การเพิ่มขึ้นของ Millionaire ในอินเดีย

การเพิ่มขึ้นของ Millionaire ในอินเดีย

22 ธ.ค. 2018
การเพิ่มขึ้นของ Millionaire ในอินเดีย / โดย ลงทุนแมน
ในโลกนี้มี Millionaire ทั้งหมด 36 ล้านคน
และประเทศที่มีจำนวน Millionaire มากที่สุด 3 ลำดับแรกของโลกคือ
1.สหรัฐอเมริกา 17.4 ล้านคน
2.จีน 3.5 ล้านคน
3.ญี่ปุ่น 2.8 ล้านคน
ถ้าพูดถึงคนที่เป็น Millionaire จะหมายถึง คนที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท
ซึ่งทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุด 3 ลำดับแรกของโลกอีกด้วย
ทั้งโลกมี GDP 2,635 ล้านล้านบาท
สหรัฐอเมริกา, จีน และ ญี่ปุ่น 3 ประเทศนี้ มี GDP รวมกัน 1,036 ล้านล้านบาท หรือ 39% ของทั้งโลก
แล้วมีประเทศไหนบ้างนอกจาก 3 ประเทศนี้ที่มีจำนวน Millionaire ที่น่าสนใจ
ตอนนี้มีประเทศหนึ่งที่จำนวน Millionaire มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ประเทศที่ว่านี้คือ อินเดีย..
ในปี 2007 อินเดียมีจำนวน Millionaire อยู่ที่ 124,000 คน
10 ปีผ่านไป
ปี 2017 อินเดียมีจำนวน Millionaire เพิ่มขึ้นเป็น 330,000 คน
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้น คือ อีก 10 ปีข้างหน้า
ภายในปี 2027 มีการคาดการณ์กันว่า อินเดียจะมีจำนวน Millionaire เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคน
ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้จำนวน Millionaire ของอินเดียเพิ่มขึ้น คือการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ, การแปรรูปรัฐวิสาหกิจ, การปฏิรูประบบการเก็บภาษีเพื่อลดความซับซ้อน และเพิ่มความโปร่งใส
นอกจากนั้น จำนวนผู้ประกอบการโดยเฉพาะธุรกิจ start-up ในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านการเงินกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบัน อินเดียกลายเป็นตลาดของธุรกิจ start-up ที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลกไปแล้ว
มาดูการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ที่เข้าสู่อินเดียในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ปี 2007 มูลค่า GDP เท่ากับ 41 ล้านล้านบาท มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 4.1 แสนล้านบาท
ปี 2017 มูลค่า GDP เท่ากับ 86 ล้านล้านบาท มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท
สรุปแล้ว มูลค่า GDP เติบโตเกือบ 110%
ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 240%
ที่น่าสนใจคือ ปี 1951 - 2017 หรือตลอด 67 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของ GDP ของอินเดียเฉลี่ยอยู่ที่ 6.1% และเคยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 11.4% ในช่วงระหว่างปี 2010
ขณะที่ IMF คาดว่า เศรษฐกิจของอินเดียจะเติบโตติดต่อกันมากกว่า 7% ในช่วง 2018 - 2023 ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเร็วที่สุดในโลก เร็วกว่าประเทศจีนเสียอีก
การที่ GDP ของประเทศเติบโตกว่าเท่าตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาทำให้ ปัจจุบัน มูลค่า GDP ของอินเดียอยู่ลำดับที่ 6 ของโลก แซงหน้าฝรั่งเศสซึ่งอยู่ลำดับที่ 7 ไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อพูดถึงอินเดีย อุตสาหกรรมที่ต้องพูดถึงคือ อุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งมีสัดส่วนใน GDP กว่า 7% ในปี 2017
ปริมาณการผลิตรถยนต์ในอินเดียเท่ากับ 4.8 ล้านคัน ทำให้ปัจจุบัน อินเดียเป็นฐานการผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 5 ของโลก
ขณะที่ประเทศไทยซึ่งผลิตรถยนต์ทั้งหมด 1.9 ล้านคัน นั้นอยู่ลำดับที่ 12 ของโลก
ตัวอย่างแบรนด์รถยนต์สัญชาติอินเดียที่หลายคนคุ้นเคยคือ ทาทา มอเตอร์ส ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ลำดับที่ 18 ของโลก และในปี 2018 ษริษัทมีรายได้กว่า 1.5 ล้านล้านบาทและกำไรกว่า 43,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงไม่แปลกที่จำนวน Millionaire ของอินเดียจะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านคนในอีก 9 ปี ข้างหน้า หรือประมาณ 3 เท่าจากปัจจุบัน
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
อินเดียมีจำนวนประชากรวัยแรงงาน 511 ล้านคน และจำนวนวัยแรงงานนี้จะเพิ่มไปสูงกว่า 1 พันล้านคนในปี 2025
อายุเฉลี่ยของประชากรอินเดียจะอยู่ที่ 27 ปี เทียบกับจีนที่ 38 ปี และญี่ปุ่นที่ 47 ปี ซึ่งแน่นอนว่าประเทศไหนที่มีประชากรวัยแรงงานมากก็จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ดี
ปัจจุบัน อินเดียมีประชากรอยู่ที่ 1.3 พันล้านคน มากที่สุดเป็นลำดับ 2 ของโลกรองจากประเทศจีน ที่ 1.4 พันล้านคน
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตอนนี้อินเดียมีอัตราการเติบโตของประชากรมากกว่าจีน
และมีการคาดการณ์ว่าในอีก 4 ปีข้างหน้า หรือปี 2022
อินเดียจะเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก แทนที่ประเทศจีน..
----------------------
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศอินเดียต่อได้ที่ https://www.blockdit.com/articles/5b30b16e076e65512a6872ac
ติดตามเรื่องเศรษฐกิจอื่นๆ ได้ที่เพจลงทุนแมน ในแอปพลิเคชัน blockdit โหลดเลย blockdit.com
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.