สรุปประวัติศาสตร์ Nvidia 30 ปี ฉบับสมบูรณ์

สรุปประวัติศาสตร์ Nvidia 30 ปี ฉบับสมบูรณ์

9 พ.ค. 2024
สรุปประวัติศาสตร์ Nvidia 30 ปี ฉบับสมบูรณ์ /โดย ลงทุนแมน
Nvidia เป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ปัจจุบัน มีมูลค่า 77 ล้านล้านบาท มากสุดเป็นอันดับ 3 ในโลก เป็นรองแค่ Microsoft และ Apple
ก่อนที่ Nvidia จะสำเร็จกับการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม AI ในวันนี้ บริษัทก็เคยล้มลุกคลุกคลานมาก่อน
เรามาดูกันว่าตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา
Nvidia เจอเหตุการณ์สำคัญ ๆ อะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปตอนปี 1993 หรือ 31 ปีก่อน
Nvidia ก่อตั้งขึ้นโดย Jensen Huang ซีอีโอคนปัจจุบัน กับ ผู้ก่อตั้งอีก 2 คน
ธุรกิจแรกสุดของบริษัท ก็คือ “พัฒนาชิปประมวลผลภาพสำหรับเกมและกราฟิก”
หลังจากก่อตั้งมาได้ 2 ปี บริษัทก็ได้เปิดตัวชิป ชื่อว่า NV1 ชิปสำหรับประมวลผลกราฟิก 3 มิติ
โดยมีบริษัทเกมญี่ปุ่น SEGA เข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์ ตกลงกันว่าเครื่องเกมรุ่นใหม่ จะใช้ชิป NV1 จาก Nvidia
แต่ต่อมา SEGA ตัดสินใจเปลี่ยนสเป็กบางอย่าง เพื่อลดต้นทุนการผลิต สมรรถนะของ NV1 ที่ออกแบบมาสำหรับสเป็กในตอนแรก จึงตกต่ำลงไปมาก
ท้ายที่สุด Nvidia จึงขอถอนตัวออกจากโครงการ เนื่องจากเกรงว่าจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท
ผลกระทบที่ตามมาก็คือบริษัท เสียลูกค้ารายใหญ่ จนขาดสภาพคล่องทางการเงิน Nvidia จึงต้องปลดพนักงานเกินครึ่งบริษัท และยังต้องขอเพิ่มทุนจาก VC เพื่อต่อชีวิตไม่ให้ล้มละลาย..
กรณีกับ SEGA ก็ได้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้บริษัท โฟกัสไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองเป็นหลัก มากกว่าการไปผลิตให้ผู้อื่น
จากเกือบหลับ แต่หลังจากนั้น Nvidia ก็กลับมาได้..
บริษัทได้พัฒนาชิปกราฟิกตัวใหม่สำเร็จ ชื่อว่า Riva 128 เป็นชิปที่ประมวลผลได้เร็วกว่าที่ขายอยู่ในตลาดช่วงนั้นถึง 5 เท่า
นั่นก็เลยทำให้ชิปของ Nvidia กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
หนึ่งในบริษัทที่สนใจ เป็นยักษ์ใหญ่ตลาด PC อย่าง Dell ที่มาพร้อมยอดออร์เดอร์ถล่มทลาย
เป้าของ Nvidia ไม่มีคำว่าผิดพลาด
คือต้องส่งมอบให้สำเร็จเท่านั้น
เพราะฐานะทางการเงินค่อนข้างย่ำแย่
แต่ด้วยคำสั่งซื้อก้อนโต ในชนิดที่บริษัทไม่เคยเจอมาก่อน ปัญหาด้านคุณภาพและมาตรฐานจึงเกิดขึ้น
Nvidia แก้ปัญหานี้ ด้วยการให้พนักงานทุกคน รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่าง Jensen Huang ตรวจสอบคุณภาพชิปด้วยมือทีละชิ้น..
จนในที่สุด ก็ผ่านมาได้
ต่อมา Nvidia ก็ประสบความสำเร็จกับชิปกราฟิกซีรีส์ใหม่ประสิทธิภาพสูง รุ่น GeForce
ตั้งแต่นั้นมา บริษัทก็ได้ถูกยกให้เป็นผู้นำตลาดชิปกราฟิกโลก
ระหว่างทาง Nvidia เติบโตควบคู่ ไปกับอุตสาหกรรมเกม และงานด้านกราฟิก แต่ปัจจุบัน Nvidia จะมาเติบโตแบบทวีคูณอีกครั้ง กับอุตสาหกรรม AI..
แล้ว Nvidia หันมาเข้าสู่โลกของ AI ได้อย่างไร ?
จุดเปลี่ยนของเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนปี 2006 ที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ค้นพบว่า จริง ๆ แล้วการ์ดจอ (GPU) ทำได้มากกว่าการประมวลผลภาพในคอมพิวเตอร์
จุดเด่นของ GPU คือการคำนวณทางคณิตศาสตร์ ที่รวดเร็ว มันเลยถูกนำไปใช้ในการประมวลผลภาพที่มีความละเอียดของสีในระดับที่เล็กมาก เป็นพิกเซล
นั่นก็เลยทำให้มันเหมาะกับการนำมาใช้ประมวลผล AI ที่ต้องใช้การคิดคำนวณในระดับสูงไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรูปภาพ การรับคำสั่งเสียง ไปจนถึงการโต้ตอบ
แต่ประเด็นก็คือปกติแล้ว GPU ไม่สามารถทำงานได้ด้วยตัวเอง เพราะมันต้องใช้ CPU ในการป้อนคำสั่งควบคู่ไปด้วย
เปรียบเทียบง่าย ๆ CPU ก็เหมือนกับหัวหน้าเชฟที่คอยดูภาพรวม ในขณะที่ GPU ก็เหมือนกับเชฟเฉพาะทาง
ซึ่ง Nvidia ก็ได้มองเห็นเรื่องทั้งหมดนี้ตั้งแต่แรก เลยลงทุนอย่างหนักเพื่อสร้างแพลตฟอร์มในการพัฒนา AI ขึ้นมา และได้ให้กำเนิดเครื่องมือต่าง ๆ ในการพัฒนา AI แบบครบวงจร อย่างเช่น
- CUDA แพลตฟอร์มเขียนโคดสำเร็จรูปที่ประมวลผลผ่าน GPU
- Nvidia Blackwell ชิป AI ล่าสุดที่ประมวลผลได้เร็วกว่า และประหยัดไฟมากกว่า Hopper รุ่นก่อนหน้าถึง 25 เท่า
โดย Blackwell ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้าน AI ของ Nvidia ที่มุ่งเน้นการพัฒนาฮาร์ดแวร์ และ ซอฟต์แวร์สำหรับ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ เพื่อตอบสนองความต้องการด้าน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายอุตสาหกรรม
ซึ่งชิปและแพลตฟอร์มพวกนี้ เป็นเครื่องมือเบื้องหลังของ บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Meta, Microsoft, Amazon, Tesla ไปจนถึง Google
- Sundar Pichai ซีอีโอ Google บอกไว้ว่า Google โชคดีที่มี Nvidia เป็นพาร์ตเนอร์ และจะนำตัวประมวลผลของ Nvidia มาพัฒนาบริการในอนาคต
- Satya Nadella ซีอีโอ Microsoft บอกไว้ว่าชิป Blackwell จะถูกนำมาใช้ในศูนย์ Data Center ของ Microsoft ทั่วโลก
- Mark Zuckerberg ซีอีโอ Meta บอกเอาไว้ว่า ชิป Blackwell จะถูกนำมาใช้ในการฝึกฝน Llama และสร้าง Meta AI
ต่อไปเราลองมาดูรายได้และกำไร ของ Nvidia
- ปี 2022 รายได้ 992,000 ล้านบาท กำไร 360,000 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 994,000 ล้านบาท กำไร 161,000 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 2,250,000 ล้านบาท กำไร 1,100,000 ล้านบาท
รายได้เติบโตเป็นเท่าตัว กำไรเติบโต 6 เท่า ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น
สาเหตุหลักก็มาจากเรื่องของ AI ที่ต้องใช้การประมวลผลขั้นสูง ทำให้ความต้องการชิปของ Nvidia ที่เป็นผู้นำ สูงตามไปด้วย
ถ้าจะสรุปเรื่องนี้ทั้งหมด ก็ต้องบอกว่า Nvidia ก็ไม่ต่างจากบริษัทอื่น ๆ ที่เคยเจอปัญหา เคยเกือบล้มละลายมาก่อน
แต่บริษัท ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาดได้ไว รวมถึงมองเห็นโอกาส บวกกับกล้าตัดสินใจ ในวันที่ทุกอย่างยังไม่พร้อม
ปัจจุบัน เราคงเห็นกันแล้วว่า AI เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกำลังเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตเราในหลาย ๆ ด้าน
และผลตอบแทนสำหรับผู้ที่มองเห็น และกล้าตัดสินใจเป็นคนแรก ๆ ได้รับ อย่าง Nvidia ก็คือการเป็นหนึ่งในบริษัท ที่เติบโตได้แบบก้าวกระโดด และเป็นหนึ่งในหุ้นมหัศจรรย์พันเด้ง ในวันนี้..
----------
Nvidia เป็นหนึ่งในหุ้นที่ MEGA10AI จะเข้าไปลงทุน เปิดจอง IPO แล้ว ตั้งแต่วันที่ 8 - 14 พ.ค.นี้
- กองทุนเปิด MEGA 10 ARTIFICIAL INTELLIGENCE ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10AI-A) และชนิดเพื่อการออม (MEGA10AI-SSF) และยังมีกองทุนเปิด MEGA 10 ARTIFICIAL INTELLIGENCE เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10AIRMF) โดยจะเข้าไปลงทุนในบริษัท ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
โดยคัดเลือกมาจากบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูง และมีสภาพคล่องสูง รวมทั้งเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ทั้งด้านที่เป็นผู้ผลิต ผู้พัฒนาสินค้าหรือบริการ และ/หรือที่เกี่ยวข้องกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนา จำนวน 10 บริษัท เช่น Microsoft, Nvidia, Alphabet, Meta, TSMC*
โดยจะเสนอขาย IPO ตั้งแต่วันที่ 8-14 พ.ค. 2567 และซื้อขายได้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.2567 เป็นต้นไป
พิเศษ ! ตั้งแต่ช่วง IPO จนถึง 7 มิ.ย. 2567 ค่าธรรมเนียมการขาย สำหรับรายการที่ซื้อ MEGA10AI-A ตั้งแต่ 1 ล้านบาท
- ยอดซื้อตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปต่อรายการ ค่าธรรมเนียมการขาย 0.5% ของมูลค่าซื้อขาย
- ยอดซื้อตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไปต่อรายการ ค่าธรรมเนียมการขาย 0.1% ของมูลค่าซื้อขาย
โดยค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้สั่งซื้อได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือภาษีอื่นใดแล้ว ศึกษารายละเอียดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมได้ที่ www.talisam.co.th

*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น
MEGA10AI-A เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนผ่านการเพิ่มมูลค่าของหน่วยลงทุนเป็นหลัก (Total Return)
MEGA10AI-SSF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินระยะยาว
MEGA10AIRMF เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
ผู้สนับสนุนการขาย ได้แก่
1. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
2. บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
4. บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ เว็ลธ์ เมจิก จำกัด
6. หลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
7. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
8. บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนเมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด
9. บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
10. บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
11. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
12. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน ฟินโนมีนา จำกัด
13. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน โรโบเวลธ์ จำกัด
14. บริษัท หลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
15. บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน)
16. บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน แอสเซนด์ เวลธ์ จำกัด
17. บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เทรเชอริสต์ จำกัด
18. บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด
19. บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)
20. บริษัทหลักทรัพย์ สยามเวลธ์ จำกัด
21. บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด
22. บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด
23. บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
24. บริษัท หลักทรัพย์ เคเคพี ไดม์ จำกัด
25. บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
26. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สายงานธุรกิจไพรเวทแบงค์ เฉพาะกองทุน MEGA10AI-A
27. บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด
ทั้งนี้ รายชื่อผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน อาจมีการปรับเปลี่ยนได้
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ และการลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน SSF และ RMF กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษี จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขของกองทุน
กองทุนนี้มีการลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีการลงทุนกระจุกตัวของหลักทรัพย์ และ หมวดอุตสาหกรรมและประเทศที่ลงทุน จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
Tag: NVIDIA
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.