Parfums” ธุรกิจผลิตกลิ่นน้ำหอม 100,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะคิดว่า แบรนด์หรู ผลิตน้ำหอมด้วยตัวเอง จริง ๆ แล้วก็คือ ทั้งใช่ และ ไม่ใช่

เพราะก็มีหลายแบรนด์ เช่น Coach, Montblanc และ MCM ที่ไม่ได้ผลิตน้ำหอมเอง แต่จ้างคนอื่นผลิตให้

สำหรับ 3 แบรนด์ ที่ว่านี้ ก็ได้จ้างบริษัท Inter Parfums ธุรกิจผลิตกลิ่นน้ำหอมจากฝรั่งเศส ปัจจุบันมีมูลค่ากิจการราว 145,000 ล้านบาท คอยผลิตน้ำหอมให้

วันนี้ เรามาดูกันว่าโมเดลธุรกิจผู้ผลิตน้ำหอม มีที่มาอย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Inter Parfums ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1982 หรือราว 41 ปีก่อน โดยคุณ Philippe Benacin และคุณ Jean Madar

จากที่เกริ่นไปในตอนแรก เราจะเห็นว่าบริษัทนี้เป็นผู้ออกแบบกลิ่น และผลิตน้ำหอม ให้กับแบรนด์หรูมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Montblanc, Coach, Jimmy Choo และ DKNY

แต่ ณ วันแรกนั้น ธุรกิจของ Inter Parfums เริ่มมาจากการผลิตน้ำหอมเกรดปานกลาง โดยมีราคาที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า ได้ง่ายกว่า

แต่กลยุทธ์นี้ กลับไม่ได้ทำให้บริษัทเติบโต ตามที่ผู้ก่อตั้งทั้งสอง ตั้งใจไว้

เมื่อไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางบริษัท มาโฟกัสที่ตลาด “น้ำหอมพรีเมียม” แทน

แต่แทนที่จะปั้นแบรนด์น้ำหอมขึ้นมาเอง Inter Parfums กลับเลือกกลยุทธ์ โดยการเข้าไปจับมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ในการออกแบบกลิ่น รวมถึงรับจ้างผลิตให้

โดยแบรนด์ที่ว่านี้ ส่วนมากจะเป็นแบรนด์แฟชั่น และแบรนด์เครื่องประดับหรู

หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วทำไมต้อง เลือกจับมือกับแบรนด์อื่น แทนที่จะปั้นแบรนด์ขึ้นมาเอง ?

Inter Parfums เลือกใช้กลยุทธ์นี้ ก็เพราะว่า ในตอนนั้นอุตสาหกรรมน้ำหอมกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน

แบรนด์แฟชั่น เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจน้ำหอม จากที่แต่ก่อนจะมีเพียงแบรนด์น้ำหอม เช่น Creed หรือ Diptyque

ซึ่งเทรนด์นี้เริ่มมาจาก แบรนด์แฟชั่นในประเทศฝรั่งเศส
ก่อนที่จะเริ่มคืบคลานเข้าสู่สหรัฐอเมริกา

โดยแบรนด์ผู้บุกเบิก การผลิตน้ำหอมเป็นของตัวเอง คือ Chanel ที่ออกน้ำหอม Chanel N°5 รวมไปถึง Dior ที่เปิดตัวน้ำหอมในตำนานอย่าง Miss Dior

ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน เหล่าแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ ก็ทยอยเข้าสู่ตลาดนี้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Yves Saint Laurent ที่เริ่มทำการขายน้ำหอมครั้งแรกในปี 1964

เมื่อเห็นโอกาสตรงนี้ Inter Parfums จึงได้เริ่มเข้าไปดีลกับแบรนด์ต่าง ๆ โดยเริ่มจากแบรนด์หรูจากอังกฤษอย่าง Burberry และตามมาด้วย Paul Smith

กลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว เพียง 5 ปีหลังเริ่มดีลกับ Burberry บริษัทก็สามารถจดทะเบียนเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจในลักษณะนี้ ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

เนื่องจากเป็นเพียงผู้ผลิต ไม่ได้มีแบรนด์เป็นของตัวเอง การสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไป จะทำให้รายได้ของบริษัทลดลงไปอย่างมาก

กรณีนี้ เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับ Inter Parfums ในปี 2012 บริษัทไม่ได้รับการต่อสัญญาจาก Burberry ซึ่งเป็นแบรนด์หลักที่สร้างรายได้ ให้กับบริษัทในตอนนั้น

จากเรื่องนี้ ทำให้ในปีถัดมา รายได้ของบริษัทลดลงไปกว่า 14% และต้องใช้เวลาถึง 5 ปีเลยทีเดียว กว่าที่รายได้จะกลับมาเท่าเดิม

ตัดภาพมาที่ปัจจุบัน ธุรกิจของ Inter Parfums ไม่เพียงแต่เป็นผู้ออกแบบกลิ่นและผลิตน้ำหอม แต่ยังรวมไปถึงทำการตลาด และการจัดจำหน่าย เรียกได้ว่าครบวงจร ให้กับแบรนด์หรูมากมาย

ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เราคุ้นเคยกันดี เช่น Montblanc, Coach, Jimmy Choo, DKNY, MCM, Anna Sui, Kate Spade

รวมไปถึงแบรนด์เครื่องประดับหรูอย่าง Van Cleef & Arpels ด้วยเช่นกัน

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งรายได้และกำไรของบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

- ปี 2020 รายได้ 18,400 ล้านบาท กำไร 1,305 ล้านบาท
- ปี 2021 รายได้ 30,050 ล้านบาท กำไร 2,986 ล้านบาท
- ปี 2022 รายได้ 37,125 ล้านบาท กำไร 4,132 ล้านบาท

รายได้ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 23% ต่อปี
กำไร คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 78% ต่อปี

โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา แบรนด์น้ำหอม 3 อันดับแรก
ที่สร้างรายได้ให้กับ Inter Parfums มากที่สุด คือ

อันดับ 3 คือ Coach ยอดขาย 5,500 ล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วน 14.9% ของรายได้

อันดับ 2 คือ Jimmy Choo ยอดขาย 6,500 ล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วน 17.5% ของรายได้

มากที่สุด ก็จะเป็น Montblanc ยอดขาย 6,600 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 17.8% ของรายได้

ปัจจุบัน Inter Parfums มีมูลค่าบริษัท 145,000 ล้านบาท มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 220 เท่า เมื่อเทียบกับตอน IPO ตั้งแต่ 35 ปีก่อน

สะท้อนให้เห็นว่า กลิ่น แม้จะไม่ใช่ปัจจัย 4 และไม่จำเป็นต่อชีวิตของเราเท่าไร แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ตลาดจึงยังคงมีการเติบโตมาโดยตลอด

ในฝั่งของธุรกิจ กลุ่มแบรนด์หรู ก็จะมีตัวเลือกทั้งการวิจัยและผลิตด้วยตนเอง หรือจะจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญผลิตให้ก็ได้ ซึ่งก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป

ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้รับจ้างผลิตน้ำหอมเอง ก็ยังมีมุมให้เกิด และเติบโตขึ้นมาได้

แบบ Inter Parfums ที่แม้จะไม่มีแบรนด์เป็นของตัวเอง แต่ก็หามุมปั้นธุรกิจจนสำเร็จ เป็นกิจการมูลค่า ระดับแสนล้านบาทได้ เช่นกัน
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.interparfumsinc.com/
-https://www.encyclopedia.com/social-sciences-and-law/economics-business-and-labor/businesses-and-occupations/inter-parfums-inc
-https://www.sec.gov/ix?doc=/Archives/edgar/data/822663/000175392623000213/g083417_10k.htm#a003
-https://www.lovetoknow.com/life/style/history-perfume
-https://museeyslparis.com/en/biography/premier-parfum-y
-https://fr.wikipedia.org/wiki/Interparfums
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/822663/000114420414014887/v369991_10k.htm
-https://www.cosmeticsdesign.com/Article/2012/07/30/Inter-Parfums-loses-Burberry-license-looks-to-new-investments
-https://www.interparfumsinc.com/investor-presentations
-Inter Parfums Annual Report 2022