ถ้าเปิดเมือง 1 พฤษภาคม หลายอย่างจะยังไม่กลับสู่สภาพปกติ

ถ้าเปิดเมือง 1 พฤษภาคม หลายอย่างจะยังไม่กลับสู่สภาพปกติ

15 เม.ย. 2020
ถ้าเปิดเมือง 1 พฤษภาคม หลายอย่างจะยังไม่กลับสู่สภาพปกติ /โดย ลงทุนแมน
การปิดเมืองจะดำเนินมาถึงวันสุดท้ายคือ วันที่ 30 เมษายน
ลงทุนแมนทำกราฟผู้ติดเชื้อมาตั้งแต่เดือนมกราคม
หากนำข้อมูลของประเทศไทย ที่รวบรวมมาเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนมาวิเคราะห์
ก็คงจะกล่าวได้ว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยเริ่มดีขึ้นพอสมควร
ถึงแม้สถานการณ์จะดีขึ้นแล้ว แต่ท่ามกลางการระบาดอย่างหนักในอีกหลายประเทศทั่วโลก
หลายคนเกิดคำถามว่า แล้วหลังจากการปิดเมืองจะเป็นอย่างไร?
ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือไม่?
ไม่มีใครรู้อนาคตได้
แต่ลงทุนแมนจะคาดการณ์ให้ฟัง..
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดในขณะนี้
ก็คือ “พฤติกรรมคนไทย” ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน
สำหรับหลายคนที่ต้องออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเพื่อทำงาน จับจ่ายใช้สอย หรือทำธุรกรรมต่างๆ
แทบทุกคนใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา
หลายคนพ่นสเปรย์แอลกอฮอล์ที่มือทุกครั้ง ไม่ว่าจะสัมผัสอะไรก็ตาม
หลายคนล้างมือให้มากครั้งเท่าที่จะทำได้
ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร อาคารสำนักงาน ฯลฯ
มีเจลแอลกอฮอล์วางให้บริการ และมีบริการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าใช้สถานที่ทุกครั้ง
พฤติกรรมเหล่านี้ แม้จะดู “มาก” เกินไป
แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง กลับกลายเป็นเกราะคุ้มกันชั้นดี ที่ช่วยลดการระบาดของโรคให้น้อยลง และมีแนวโน้มว่า พฤติกรรมเหล่านี้จะยังคงอยู่ไปอีกสักพัก แม้จะเข้าสู่การเปิดเมืองแล้วก็ตาม
แน่นอนว่า ทางฝ่ายภาครัฐเอง ก็มีความกังวลไม่น้อย
ดังนั้น การเปิดเมืองอย่างสมบูรณ์ทุกอย่าง จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
หนทางที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ก็คือ การค่อยๆ เปิดบางกิจการ
ในขณะที่หลายกิจการยังคงปิดอยู่
แล้วกิจการที่น่าจะเปิดได้ มีอะไรบ้าง?
ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าต่างๆ ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย สถานที่ออกกำลังกาย ห้องสมุด สถานที่เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะได้เปิดก่อน
แต่ถึงแม้จะเปิดได้ ก็ต้องมีมาตรการชัดเจน ในการเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคล
ร้านอาหาร ถึงแม้จะเปิดให้นั่งกินในร้านได้ แต่จะมีระยะห่างระหว่างโต๊ะมากขึ้น
ส่วนร้านอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ อาจยังไม่มีการเปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์
หรืออาจเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็นอาหารจานเดียวชั่วคราว
เช่นเดียวกับร้านตัดผม ร้านเสริมสวย จะมีระยะห่างระหว่างที่นั่งลูกค้ามากขึ้น
อาจเป็นไปได้ว่า ทั้งช่างตัดผมและลูกค้า จะสวมหน้ากากกันตลอดเวลา
สถานที่ออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งและในร่ม หากเปิดบริการ
จำเป็นที่จะต้องมีระยะห่างระหว่างอุปกรณ์การเล่นมากขึ้น
คลาสกิจกรรมออกกำลังกายต่างๆ น่าจะมีแนวโน้มว่าจะยังถูกยกเลิกอย่างไม่มีกำหนด
แล้วกิจการอะไรบ้าง ที่ยังไม่เปิดดำเนินการ?
ส่วนใหญ่เป็นกิจการที่มีการรวมกลุ่มของผู้คนเป็นจำนวนมาก เป็นระยะเวลานานหลายชั่วโมง
เช่น โรงภาพยนตร์ สนามแข่งขันกีฬาทุกชนิด ทั้งสนามมวย สนามแข่งรถ
สถานบันเทิง และกิจกรรมที่มีการรวมผู้คนทุกชนิด ทั้งงานอีเวนต์ คอนเสิร์ต งานสัมมนา และการจัดงานรื่นเริงต่างๆ ทั้งงานแต่งงาน งานฉลอง งานประชุมของบริษัท
กิจการเหล่านี้จะยังไม่เปิดให้บริการทันทีหลังวันที่ 30 เมษายน
อาจต้องรอดูสถานการณ์เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 15 วัน หรือ 30 วัน
อาจมีการเปิดให้บริการในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายน
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจะเป็นจุดเสี่ยง หากบริการหลายๆ อย่างเริ่มเปิดดำเนินการ
คือ ขนส่งมวลชน
รถไฟฟ้า รถเมล์ เรือโดยสาร รถตู้ จำเป็นที่จะต้องมีการเว้นระยะระหว่างผู้โดยสาร
นั่นหมายความว่า ขนส่งมวลชนเหล่านี้ จะไม่สามารถบรรจุผู้คนได้เท่าเดิม
และด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการเอกชน โดยเฉพาะรถตู้หลายราย
อาจเลือกที่จะยังไม่เปิดบริการ เนื่องจากไม่คุ้มกับต้นทุน
เมื่อระบบขนส่งมวลชนรองรับเส้นทางได้น้อยลง ออฟฟิศเอกชนหลายแห่งจะยังไม่มีพนักงานกลับมาทำงานทั้งหมด
พนักงานบางส่วนยังคงทำงานที่บ้าน หรืออาจมีการผลัดเปลี่ยนเดินทางเข้าออฟฟิศเป็นครั้งคราว
กิจการที่น่าเป็นห่วงคือ กิจการที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น โรงแรม บริษัททัวร์ และร้านค้าที่มีลูกค้าหลักเป็นชาวต่างชาติ
หลายประเทศทั่วโลกยังคงมีการระบาดอย่างหนัก
การเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างสมบูรณ์ ก็เท่ากับเปิดประตูต้อนรับเชื้อเข้ามาอีกครั้ง
จึงมีความเป็นไปได้ว่า มาตรการปิดประเทศจะยังคงดำเนินต่อ ไม่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่างน้อยก็จนกว่าสถานการณ์ทั่วโลกจะคลี่คลายมากขึ้น
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือ “ประเทศเพื่อนบ้าน” โดยเฉพาะประเทศที่มีแรงงานทำงานในประเทศไทยจำนวนมาก เช่น พม่า ลาว และกัมพูชา
ขณะนี้ ประเทศเหล่านี้เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 แล้ว
การกลับเข้ามาของแรงงานต่างชาติ โดยเฉพาะในภาคบริการ
จำเป็นจะต้องมีการคัดกรองอย่างรัดกุม หรือมีมาตรการในการกักตัวแรงงาน
ซึ่งจะทำให้ภาคบริการที่อาศัยแรงงานเหล่านี้ ยังไม่สามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ทันที
ดังนั้น ในวันที่ 1 พฤษภาคม แม้จะเริ่มมีการเปิดเมืองแล้ว แต่ทุกอย่างจะยังไม่กลับสู่สภาพปกติโดยสมบูรณ์ ตราบใดที่ทั่วโลกยังคงมีการระบาดอย่างหนัก
สำหรับคนส่วนใหญ่ ซึ่งปฏิบัติแนวทาง “เว้นระยะห่างทางสังคม” อย่างเคร่งครัด ทั้งการใส่หน้ากาก และล้างมือบ่อยครั้ง พฤติกรรมเหล่านี้จะยังคงอยู่ต่อไปอีกสักพัก
แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือ อาจมีคนส่วนน้อย ที่เฝ้ารอการเปิดเมืองครั้งนี้
นัดพบปะสังสรรค์กันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือจัดงานเฉลิมฉลอง
นี่เองที่จะทำให้สิ่งที่เราทุกคนพยายามปฏิบัติกันมาตลอดเกือบ 6 สัปดาห์
สูญเปล่าไปในทันที
หากสถานการณ์ควบคุมไม่ได้ หรือกลับมาระบาดรุนแรงอีกครั้ง
เราอาจจะต้องมาเริ่ม “ปิดเมือง” กันเป็นครั้งที่สอง
และคราวนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจคงหนักเกินกว่าที่จะคาดการณ์ได้..
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.