แม่น้ำเจ้าพระยา กำลังเงียบเหงา /โดย ลงทุนแมน

“เอเชียทีค ไอคอนสยาม วังหลัง วัดอรุณฯ วัดระฆัง เรือสำราญ เรือภัตตาคาร ทัวร์เรือหางยาว”
เป็นชื่อที่หลายๆ คนเคยไปใช้บริการมาแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น สถานที่เหล่านี้ยังเป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมักจะนิยมไปเช่นกัน

แม่น้ำเจ้าพระยาถูกรายล้อมไปด้วยสถานที่เก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์
และสถานที่สมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

นอกจากนั้น แม่น้ำเจ้าพระยายังเต็มไปด้วยธุรกิจการเดินเรือในรูปแบบต่างๆ
เช่น เรือข้ามฟาก เรือด่วน เรือบรรทุกสินค้า และเรือท่องเที่ยว

แต่แม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ กำลังเงียบเหงาลง
เพราะอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
แม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของกรุงเทพฯ หลายแห่งจะตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อนอย่างการระบาดของ “COVID-19”
จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันให้ผู้คนได้ตั้งตัว

หลังการระบาดอย่างรุนแรงของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต่างพากันหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่สุ่มเสี่ยง
ซึ่งแน่นอนว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่แออัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา คงจะเป็นที่แรกๆ ที่คนหลีกเลี่ยง

ในขณะเดียวกัน การประกาศห้ามทัวร์จีนออกนอกประเทศ
ส่งผลโดยตรงให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในไทยลดลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเปรียบเทียบสถิตินักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาในไทยจะพบว่า
ก.พ. 2562 เดินทางเข้ามาประมาณ 1 ล้านคน
ก.พ. 2563 เดินทางเข้ามาประมาณ 1.7 แสนคน

สถิติด้านบนแสดงให้เห็นว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนหายไปกว่า 80%

นอกจากนักท่องเที่ยวจีนที่หายไปอย่างน่าตกใจแล้ว
ในเดือน ก.พ. 2563 นักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ก็หายไปเช่นกัน

นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้หายไปกว่า 70%
นักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์หายไปกว่า 50%

แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขที่สามารถนำมายืนยันได้อย่างชัดเจนว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปจะกระทบต่อธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยามากน้อยเพียงใด

แต่แน่นอนว่าธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวคงจะต้องได้รับผลกระทบไปเต็มๆ

เหตุการณ์ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือ “เอเชียทีค”
ผู้เช่าร้านในเอเชียทีคได้เรียกร้องขอให้ทางเอเชียทีคช่วยลดค่าเช่า
เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หายไปจากผลกระทบของ COVID-19

ซึ่งทางเอเชียทีคก็ได้ประกาศว่าจะลดค่าเช่าให้ 25%
นอกจากนี้ทางเอเชียทีคยังได้เปิดเผยว่านักท่องเที่ยวต่างชาติในเอเชียทีคได้หายไปกว่า 80%

ในขณะเดียวกันธุรกิจเรือสำราญและเรือภัตตาคาร ก็น่าจะได้รับผลกระทบตามกันไปติดๆ
เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หายไป

และที่สำคัญในช่วงนี้คงไม่มีใครอยากขึ้นไปทานบุฟเฟต์มื้อดึกบนเรือสำราญ หลังจากได้เห็นข่าวผู้ติดเชื้อจำนวนมากจากเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยามีลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งคือ “ความเชื่อมโยงของธุรกิจ”

โดยปกติแล้ว ไอคอนสยามและเอเชียทีค จะเป็นจุดขึ้นเรือสำราญของหลายบริษัท

นั่นหมายความว่า ลูกค้ากลุ่มที่ล่องเรือสำราญก็จะแวะมาเดินเที่ยวที่ไอคอนสยามและเอเชียทีคก่อนขึ้นเรือ ถ้าหากลูกค้าของธุรกิจหนึ่งหายไปก็จะไปกระทบกับอีกธุรกิจหนึ่งเช่นกัน

นอกจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะหายไปแล้ว นักท่องเที่ยวชาวไทยก็น่าจะลดลงไปเช่นกัน

เนื่องจากการประกาศของกระทรวงสาธารณสุข
ที่แนะนำให้คนไทยหลีกเลี่ยงสถานที่ที่ชาวต่างชาตินิยมไป

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์ปัจจุบัน การแพร่ระบาดในไทยก็ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่
เราจะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน
แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทยอาจจะไม่ได้สูงมากเท่ากับประเทศอื่นๆ ที่เข้าขั้นวิกฤต
แต่ก็ทำให้ผู้คนต่างตระหนักถึงปัญหา COVID-19 และพยายามป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อ

ไม่ใช่แค่ธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ
แต่ธุรกิจอื่นๆ ก็ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ไปตามๆ กัน
และแม้ว่าสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศจีนและเกาหลีจะดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาสักพักกว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา

อย่างไรก็ตาม แม่น้ำเจ้าพระยาก็คงไม่ได้เงียบเหงาไปตลอด
ในที่สุดแล้วเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นแค่ชั่วคราว
หลังผ่านพ้นวิกฤต COVID-19 แม่น้ำเจ้าพระยาคงจะกลับมาครึกครื้นเหมือนวันวาน..
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.dailynews.co.th/economic/760172
-https://www.japantimes.co.jp/news
-https://www.immigration.go.th/immigration_stats
-https://www.iconsiam.com/th/getting_here
-https://www.bbc.com/thai/thailand-51894955