เจาะลึกเม็ดเงินโฆษณา ออนไลน์ VS ออฟไลน์

เจาะลึกเม็ดเงินโฆษณา ออนไลน์ VS ออฟไลน์

19 ก.ค. 2019
เจาะลึกเม็ดเงินโฆษณา ออนไลน์ VS ออฟไลน์ / โดย ลงทุนแมน
9 ปีที่แล้ว
ระยะเวลาเฉลี่ย ที่ชาวอเมริกันเสพสื่อแต่ละประเภท ปี 2010
264 นาทีต่อวัน ..ดูทีวี
194 นาทีต่อวัน ..เล่นอินเทอร์เน็ต
96 นาทีต่อวัน ..ฟังวิทยุ
50 นาทีต่อวัน ..อ่านหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
แต่ในปัจจุบัน สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น และ สมาร์ตโฟนที่ถูกพัฒนาให้เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ทุกที่ทุกเวลา ทำให้พฤติกรรมการเสพสื่อเปลี่ยนรูปแบบไป
คาดการณ์ระยะเวลาเฉลี่ย ที่ชาวอเมริกัน เสพสื่อแต่ละประเภท ปี 2019
395 นาทีต่อวัน ..เล่นอินเทอร์เน็ต
215 นาทีต่อวัน ..ดูทีวี
80 นาทีต่อวัน ..ฟังวิทยุ
20 นาทีต่อวัน ..อ่านหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
คนเสพสื่อผ่านอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 104%
คนดูทีวีน้อยลง 19%
คนฟังวิทยุน้อยลง 17%
และคนอ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารน้อยลง 60%
ที่น่าสนใจคือ เอาเวลาที่ใช้ในการเสพสื่อแบบดั้งเดิมมารวมกันทั้งหมด ก็ยังไม่เท่าการเสพสื่อบนอินเทอร์เน็ตช่องทางเดียว
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีการประเมินว่า มูลค่าเม็ดเงินโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต กำลังจะสูงกว่ากลุ่มสื่อออฟไลน์แบบเดิมทั้งหมดรวมกัน
ปี 2018
สื่อออนไลน์ อยู่ที่ 3.3 ล้านล้านบาท
สื่อออฟไลน์ อยู่ที่ 3.5 ล้านล้านบาท
คาดการณ์ ปี 2019
สื่อออนไลน์ อยู่ที่ 4.0 ล้านล้านบาท
สื่อออฟไลน์ อยู่ที่ 3.4 ล้านล้านบาท
คาดการณ์ ปี 2020
สื่อออนไลน์ อยู่ที่ 4.6 ล้านล้านบาท
สื่อออฟไลน์ อยู่ที่ 3.3 ล้านล้านบาท
คาดการณ์ ปี 2021
สื่อออนไลน์ อยู่ที่ 5.3 ล้านล้านบาท
สื่อออฟไลน์ อยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท
และจะเห็นได้ว่าแนวโน้มดังกล่าว ยิ่งทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ อีกด้วย โดยใน 5 ปีข้างหน้า โฆษณาออนไลน์ อาจมีส่วนแบ่งตลาดสูงเกือบ 70%
ซึ่งผู้ที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้ไปเต็มๆ หนีไม่พ้น บริษัทที่ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งมีรายได้หลักมาจากค่าโฆษณา
Alphabet, Inc. (Google)
ปี 2010 รายได้ 900,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 4,200,000 ล้านบาท เติบโต 4.7 เท่า
Facebook, Inc.
ปี 2010 รายได้ 60,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 1,700,000 ล้านบาท เติบโต 28.3 เท่า
Cr. facebook
ส่วนบริษัทที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มออฟไลน์เดิม คงไม่อาจหลีกเลี่ยงภาวะชะลอตัว ที่คนสนใจมาลงโฆษณาน้อยลงได้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุด น่าจะเป็นสื่อหนังสือพิมพ์
The New York Times หนึ่งในธุรกิจหนังสือพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปี 2010 รายได้ 74,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 54,000 ล้านบาท ลดลง 27%
Cr. Behance
แล้วสถานการณ์ตลาดโฆษณาออนไลน์ในประเทศไทย เป็นอย่างไร?
รู้หรือไม่ว่า คนไทยนั้น ถือเป็นประชากรที่ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์มากเป็นลำดับต้นๆ ของโลก
ในหนึ่งวัน คนไทยเล่นอินเทอร์เน็ต เฉลี่ยราว 540 นาที หรือ 9 ชั่วโมง
เป็นรองเพียงแค่ ฟิลิปปินส์ และบราซิล เท่านั้น
Cr. Prachachat
ดังนั้น มันจึงทำให้ เม็ดเงินโฆษณาออนไลน์ ในประเทศไทย กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว..
ปี 2017 อยู่ที่ 12,000 ล้านบาท
ปี 2018 อยู่ที่ 17,000 ล้านบาท
คาดการณ์ ปี 2019 อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท
ในทางกลับกัน ผู้ที่ประกอบกิจการสื่อดั้งเดิมในไทย ก็ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แม้จะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมก็ตาม
บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ทีวีช่อง 7)
ปี 2010 รายได้ 7,451 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 5,750 ล้านบาท
บริษัท วัชรพล จำกัด (หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ)
ปี 2010 รายได้ 4,695 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 2,135 ล้านบาท
สรุปแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลาไม่ถึง 10 ปี
อินเทอร์เน็ตเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีในการเปลี่ยนแปลง
แต่การเกิดขึ้นของสมาร์ตโฟนเป็นตัวจุดชนวนเรื่องทั้งหมด
เรากำลังอยู่ในการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่สังคมออนไลน์อย่างเต็มตัว
ผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่ที่อยู่ในสื่อเดิมอาจต้องปรับตัว
เพราะ ในช่วงเวลานี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากอดีต
สิ่งที่ใช้ได้กับเมื่อก่อน อาจใช้ไม่ได้กับตอนนี้
ถ้าเรายังอยู่ในสื่อเดิม เราต้องคิดว่า
จริงๆ แล้ว โฆษณาไม่ได้หายไหน
แต่ตัวเรานี่แหละ ที่หายไป..
Cr. Today
----------------------
อ่านลงทุนแมนสนุกขึ้น
อ่านในแอป Blockdit
โหลดที่ http://www.blockdit.com
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.