Caltech มหาวิทยาลัย รวมหัวกะทิ / โดย ลงทุนแมน

“ไม่ว่าพ่อแม่คุณคือใคร ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็สามารถเข้ามาเรียนที่นี่ได้”
คำนี้สามารถใช้ได้กับมหาวิทยาลัย California Institute of Technology หรือ Caltech

ในสหรัฐอเมริกา หลายคนอาจจะคุ้นชื่อมหาวิทยาลัยอย่าง Harvard หรือ MIT

แต่ Caltech ก็นับเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกแห่งเช่นกัน
มหาวิทยาลัยแห่งนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

มหาวิทยาลัย Caltech ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนียก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1891 นับจนวันนี้มีอายุกว่า 128 ปี

Caltech ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่รับนักศึกษาค่อนข้างน้อย ปีละประมาณ 2,200 คน เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยอย่าง Harvard ที่มีนักศึกษากว่า 22,000 คน หรือ MIT ที่มีนักศึกษากว่า 11,500 คน

ปกติแล้วนักศึกษาที่สมัครเรียนในระดับปริญญาตรีในวิทยาลัย หรือมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกาต้องสอบข้อสอบ SAT ซึ่งมี 2 ส่วนคือ คณิตศาสตร์ และการสอบด้านภาษา คะแนนเต็มส่วนละ 800 คะแนน

ที่น่าสนใจคือ คะแนนเฉลี่ยของ SAT ด้านคณิตศาสตร์ทั่วโลกอยู่ที่ 536 คะแนน

ขณะที่ นักศึกษาที่สมัครเข้า Caltech จะทำคะแนน SAT ด้านคณิตศาสตร์อยู่ในช่วง 790-800 คะแนน

Acceptance rate หรือ อัตราการรับเข้าเรียนที่นี่เท่ากับ 7.7% ซึ่งนับเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีการแข่งขันสูงแห่งหนึ่งในโลก

ที่ Caltech นั้น การเรียนการสอนประกอบไปด้วย 6 คณะ

1. คณะชีววิทยาและวิศวกรรมชีวภาพ
2. คณะเคมีและวิศวกรรมเคมี
3. คณะวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ประยุกต์
4. คณะธรณีวิทยาและวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์
5. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
6. คณะฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์

ค่าเรียนที่ Caltech อยู่ที่ปีละประมาณ 1.6 ล้านบาท ขณะที่นักศึกษาจบใหม่จากที่นี่โดยเฉลี่ยแล้วมีรายได้อยู่ที่ปีละประมาณ 2.1 ล้านบาท

Caltech มีชื่อเสียงในด้านงานวิจัย และการศึกษาหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านวิทยาศาสตร์ และวิศวกรรมศาสตร์

บุคลากรของ Caltech ได้รับรางวัล Nobel ถึง 73 ครั้ง อยู่ลำดับที่ 8 ของมหาวิทยาลัยที่มีผู้ได้รับรางวัล Nobel มากที่สุดในโลก และมากกว่ามหาวิทยาลัย Oxford ที่มีผู้ได้รับรางวัล Nobel จำนวน 69 ครั้ง

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ที่สอนที่ Caltech มีรายได้ต่อปีเท่ากับ 3.4 ล้านบาท ขณะที่ศาสตราจารย์มีรายได้ต่อปี 5.3 ล้านบาท

ในปี ค.ศ. 1931 อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักฟิสิกส์อัจฉริยะของโลกเดินทางมาที่ Caltech เพื่อพัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของวิชาฟิสิกส์ยุคใหม่ รวมทั้งเคยมาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่นี่ในปี ค.ศ. 1932 และ ค.ศ. 1933

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงของที่นี่คือ Gordon Moore ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทอินเทล และเป็นผู้คิดค้นกฎของมัวร์ (Moore's Law) เกี่ยวกับแนวโน้มของการพัฒนาฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ในระยะยาว

ซึ่งมัวร์มองว่า จํานวนทรานซิสเตอร์ที่สามารถบรรจุลงในชิปจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุกๆ สองปี ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะมีความสามารถในการประมวลผลเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

สำหรับมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกาบางแห่ง ถ้าพ่อแม่เคยเรียนมาก่อน มีโอกาสที่ลูกจะได้เข้าเรียนด้วย

แต่สำหรับที่ Caltech ไม่มีนโยบายรับลูกของศิษย์เก่า
เขาไม่สนว่าพ่อแม่ของนักเรียนเคยเรียนที่นี่มาก่อนหรือไม่
เพราะถ้านักเรียนคนนั้นเก่งพอ ก็จะมีโอกาสได้เรียนที่ Caltech..
----------------------
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่ อ่านฟรี
โหลดเลย Blockdit.com/download
----------------------

References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-04-03/brains-not-bribes-get-your-kid-into-the-door-at-this-college
-https://www.newsindiatimes.com/this-school-doesnt-care-who-your-parents-are/
-https://en.wikipedia.org/wiki/California_Institute_of_Technology
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gordon_Moore
-https://www.usnews.com/best-colleges/california-institute-of-technology-1131
-https://www.monster.com/career-advice/article/colleges-that-get-most-pay-for-graduates
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Nobel_laureates_by_university_affiliation
-https://www.caltech.edu/research/faculty-listing
-https://www.prepscholar.com/sat/s/colleges/Caltech-admission-requirements