Vegan เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง

Vegan เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง

15 มิ.ย. 2019
Vegan เทรนด์สุขภาพที่กำลังมาแรง / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนคงรู้จัก Vegetarian หรือคนที่กินมังสวิรัติ
แต่คำว่า Vegan อาจจะไม่คุ้นหูเท่าไหร่
แล้วสองคำนี้มีความหมายแตกต่างกันอย่างไร?
ที่จริงแล้ว ชาวมังสวิรัติจะมี 2 ประเภท
แบบแรกคือ Vegetarian ซึ่งเราคงรู้จักกันดี ว่าเป็นคนที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์
แต่ยังบริโภคพวก ไข่, นม และเนยได้
อีกแบบคือ Vegan ซึ่งจะไม่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์เลย ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
รวมทั้งจะไม่ใช้สินค้าใดๆ ที่ทำจากสัตว์ เช่น เสื้อผ้า, กระเป๋า, รองเท้า, เครื่องสำอาง
เพราะพวกเขาไม่ต้องการเบียดเบียนสัตว์ทุกชนิดบนโลกใบนี้..

และปัจจุบันมีบริษัทสตาร์ตอัปต่างๆ ได้เข้ามาเจาะตลาดของคนกลุ่มนี้
โดยคิดค้นผลิตภัณฑ์ Clean Meat หรือเนื้อสังเคราะห์ที่ทำมาจากพืชทั้งหมด
ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีน ที่สามารถทดแทนเนื้อสัตว์จริงได้
และสินค้าประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมในต่างประเทศ
อย่างเช่น Impossible Foods เป็นบริษัทที่พัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชเพื่อทดแทนเนื้อสัตว์ และนม ก่อตั้งในปี 2011 ที่สหรัฐอเมริกา
สินค้าหลักของบริษัทตอนนี้คือ Impossible Burgers
และต่อไปบริษัทก็มีแผนที่จะปล่อยสินค้าอื่นตามมา เช่น ไส้กรอก, สเต๊ก, พิซซ่า

Cr. Impossiblefoods.com
เนื้อที่ใช้ในเมนู Impossible Whopper ของ Burger King ก็ผลิตมาจากบริษัทนี้
บริษัทนี้ได้รับเงินทุนจากหลายฝ่าย เช่น บิลล์ เกตส์, ลี กาชิง มหาเศรษฐีฮ่องกง, Google Ventures
และล่าสุดบริษัทเพิ่งได้รับเงินทุนเพิ่มจำนวน 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก Horizon Ventures
ตัวอย่างอีกบริษัทคือ Beyond Meat เป็นผู้ผลิตเนื้อสังเคราะห์สัญชาติอเมริกันเช่นเดียวกัน ก่อตั้งในปี 2009
ล่าสุดเพิ่ง IPO เข้าตลาด NASDAQ เมื่อเดือนที่แล้ว
โดยราคา IPO ที่ 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 168.1 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
เป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 6 เท่าภายในเวลาหนึ่งเดือน จนบริษัทมีมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท
บริษัทนี้มีผลิตภัณฑ์หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเบอร์เกอร์, ไส้กรอก, เนื้อบด, สเต๊ก ซึ่งทำจากพืช
Cr. The Spoon
รายได้ของบริษัท Beyond Meat, Inc.
ปี 2016 รายได้ 508 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 1,021 ล้านบาท
ปี 2018 (9 เดือนแรก) รายได้ 1,769 ล้านบาท
จะเห็นว่าแต่ละปีรายได้มีการเติบโตเกือบเท่าตัว
คนมีชื่อเสียงที่ลงทุนในบริษัทนี้มี บิลล์ เกตส์ และ ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ นักแสดงฮอลลีวูด
อีกข้อมูลที่น่าสนในคือ
ผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์เนื้อสังเคราะห์กว่า 86% เป็นคนที่บริโภคเนื้อสัตว์อยู่แล้ว

แสดงว่าทุกวันนี้ไม่ได้มีเพียงชาวมังสวิรัติ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
คนทั่วไปก็เริ่มใส่ใจเรื่องสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
เพราะการไม่บริโภคเนื้อสัตว์จะส่งผลเสียต่อสุขภาพน้อยกว่า และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจากการทำปศุสัตว์อีกด้วย
ปีที่แล้วมูลค่าของตลาดสินค้าทดแทนเนื้อสัตว์ทั่วโลก อยู่ที่ 144,000 ล้านบาท
โดยบริษัทวิจัยตลาด Markets and Markets คาดว่า ตลาดจะเติบโตขึ้นสูงถึง 200,000 ล้านบาท ในปี 2023
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงดึงดูดสตาร์ตอัปต่างๆ เข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด
เพราะเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ของโลก

และจุดเด่นอีกอย่างของเนื้อสังเคราะห์ คือมีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์
แต่มีจุดด้อยที่ราคาขายยังแพงกว่าอยู่มาก
ต่อไปถ้าบริษัทต่างๆ แข่งขันกันมากขึ้นในเรื่องราคาและคุณภาพ
จนราคาเนื้อสังเคราะห์ถูกกว่าเนื้อสัตว์จริงในที่สุด
เราอาจไม่อยากกลับไปบริโภคเนื้อสัตว์จริงๆ อีกเลย..
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.