สนับสนุนโดย ธนาคารธนชาต
The Treasure การส่งต่อความมั่งคั่ง จากรุ่นสู่รุ่น

เราเคยถามตัวเองกันบ้างไหม ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อีกกี่ปี?
เราจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตที่เหลือกับครอบครัวที่เรารักได้อีกนานเท่าไร?

ถึงแม้ว่าเราจะอยากใช้ชีวิตกับครอบครัวที่เรารักให้ได้นานที่สุด
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชีวิตเราต้องพบกับ ความไม่แน่นอน อยู่ทุกวัน
ซึ่งความไม่แน่นอนที่ว่า อาจจะทำให้เราไม่สามารถดูแลครอบครัวของเราได้นานอย่างที่หวัง

สำหรับคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว
สิ่งสำคัญก็คือ จะทำอย่างไรให้ครอบครัวที่เรารักได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุข มีชีวิตที่ดี ให้ลูกได้รับการศึกษาที่ดี สร้างเส้นทางชีวิตที่ลูกของเราจะก้าวไปได้ไกลที่สุด แม้ว่าเราจะไม่อยู่แล้วก็ตาม

เพราะมันคงไม่มีประโยชน์อะไร หากเราใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อค้นหาความสำเร็จและความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วพวกเขากลับไม่ได้ร่วมสัมผัสความสำเร็จเหล่านั้น

จะดีสักแค่ไหนถ้าเราไม่ต้องกังวลว่า ในวันที่เราล้มลง ครอบครัวของเราอาจต้องทนทุกข์และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เพราะสูญเสียเสาหลักอย่างหัวหน้าครอบครัว

ในวันนี้ เราสามารถคลายกังวลเรื่องความไม่แน่นอนลงไปได้
ผ่านการวางแผนอนาคตเชิงรุกให้ลูกหลาน
แล้วเราควรวางแผนอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

หากเปรียบชีวิตเราเป็นการลงทุน การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง
แต่เราสามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงได้
เพียงแค่ทำประกันชีวิตให้กับตัวเราเอง

รู้หรือไม่ จริงๆแล้วการทำประกันชีวิตไม่ได้เป็นการทำเพื่อคุ้มครองตัวเราเองเท่านั้น
แต่เป็นการคุ้มครองให้คนที่เรารัก ไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากในยามที่เราจากไป

โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวนเช่นนี้ อาจทำให้การวางแผนทรัพย์สินเพื่ออนาคตของลูกไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และการลงทุนหลายๆอย่างก็อาจมีภาระทางภาษีตามมา

ประกันชีวิต The Treasure เป็นประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพื่อการจัดสรรทรัพย์สินเพื่อต่อยอดอนาคตให้แก่ลูกหลาน โดยให้ผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถส่งต่อความมั่งคั่งให้แก่ทายาทรุ่นถัดไป อีกทั้งยังอุ่นใจกับหลักประกันความคุ้มครองสูงในกรมธรรม์เดียว

The Treasure จึงเป็นทางเลือกที่ดีและตอบโจทย์การวางแผนอนาคตเชิงรุกให้ลูกหลานได้ ในเวลาที่เศรษฐกิจผันผวนและคาดเดายาก

แผนคุ้มครองนี้จะช่วยให้เรามั่นใจได้ว่า ลูกของเราจะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขในทุกๆช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเรียนจบ เริ่มทำงาน หรือสร้างครอบครัว

เมื่อเราลองมาดูผลตอบแทน The Treasure เราจะพบว่าความคุ้มครองแผนนี้มีประเด็นน่าสนใจอยู่

เรื่องแรกคือ The Treasure ให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ
แผนความคุ้มครองนี้จัดสรรผลตอบแทนทุกปีเป็นเงิน 8% ของทุนประกันภัยเริ่มต้นจนถึงอายุ 87 ปี

และเมื่อเราอายุ 88 ปีซึ่งเป็นกำหนดครบสัญญา ทรัพย์สินนั้นจะถูกส่งต่อให้ลูกของเรา ด้วยเงินก้อนสูงถึง 888% ของทุนประกันภัยเริ่มต้น

หรือในกรณีที่ซื้อให้ลูก โดยให้ชื่อผู้เอาประกันภัยเป็นลูกของเรา
ก็หมายความว่า ลูกของเราจะได้รับผลตอบแทนคืนทุกปี จนเมื่อเขาอายุ 88 ปี ทรัพย์สินเหล่านี้ก็จะถูกส่งให้รุ่นหลานต่อไป

ส่วนเรื่องภาษีก็ไม่ต้องกังวล เพราะผลตอบแทนที่ได้รับจากกรมธรรม์นั้น ไม่มีภาระภาษี

ในกรณีที่เราเสียชีวิต ก็ไม่ต้องกังวลว่าความลำบากจะตกกับคนที่เรารัก
เพราะ The Treasure คุ้มครองกรณีเสียชีวิตสูงสุด 800% ของทุนประกันภัยเริ่มต้น
และถ้าหากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ จะได้รับความคุ้มครองสูงสุดถึง 6,400% ของทุนประกันภัยเริ่มต้น

ที่น่าสนใจคือ ปกติแล้วการทำประกันมักจะเป็นเรื่องยุ่งยาก
แต่ไม่ใช่สำหรับ The Treasure ที่วางแผนง่าย จ่ายเบี้ยเพียง 8 ปี โดยไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ

ถึงแม้เราจะรู้ดีว่าชีวิตนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน
แต่ถ้าหากเราปล่อยให้ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น ย้อนมาทำร้ายครอบครัวที่เรารักเข้าสักวัน
นั่นคงจะเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นเช่นกัน..

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา หรือโทร. 1770
รายละเอียดเพิ่มเติม https://bit.ly/2WJJ19I

• ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจในรายละเอียด เงื่อนไข รวมถึงข้อยกเว้นความคุ้มครองตามที่ระบุไว้ในเอกสารประกอบการขายและกรมธรรม์ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
• รับประกันชีวิตโดย บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ธนาคารธนชาตเป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิตและรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น

#เดอะเทรเชอร์ #TheTreasure #เปลี่ยนเพื่อให้ชีวิตคุณดีขึ้น
#ThanachartBank #MakeREALChange