รู้จัก CardX ที่เป็นมากกว่าธุรกิจ บัตรเครดิต และ สินเชื่อบุคคล
CardX X ลงทุนแมน

นับจากธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจใหม่หมด
โดยมีบริษัทแม่คือ SCBX จากนั้นก็แยกแต่ละธุรกิจออกมาเป็นบริษัทย่อย ๆ โดยแต่ละบริษัท จะมีผู้บริหารและพนักงาน ที่ทำงานแยกออกจากกันชัดเจน

หนึ่งในบริษัทที่น่าจับตามองในเครือ SCBX ก็คือ CardX
บริษัทที่ให้บริการด้านธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล

เพราะถือเป็นเรื่องท้าทายเลยทีเดียว เมื่อภาพจำในอดีต หลายคนมองว่าบัตรเครดิต SCB ดู Premium
สวนทางกับตำแหน่งทางธุรกิจของ CardX ที่เมื่อแยกออกมาจากธนาคาร ต้องการเป็น “แพลตฟอร์มการเงิน ที่เข้าถึงและสร้างโอกาสให้ทุกคน”

“ฐานลูกค้าบัตรเครดิต Premium ยังอยู่กับธนาคาร ส่วนลูกค้ากลุ่ม Mass จะโอนย้ายมาอยู่กับเรา
เหตุผลเพราะหากภาพ CardX ยังผูกติดกับการเป็นธนาคารใหญ่ ลูกค้าจะรู้สึกเข้าถึงยาก โดยเฉพาะลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคล ในกลุ่มคนที่ในอดีตมีข้อจำกัด
ในการเข้าถึงสินเชื่อ”

คุณเมธี จารุมณีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มงานการตลาด CardX
บอกถึงการโอนย้ายฐานลูกค้าบัตรเครดิต พร้อมย้ำว่า วันนี้ ให้เปรียบ CardX เหมือนคนคนหนึ่ง จะมีบุคลิกเป็นคนอารมณ์ดี เข้าถึงง่าย ดูจริงใจ ไม่ซับซ้อน

โดยปัจจุบัน CardX มีฐานลูกค้าบัตรเครดิตอยู่ราว ๆ 2.1 ล้านใบ และมีลูกค้าสินเชื่อบุคคล 1 ล้านกว่าบัญชี

ความน่าสนใจ อาจไม่ได้อยู่ที่ จำนวนผู้ใช้บริการ แต่อยู่ตรงที่ เป้าหมายของ CardX ต่างหาก ที่กำลังเร่งเครื่องให้ตัวเอง เป็น Top of Mind ในตลาดนี้ เพราะหากทำสำเร็จ ตัวเลขการเติบโตต่าง ๆ ก็จะตามมาเอง

ทาง CardX วางแผนจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ด้วยวิธีไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

หลังจากถ่ายโอนฐานลูกค้าบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคลมาจากธนาคาร พร้อมกับจัดการระบบหลังบ้านต่าง ๆ ถึงแม้จะใช้เวลาอยู่พอสมควร แต่ก็แลกมากับความสะดวกราบรื่นที่ลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ

ภารกิจต่อมาคือ การสื่อสารกับคนไทยทั่วประเทศว่า CardX คือใคร และมีเป้าหมายอย่างไร ?

หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจคือ การทำโฆษณาเชิง Music Marketing เพราะเป็นอะไรที่ดูสนุก เข้าใจง่าย ที่สำคัญ ถูกจริตคนไทย

โดยกลยุทธ์นี้ทาง CardX ได้เลือก 2 ศิลปินชื่อดังอย่าง “โจอี้ ภูวศิษฐ์” และ “โบกี้ไลออน” เป็น Brand Ambassadors ที่มาถ่ายทอดเพลง “เป็นได้อีกเยอะ” ที่สะท้อนถึงเป้าประสงค์ของ CardX ได้อย่างชัดเจน และลงตัวที่สุด

“เหตุผลที่เลือก 2 คนนี้ เพราะมีภาพคนรุ่นใหม่ที่เข้าถึงง่าย และชีวิตของน้องทั้ง 2 คนนี้ ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวของความพยายามมุ่งมั่นทำตามความฝันของตัวเองจนสำเร็จ”

แครักเตอร์ของ Brand Ambassadors ยังสะท้อนไปยังเนื้อหาโฆษณาที่มีทั้งคนขับรถส่งอาหาร, มนุษย์เงินเดือน, เจ้าของร้านเบเกอรี ที่ทุกคนต่างมีความฝันของตัวเอง แต่ประสบปัญหาการเงิน

โดย CardX เป็นเสมือนเพื่อนคู่คิดทางการเงินที่จะมาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ

เพียง 1 วันที่คลิปนี้ ถูกปล่อยไปยังช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ได้สร้างยอด View สูงทะลุหลักล้าน

ที่สำคัญ ทำให้คนที่ได้รับชมรู้ทันทีว่า CardX เป็นแพลตฟอร์มการเงินด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อ
ส่วนบุคคลที่เข้าถึงง่าย และใช้งานได้ง่าย พร้อมสนับสนุนคนที่เดือดร้อนทางการเงิน

เพียงแต่คำว่า “ง่าย” ในแง่มุมต่าง ๆ ของผู้บริโภค กลับเป็นเรื่องยาก และความท้าทายของแบรนด์ ที่จะต้องสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน, ข้อเสนอต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตามกระแสโลกการเงินดิจิทัล

เลยเป็นเหตุผลให้ CardX ลงทุนด้านระบบเทคโนโลยีราว ๆ 2,000 ล้านบาท ที่จะช่วยปลดล็อกข้อจำกัดในอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงิน

คำถามคือ ระบบเทคโนโลยี ที่มีมูลค่าสูงขนาดนี้ มันทำอะไรได้บ้าง ?

อธิบายง่าย ๆ ก็คือ จะมีระบบ Cloud Computing ขนาดใหญ่ ที่มีความปลอดภัยด้านข้อมูลสูง ทำหน้าที่เก็บข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคน

จากนั้น ข้อมูลเหล่านี้ จะถูกนำไปให้ระบบ AI วิเคราะห์และประมวลผลต่าง ๆ โดยทางทีมงานก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ มาสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และข้อเสนอที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน ทั้งกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิต และกลุ่มสินเชื่อบุคคล

นอกจากเรื่องเหล่านี้ เทคโนโลยีของ CardX ยังมีแผนสร้างนวัตกรรมการเงินใหม่ ๆ ซึ่งอาจจะเป็น บัตรเครดิตที่อยู่ในสมาร์ตโฟน, การมอบข้อเสนอทางการเงินที่เฉพาะเจาะจงเป็นรายคน และอีกสารพัดอย่าง ซึ่งเรื่องนี้เราคงต้องติดตามต่อไปในอนาคต

โดยคุณเมธีบอกว่า เทคโนโลยีและโครงสร้างต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมานั้น เป็นสิ่งที่ CardX มั่นใจว่า “เหนือชั้นและแตกต่าง” สามารถตอบโจทย์การเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และเข้าถึงลูกค้าได้ดีกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า ที่ไม่เคยใช้บริการสินเชื่อบุคคลกับธนาคาร ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น คนทำงานฟรีแลนซ์, พ่อค้าแม่ค้า, พนักงานรายวัน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ ประเทศไทย กำลังเผชิญกับหนี้ครัวเรือน..

โดย หอการค้าไทย ระบุว่า ปี 2566 หนี้ครัวเรือนขยายตัว 11.5%
คิดเป็นมูลค่าหนี้ 559,408 บาทต่อครัวเรือน

ที่น่ากังวลกว่านั้นคือ 80.2% ของหนี้ครัวเรือน เป็นหนี้ในระบบ

“CardX ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก นอกจากเราจะมอบสินเชื่อที่อยู่ในระบบ ไม่ให้ผู้กู้ต้องเผชิญกับดอกเบี้ยแพง และการทวงหนี้ที่โหดจากเจ้าหนี้นอกระบบ

เรายังมีแผนให้ความรู้ด้านวินัยทางการเงิน เพื่อให้ผู้กู้หรือผู้ใช้บัตรเครดิต นำเงินไปใช้ในเรื่องที่มีประโยชน์ ไม่ใช้เงินเกินตัว ไม่เพิ่มภาระหนี้ให้กับตัวเอง”

ที่ต้องทำเช่นนี้ เพราะ CardX เชื่อว่าการทำธุรกิจการเงินดิจิทัล จะเติบโตคนเดียวไม่ได้

ฝั่งลูกค้าเอง ก็ต้องมีสุขภาพการเงินที่ดี โดยมี CardX เป็นเหมือนเพื่อนสนิทที่มอบโอกาสทางการเงินในยามฉุกเฉิน หรือต่อยอดความฝันในชีวิตของแต่ละคน

ส่วนทางฝั่งธุรกิจบัตรเครดิตนั้น คุณเมธี เล่าว่าที่ผ่านมา ตลาดบัตรเครดิตถูกดิสรัปชัน จากผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ และผู้เล่นในตลาดก็ต่างปรับตัว ด้วยการมอบข้อเสนอใหม่ ๆ ที่มากกว่าการสะสมแต้ม

“อาจยังพูดไม่ได้มาก เพราะยังอยู่ในช่วงถ่ายโอนลูกค้าจากฝั่งธนาคารซึ่งใกล้เสร็จแล้ว แต่ที่แน่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ CardX จะสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ทันสมัยในตลาดบัตรเครดิต ที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า พร้อมกับข้อเสนอที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายผ่านบัตร”

ถึงตรงนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่า CardX ทุ่มเททุกอย่างที่มีอยู่ให้กับ “ระบบ” ของตัวเอง โดยใช้เทคโนโลยีเป็นรากฐานและขับเคลื่อน เพราะถ้าระบบทุกอย่าง Perfect การให้บริการลูกค้าก็จะสมบูรณ์แบบอย่าง ไร้รอยต่อ ในทุก ๆ มิติ

พอผู้ขอสินเชื่อ และผู้ใช้งานบัตรเครดิต ได้รับข้อเสนอและประสบการณ์ที่ดี CardX ก็จะกลายเป็นทั้ง บัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ที่คนไทยคิดถึงเป็นแบรนด์แรก ๆ

ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ.. ตัวเลขในการทำธุรกิจ และรายได้บริษัท ก็จะเติบโตอย่างยั่งยืน

References
-สัมภาษณ์ผู้บริหาร CardX
-https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230727151616389