หากวันหนึ่ง..คนที่เรารักที่สุดในชีวิต จะไม่มีชีวิตรอดในวันพรุ่งนี้
เราจะขอโอกาสสักครั้งให้เขาฟื้นขึ้นมา แม้ความหวังจะริบหรี่ หรือไม่?
ขอต้อนรับเข้าสู่ Hope Frozen “ความหวังที่เยือกแข็ง”

สารคดีนี้จะฉายผ่าน Netflix ในวันที่ 15 กันยายน 2563 (ซึ่งก็คือวันนี้) เป็นสารคดีที่สร้างจากเรื่องจริง ที่ได้เกิดขึ้นกับครอบครัวเนาวรัตน์พงษ์

ครอบครัวคนไทยที่ได้ตัดสินใจนำสมองของลูกสาววัย 2 ขวบไปเก็บรักษา
ด้วยวิธีการแช่แข็งผ่านกระบวนการไครออนิกส์ (Cryonics) หลังจากเด็กน้อยได้เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งสมอง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
╚═══════════╝
โดย Cryo มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก แปลว่า เย็นจัด
ดังนั้นวิธีการไครออนิกส์ ก็คือ การแช่แข็งในระดับอุณหภูมิที่ต่ำมากด้วยไนโตรเจนเหลวที่ -196 องศาเซลเซียส ทั้งหมดนี้ก็เพื่อคงสภาพเซลล์เนื้อเยื่อในระยะเวลายาวนาน

สาเหตุที่แช่แข็งโดยเฉพาะส่วนของสมอง เพราะมันเพียงพอที่จะเก็บความทรงจำและบุคลิกของบุคคลเอาไว้

และที่ต้องนำไปเยือกแข็งเพื่อคงสภาพไว้ นั่นก็เพราะว่า วันใดวันหนึ่ง เราจะสามารถฟื้นคืนชีวิตได้อีกครั้งด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าขึ้นในอนาคต

พออ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนจะมีความคิดค้านไม่เห็นด้วยกับการทำแบบนี้ เพราะเป็นการฝืนธรรมชาติ

แต่สำหรับ ดร.สหธรณ์ เนาวรัตน์พงษ์ กล่าวว่า ผมไม่แคร์ว่า ใครจะว่า ว่าเราเป็นคนที่ไม่รู้จักตัดใจ และยึดติดอยู่กับตรงนี้ ผมไม่แคร์..

คำพูดดังกล่าวก็อาจสะท้อนความนึกคิดของผู้เป็นพ่อได้เป็นอย่างดี ที่พร้อมที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ลูกสาวกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง

สำหรับในมุมมองของลงทุนแมน
ดูเรื่องนี้จบก็ทำให้เกิดคำถามกับคำว่า “ฝืนธรรมชาติ” คำจำกัดความของคำว่า “ธรรมชาติ” นั้นมันเป็นอย่างไร?

การที่เรานั่งรถยนต์ความเร็ว 100 กม.ต่อชั่วโมง เป็นการฝืนธรรมชาติในการวิ่งของมนุษย์ หรือไม่?
การที่เรานั่งเครื่องบินลอยไปในอากาศ เป็นการฝืนธรรมชาติที่มนุษย์ไม่มีปีก หรือไม่?

แล้วการที่หมอปั๊มหัวใจคนใกล้เสียชีวิต ทำให้พวกเขาฟื้นขึ้นมา หมอกำลังฝืนธรรมชาติ หรือไม่?
แล้วการที่ให้พ่อแม่เรากินยารักษาโรค ไม่ให้เขาจากไปก่อนวัยอันควร เป็นการฝืนธรรมชาติของการมีชีวิตอยู่ หรือไม่?

ถ้าสิ่งเหล่านี้ พวกเราคุ้นเคยว่าเป็น “เรื่องปกติ” ในสมัยนี้
แต่มนุษย์เมื่อ 500 ปีที่แล้ว เห็น รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องปั๊มหัวใจ ก็คงจะบอกว่าเป็นสิ่งที่แปลกประหลาด และเป็นการฝืนธรรมชาติ

เพราะสิ่งที่มนุษย์ทำมาตั้งแต่อดีต ก็คือการฝืนธรรมชาติ ทั้งนั้น
ตั้งแต่ทำฟาร์ม เลี้ยงสัตว์ ขุดน้ำมันมาใช้ ผ่าตัด ปลูกถ่ายอวัยวะ

ย้อนไปที่คำถามเดียวกันคือ
แล้วเรามั่นใจได้อย่างไรว่า การเก็บรักษาสมองคนในความเยือกแข็งที่ดูเป็น “เรื่องประหลาด” ในสมัยนี้ จะไม่เป็น “เรื่องปกติ” ในอนาคต?

แค่ถามคนเมื่อ 20 ปีที่แล้วว่าธรรมชาติของเขาคือ
การก้มหน้าดูสมาร์ตโฟนหรือไม่
คำตอบที่ได้ก็จะทำให้เรายอมรับความจริงว่า
ธรรมชาติ ในแต่ละยุคสมัยนั้น แตกต่างกัน

ใน 100 ปีข้างหน้า
การท่องเที่ยวในอวกาศ
การเชื่อมสมองคนเข้าสู่คอมพิวเตอร์
การนำความทรงจำเข้าสู่ร่างใหม่

เรื่องพวกนี้อาจ “เป็นธรรมชาติ” ของคนในยุคถัดไป

อ่านมาถึงตรงนี้ คำถามที่น่าคิดต่อไปก็คือ
ถ้ามันเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ เขาก็ทำกันในอนาคต
แล้วมันจะช่วยให้คนที่เรารักที่สุดในชีวิต มีชีวิตรอดในวันพรุ่งนี้ได้
แล้วเราจะทำอย่างไร กับคนที่เรารัก..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์มของแหล่งรวมนักคิด
ที่ช่วยอัปเดตสถานการณ์ ในรูปแบบบทความ วิดีโอ
รวมไปถึงพอดแคสต์ ที่มีให้ฟังระหว่างเดินทางด้วย
ลองใช้กันที่ Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman

References
-https://www.alcor.org/
-https://thelatch.com.au/hope-frozen/#:~:text=Netflix%20is%20about%20to%20premiere,A%20Quest%20to%20Live%20Twice.&text=The%20documentary%20follows%20the%20family,rebirth%20inside%20a%20regenerated%20body.
-http://www.nsm.or.th/other-service/669-online-science/knowledge-inventory/sci-vocabulary/sci-vocabulary-science-museum/119-cryonics.html
-https://www.sarakadeelite.com/lite/hope-frozen-netflix/
-https://www.youtube.com/watch?v=RFFP6f5ZXog
-https://readthecloud.co/pailin-wedel-hope-frozen/