กษัตริย์พม่า องค์สุดท้าย

กษัตริย์พม่า องค์สุดท้าย

8 ต.ค. 2017
ทุกวันนี้ ถ้าให้เรานึกถึงผู้นำของพม่า
สิ่งที่เข้ามาในหัว น่าจะเป็น ทหาร และ นางออง ซาน ซูจี
แต่ถ้าเรายังพอจำบทเรียนสมัยที่เราเรียน
พม่า เคยปกครองโดยกษัตริย์มาก่อน
แล้วกษัตริย์พม่าหายไปไหน?
ราชวงศ์สุดท้ายของพม่า คือราชวงศ์คองบอง มีกษัตริย์ทั้งหมด 11 พระองค์ เมืองหลวง 5 เมือง สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2295 หรือ 265 ปีที่แล้ว ก่อนจะล่มสลายลงในปี พ.ศ. 2428 รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 133 ปี
มีปฐมกษัตริย์คือ พระเจ้าอลองพญา ตอนนั้นเมืองหลวงของพม่าอยู่ที่เมืองอังวะ ซึ่งอยู่ตอนบนของประเทศ
ภายในระยะเวลา 133 ปีของราชวงศ์คองบอง มีสงครามเกิดขึ้นมากมาย ตั้งแต่การขับไล่ชาวมอญ สงครามกับไทย สงครามกับจีน และสงครามที่ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์การปกครองของพม่า คือ สงครามกับอังกฤษ (Anglo-Burmese Wars)
สงครามกับอังกฤษครั้งที่ 1 เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2367 จากการที่พม่าขยายอาณาจักรแล้วไปยึดแคว้นมณีปุระ และอัสสัม ในอินเดียของจักรวรรดิ์อังกฤษในยุคล่าอาณานิคม จบลง 2 ปีให้หลัง โดยมีอังกฤษเป็นผู้ชนะสงคราม ทำให้พม่าต้องเซ็นสนธิสัญญายันดาโบ (Treaty of Yandabo) คืนอาณาเขตที่พม่ายึดมา พร้อมกับเมืองตะนาวศรี
สงครามกับอังกฤษครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2395 ที่อังกฤษส่ง George Lambert มาคุยกับพม่าเกี่ยวกับปัญหาเล็กน้อยต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสนธิสัญญา ซึ่งพม่าเองก็ยอมปลดเจ้าเมือง (Governor) ที่ทางอังกฤษมองว่าเป็นปัญหาที่อาจนำมาซึ่งสงคราม (casus belli)
แต่จากการยั่วยุของ George Lambert ทำให้การสู้รบก็เกิดขึ้นอยู่ดี และชัยชนะก็ตกเป็นของอังกฤษอีกครั้ง โดยยึดเมาะตะมะ ย่างกุ้ง พะสิม แปร พะโค (หงสาวดี) เรียกได้ว่ายึดเมืองพม่าตอนล่างได้ทั้งหมด ต่อมาจึงเกิดแย่งชิงราชสำนัก มีการเปลี่ยนกษัตริย์เป็นพระเจ้ามินดง และย้ายเมืองหลวงไปเมือง มัณฑะเลย์ ที่อยู่ใกล้กับเมืองอังวะ
พระเจ้ามินดงเป็นพระบิดาของพระเจ้าธีบอ กษัตริย์องค์สุดท้ายของพม่า
ก่อนจะเข้าสงครามครั้งที่ 3 การขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าธีบอนั้น เรียกได้ว่า นองเลือด เพราะช่วงสิ้นรัชสมัยพระเจ้ามินดง หนึ่งในพระมเหสี ชื่อ พระนางชินพยูมาชิน (อเลนันดอ) ที่จัดแจงให้พระนางศุภยาลัต พระธิดาองค์ที่ 2 ของตน อภิเษกสมรสกับพระเจ้าธีบอ (ซึ่งเป็นพี่น้องคนละแม่) และ สั่งสังหารหมู่พระราชวงศ์ที่มีโอกาสขึ้นครองราชย์พร้อมบริวารรวมกันกว่า 500 คน
สงครามกับอังกฤษครั้งที่ 3 เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2428 จาก ทางพม่ามองว่าอังกฤษเอาเปรียบในเรื่องการค้า และตัดไม้เกินกว่าที่ได้รับสัมปทาน จึงสั่งปรับบริษัทอังกฤษ ตอนนั้นพม่าคิดว่ามีฝรั่งเศสหนุนหลัง (แต่ต่อมาฝรั่งเศสก็ไม่ได้เข้ามาช่วย) ขณะที่อังกฤษเองก็กลัวพม่าจะไปเข้าร่วมกับทางฝรั่งเศส สงครามก็เกิดขึ้น
อังกฤษชนะสงครามอีกครั้ง และครั้งนี้ยึดดินแดนของพม่าได้ทั้งหมด บังคับพระเจ้าธีบอให้สละราชสมบัติ และเนรเทศพระเจ้าธีบอและครอบครัวไปอยู่เมืองรัตนคีรีที่อินเดีย ยุบพม่าเป็นบริติชราช มณฑลหนึ่งของอินเดีย และถือเป็นการล่มสลายของการปกครองระบอบกษัตริย์ที่มีประวัติยาวนานนับ 1,000 ปี
สำหรับกษัตริย์องค์สุดท้ายนั้น ถูกเนรเทศให้อยู่อินเดียเป็นเวลา 31 ปี ก่อนจะสิ้นพระชนม์ มีพระโอรส 2 พระองค์ (สิ้นพระชนม์ไปก่อน) และพระธิดา 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงเมียะพยาจี, เจ้าหญิงเมียะพยาลัต, เจ้าหญิงเมียะพยา, และเจ้าหญิงเมียะพยากเล
เจ้าหญิงเมียะพยาจี (สิ้นพระชนม์ปี 2490) อภิเษกสมรสกับทหารชาวอินเดีย ศรีมัน โกปาล ภาอุเรา สาวันต์ ศิวเรกร มีพระธิดาที่ไม่สิ้นพระชนม์เร็ว คือ ตูตู สาวันต์ (เสียชีวิตเมื่อปี 2543) ซึ่งสมรสกับช่างซ่อมรถ ไพสุไพ ศังกร ปาวร และเป็นตระกูลของราชวงศ์ที่อาศัยอยู่ในอินเดีย ไม่ได้กลับพม่า
เจ้าหญิงเมียะพยาลัต (สิ้นพระชนม์ปี 2499) ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นรัชทายาทหลังราชวงศ์ถูกโค่นล้ม อภิเษกสมรสกับ ขิ่นหม่องลัต เลขาส่วนพระองค์ของพระบิดา
เจ้าหญิงเมียะพยา (สิ้นพระชนม์ปี 2505) อภิเษกสมรสครั้งแรกกับเจ้าชายเนียง ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของเจ้าชายกะนองเมงสอ ก่อนจะอภิเษกสมรสกับหม่องเมียะอู
เจ้าหญิงเมียะพยากาเล อภิเษกสมรสกับ อู โก โกเนียง มีพระโอรส 4 พระองค์ พระธิดา 2 พระองค์
ทุกวันนี้ผู้สืบเชื้อสายของราชวงศ์ก็ยังมีชีวิตอยู่ โดยอาศัยอยู่ทั้งในอินเดียและพม่า
เมื่อปีที่แล้ว ครบรอบ 100 ปี การสวรรคตของพระเจ้าธีบอ ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลพม่า (ภายใต้การนำของนางออง ซาน ซูจี) จัดพิธีรำลึกถึงกษัตริย์องค์สุดท้ายขึ้นที่อินเดีย โดยยังอนุญาตให้เชื้อพระวงศ์ที่อยู่ในพม่า เดินทางไปพบญาติที่อยู่อินเดียได้เป็นครั้งแรกด้วย..
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.