Atlassian ธุรกิจล้านล้าน ที่เกิดขึ้นมาจากหนี้บัตรเครดิต

Atlassian ธุรกิจล้านล้าน ที่เกิดขึ้นมาจากหนี้บัตรเครดิต

9 ธ.ค. 2020
Atlassian ธุรกิจล้านล้าน ที่เกิดขึ้นมาจากหนี้บัตรเครดิต /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า ทุกวันนี้ที่เราติดหนี้บัตรเครดิต
ส่วนใหญ่หนี้ของเราเป็นค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?
หลายคนอาจจะบอกว่าค่าผ่อนสมาร์ตโฟนเครื่องใหม่ ค่าผ่อนรถยนต์
สำหรับวันนี้ เรามาดูนักธุรกิจสตาร์ตอัป 2 คน ที่เป็นหนี้บัตรเครดิต
เพียงเพราะว่าอยากก่อตั้งธุรกิจ แต่ไม่มีเงินทุน
แล้วรู้หรือไม่ว่าจากหนี้บัตรเครดิตที่ว่านั้น มันก็ได้กลายเป็นทุนก้อนสำคัญ
ที่ทำให้นักธุรกิจทั้ง 2 คน สร้างบริษัทที่มีมูลค่ามากถึง 1.7 ล้านล้านบาท
พวกเขาคือใคร
พวกเขาก่อตั้งบริษัทอะไรขึ้นมา?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บริษัท Atlassian Corporation Plc หรือ แอตลาสเชี่ยน ก่อตั้งในปี 2002 โดยสองนักศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ นั่นคือ Mike Cannon-Brookes กับ Scott Farquhar
โดยชื่อของ Atlassian ถูกดัดแปลงมาจากคำว่า Atlantean ที่แปลว่า “เทพไททัน” จากตำนานกรีก
ในช่วงแรกเริ่ม เขาทั้ง 2 ได้เริ่มต้นทำธุรกิจซอฟต์แวร์ โดยใช้ทุนของตัวเอง
จากการเป็นหนี้บัตรเครดิตประมาณ 3 แสนบาท ในปี 2002
แต่ Mike เองกลับไม่ได้มองว่านี่คืออุปสรรค และในที่สุด เขาได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีชื่อว่า “JIRA” ออกมาจนสำเร็จ
แล้ว JIRA คืออะไร?
JIRA เป็นซอฟต์แวร์ที่มีจุดประสงค์หลักคือ “การสื่อสาร” ว่าโพรเจกต์ที่ทำอยู่
เรากำลังทำอะไร, ความคืบหน้างานไปถึงไหน และใครรับผิดชอบอะไรบ้าง
ไอเดียของการพัฒนาซอฟต์แวร์นี้ มีที่มาจากผู้ก่อตั้งอย่าง Mike ที่คาดการณ์ว่าในอนาคต
การสื่อสารกันในองค์กร จะมีความซับซ้อน และมีความสำคัญต่อการทำธุรกิจมากขึ้น
พอเรื่องเป็นแบบนี้ JIRA จึงถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยเฉพาะ
โดยในแต่ละโพรเจกต์ที่เราทำ เราก็สามารถระบุผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง คอยอัปเดตความคืบหน้า
และปัญหาที่พบได้แบบเรียลไทม์
นั่นจึงทำให้ไม่ว่าเนื้องานเราจะต่างกันขนาดไหน เช่น
ทีมนักพัฒนาแอปพลิเคชันต้องคุยไอเดียงานกับฝ่ายธุรกิจ
หรือ ทีมนักการตลาดต้องคุยแคมเปญโปรโมชันกับฝ่ายขาย
ทุกคน จะสามารถ สื่อสาร รับรู้ข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้น ไปในทางเดียวกัน
นอกเหนือจาก JIRA แล้ว Mike ก็ยังได้พัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ทำงานร่วมกัน เช่น
Confluence สำหรับรูปแบบของการสร้างและเผยแพร่ความรู้ขององค์กร
Jira Align สำหรับการวางแผนกระจายการสื่อสารแบบรวดเร็ว (Agile Planning)
Jira Core สำหรับการเรียบเรียงและติดตามงาน สำหรับฝ่ายขาย ฝ่ายบุคลากร และฝ่ายกฎหมาย
Jira Service Desk สำหรับการติดตามคำขอ และบันทึกประวัติกิจกรรมทั้งระหว่างทีมงานและลูกค้า
Bitbucket เป็นแพลตฟอร์มใช้ในการเขียนโปรแกรม สำหรับสายเทคนิคคอมพิวเตอร์
ในขณะที่ทางบริษัท ก็ยังได้เข้าซื้อ Trello บริษัทที่ทำธุรกิจซอฟต์แวร์
การจัดเรียงลำดับของงานในรูปแบบของการ์ดบอร์ด
แล้วไอเดียของ Mike เมื่อ 18 ปีที่แล้ว
ตอนนี้กลายมาเป็นธุรกิจที่เติบโตดีขนาดไหน?
ผลประกอบการของบริษัท Atlassian Corporation
ปี 2018 รายได้ 26,000 ล้านบาท ขาดทุน 3,432 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 36,000 ล้านบาท ขาดทุน 19,293 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 48,000 ล้านบาท ขาดทุน 10,000 ล้านบาท
(รอบบัญชีของบริษัทเริ่มตั้งแต่กรกฎาคมปี 2019 ถึงมิถุนายน ปี 2020)
รายได้เติบโตเฉลี่ย 36% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูง เมื่อเทียบกับอัตราการเติบโต
ของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ทั่วโลก ที่เติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี
โดย Atlassian มีรายได้มาจาก
การเก็บค่าบริการรายเดือนของลูกค้าบริษัท และการให้บริการระบบคลาวด์ 58%
การให้บริการประเภทอัปเกรดผลิตภัณฑ์กับลูกค้าเก่า 29%
การขายใบอนุญาตให้ใช้ซอฟต์แวร์ถาวรกับลูกค้าใหม่ และการเก็บค่าใช้พื้นที่ให้บริการแอปพลิเคชันส่วนกลาง 13%
ในขณะที่ผลการขาดทุนที่เกิดขึ้น นักลงทุนอาจไม่กังวลเพราะเป็นเรื่องปกติของธุรกิจสตาร์ตอัป
ที่ต้องดึงฐานผู้ใช้งานซึ่งในที่นี้ก็คือ องค์กร ให้เข้ามาอยู่ในระบบให้มากพอ เพื่อพลิกกลับไปทำกำไรในภายหลัง
และก็ดูเหมือนว่านักลงทุนคาดหวังกับ Atlassian ไว้ค่อนข้างสูง
เพราะตอนนี้ Atlassian มีมูลค่าบริษัทมากถึง 1.7 ล้านล้านบาท
เติบโตขึ้นเป็น 8 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
ถึงตรงนี้ เราก็อาจเห็นได้ว่าการเป็นหนี้บัตรเครดิตที่ต้องเสียดอกเบี้ยสูงนั้น
สิ่งที่สำคัญไปมากกว่านั้นก็คือ เราเป็นหนี้ “เพราะอะไร”
อย่างในกรณีของผู้ก่อตั้งบริษัท Atlassian ที่แม้จะไม่มีทุน แต่พวกเขาก็มีแรงผลักดัน
มากพอที่จะก่อตั้งธุรกิจ ทั้งๆ ที่ต้องเริ่มจากการเป็นหนี้บัตรเครดิต
มากในระดับที่สามารถเปลี่ยนหนี้บัตรเครดิต 3 แสนบาทในวันนั้น
กลายมาเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีมูลค่า 1.7 ล้านล้านบาท ในวันนี้ นั่นเอง..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.