เศรษฐี Baby Boomers ส่งมอบมรดก 180 ล้านล้าน ธุรกิจอะไร จะได้ประโยชน์ ?

เศรษฐี Baby Boomers ส่งมอบมรดก 180 ล้านล้าน ธุรกิจอะไร จะได้ประโยชน์ ?

14 ธ.ค. 2023
เศรษฐี Baby Boomers ส่งมอบมรดก 180 ล้านล้าน
ธุรกิจอะไร จะได้ประโยชน์ ? /โดย ลงทุนแมน
ปัจจุบัน กลุ่มเศรษฐีพันล้านดอลลาร์สหรัฐ รุ่น Baby Boomers กำลังอยู่ในช่วง “The Great Wealth Transfer” แปลตรงตัวเลยคือ ช่วงส่งผ่านความมั่งคั่งครั้งใหญ่..
เรามาดูกันว่า ภาพรวมของเศรษฐีทั้งโลก เป็นอย่างไร ?ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
“183 ล้านล้านบาท” เป็นมูลค่าที่มหาเศรษฐี ในปัจจุบันกว่า 1,000 ราย เตรียมส่งผ่านความมั่งคั่งให้ลูกหลาน ภายใน 20 ถึง 30 ปีข้างหน้า
จากรายงานของ UBS สถาบันการเงินจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับมหาเศรษฐีทั่วโลก จนถึงเดือนเมษายนของทุกปี
ปี 2022 มหาเศรษฐี มีจำนวน 2,376 ราย
ถือครองทรัพย์สิน 387 ล้านล้านบาท
ปี 2023 มหาเศรษฐี มีจำนวน 2,544 ราย
ถือครองทรัพย์สิน 420 ล้านล้านบาท
จะเห็นได้ว่าปีนี้ ทั้งจำนวนและความมั่งคั่ง ของมหาเศรษฐี ยังคงเพิ่มขึ้น
และหากเรามาดู มูลค่าการส่งมอบมรดก ราว 183 ล้านล้านบาท ก็จะคิดเป็นสัดส่วน สูงถึง 4 ใน 10 ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของเศรษฐีเลยทีเดียว
ที่น่าสนใจก็คือ อายุเฉลี่ยของมหาเศรษฐีกลุ่มนี้ อยู่ในระดับ 69 ปี ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูงวัยพอสมควร
เหตุผลที่อายุเฉลี่ยของเศรษฐีอยู่ในระดับนี้ ก็เพราะว่าส่วนใหญ่
เป็นนักธุรกิจหรือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุคสมัย Baby Boomers
ปัจจุบัน เศรษฐีกลุ่มนี้ก็ได้เดินทางมาสู่ยุคส่งมอบมรดก ให้กับลูกหลาน
นอกจากนั้น ปีนี้ยังมีสถิติน่าสนใจตรงที่ มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่ได้รับการสืบทอดมรดกมานั้น มีมูลค่าทรัพย์สินมากกว่า กลุ่มที่สร้างกิจการขึ้นมาด้วยตนเอง ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ UBS เก็บข้อมูลมา
ปี 2023
- มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่รับสืบทอดมรดก
มีจำนวน 53 ราย มูลค่าทรัพย์สิน 5.3 ล้านล้านบาท
- มหาเศรษฐีหน้าใหม่ ที่สร้างกิจการด้วยตนเอง
มีจำนวน 84 ราย มูลค่าทรัพย์สิน 4.9 ล้านล้านบาท
สรุปแล้ว คลื่นการส่งมอบมรดกของมหาเศรษฐี กำลังมาแรงแบบก้าวกระโดด คำถามต่อมาก็คือ แล้วธุรกิจอะไร ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ?
จากการสำรวจความเห็น ของมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่รับสืบทอดมรดก มีสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ที่ต้องการต่อยอดความมั่งคั่งให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ผ่านการขยายธุรกิจ หรือลงทุนในทรัพย์สินต่าง ๆ
ในขณะที่มุมมองของเศรษฐีรุ่นใหม่ จะแตกต่างจากคนรุ่นก่อน อย่างเห็นได้ชัด
โดยมหาเศรษฐีสมัยก่อน มักสร้างฐานะความร่ำรวยมาจากการประกอบธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก
ขณะที่คนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่เป็นเทรนด์ในอนาคต เช่น เทคโนโลยี, รถยนต์ไฟฟ้า, พลังงานสะอาด และสิ่งแวดล้อมมากกว่า
กลุ่มธุรกิจเหล่านี้ ก็น่าจะได้ประโยชน์ด้านเงินทุน เข้าไปสนับสนุน เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจต่อไป
และอีกธุรกิจหนึ่งที่จะมีส่วนสำคัญ ในการสนับสนุนวงจรการส่งผ่านความมั่งคั่งครั้งใหญ่นี้
คงเป็นธุรกิจ “Wealth Management”
สาเหตุเพราะในทุกวันนี้ ธุรกรรมต่าง ๆ ล้วนมีความซับซ้อน และมีปัจจัยเสี่ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- การซื้อขายกิจการ
- ลงทุนสินทรัพย์
- ปรับโครงสร้างบริษัท
- หรือแม้กระทั่งการวางแผนทางด้านภาษีมรดก
กิจกรรมเหล่านี้ จำเป็นต้องอาศัยความรู้ และความเชี่ยวชาญในการแนะนำทางด้านการเงิน กฎหมาย และอื่น ๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน เพื่อบริหารความมั่งคั่งให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ซึ่งพอมีโอกาสทางธุรกิจ ทำให้ภาคธนาคารและสถาบันการเงินทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ต้องการรุกเข้ามาแย่งฐานลูกค้ารายใหญ่ในตลาดนี้
ยกตัวอย่างในประเทศไทย เช่น SCB มีการตั้งแผนไว้ชัดเจนว่า ต้องการเป็นผู้นำในตลาด Wealth Management
โดยในปี 2018 ได้จับมือกับ Julius Baer ธนาคารจากสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นมาใหม่ในประเทศไทย เพื่อดำเนินธุรกิจ Wealth Management และ Private Banking บริหารความมั่งคั่งให้แก่ลูกค้า ที่มีทรัพย์สินเกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป
หรือแม้กระทั่ง KBANK ที่หลายคนคุ้นเคยด้านความโดดเด่นในภาค SMEs ก็มีการรุกเข้ามาในตลาด Wealth Management เช่นกัน
โดยมีการให้บริการบริหารความมั่งคั่งแก่ลูกค้า ที่มีเงินฝากและเงินลงทุนกับธนาคารตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป
รวมถึงเป็นที่ปรึกษา การบริหารสินทรัพย์ครอบครัวในลักษณะของ Family Office อีกด้วย
จากสถานการณ์ส่งผ่านความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นนี้ คงทำให้โลกธุรกิจและการลงทุน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมไม่มากก็น้อย
โดยมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดแตกต่างจากคนยุคก่อนนั้น กำลังได้รับกระสุนเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล เติมเข้ามาในมือเพิ่มขึ้น
ประกอบกับ สถาบันการเงินหลายแห่ง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Wealth Management ได้เข้ามาคอยสนับสนุนข้อมูลและบริการต่าง ๆ เพื่อปลดล็อกอุปสรรค และตอบสนองความต้องการของมหาเศรษฐีรุ่นใหม่ ให้เกิดขึ้นจริงได้
ซึ่งเราคงต้องจับตาดูความเคลื่อนไหว ของพวกเขาเหล่านี้เอาไว้ให้ดี เพราะไม่แน่เหมือนกันว่า มันอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจโลก ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2023/11/30/billionaires-to-transfer-5-trillion-to-their-children.html
-https://edition.cnn.com/2023/11/30/business/ubs-billionaires-report/index.html
-https://www.wealthprofessional.ca/news/industry-news/billionaires-acquiring-more-wealth-through-inheritance-than-entrepreneurship-says-ubs/381852
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.