ล็อกดาวน์ สมุทรสาคร มีผลอย่างไร กับเศรษฐกิจไทย

ล็อกดาวน์ สมุทรสาคร มีผลอย่างไร กับเศรษฐกิจไทย

20 ธ.ค. 2020
ล็อกดาวน์ สมุทรสาคร มีผลอย่างไร กับเศรษฐกิจไทย /โดย ลงทุนแมน
“เมืองประมง ดงโรงงาน ลานเกษตร เขตประวัติศาสตร์”
คือคำขวัญของจังหวัด “สมุทรสาคร”
จังหวัดเล็กๆ ที่มีพื้นที่เพียง 872 ตารางกิโลเมตร
เล็กเป็นอันดับ 5 ของประเทศไทย
ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็เป็นจังหวัดเล็กพริกขี้หนู
เพราะจากคำขวัญประจำจังหวัด ทำให้รู้ว่า สมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่มีภาคเศรษฐกิจอย่างครบครัน
ทั้งภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการต่างๆ
แต่จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ที่เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง ในช่วงที่ผ่านมา
จนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม มีการรายงานผู้ติดเชื้อในจังหวัดสมุทรสาคร รวมเป็น 548 ราย
ทำให้ต้องมีการประกาศ ปิดหลายสถานที่ ในจังหวัดสมุทรสาครอีกครั้ง
จนหลายคนกลัวว่าจะบานปลายจนกระทบกับเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศ
แล้วจังหวัดสมุทรสาคร มีความสำคัญอย่างไรกับเศรษฐกิจไทย?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บทความนี้เริ่มต้นด้วยคำขวัญประจำจังหวัด
ลงทุนแมนจึงขอเล่าเรื่องราวของจังหวัดสมุทรสาครตามคำขวัญประจำจังหวัด
แต่จะขอเล่า ตามลำดับจากคำหลังสุด และมาจบที่คำแรกสุด
เริ่มจากคำว่า “เขตประวัติศาสตร์”..
สมุทรสาครเดิมมีชื่อว่า “บ้านท่าจีน” เป็นชุมชนค้าขายมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ด้วยความที่ชุมชนตั้งอยู่ปากแม่น้ำท่าจีน จึงมีชาวจีนนำเรือสำเภาเข้ามาจอดเทียบท่าค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าและอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาชุมชนก็ได้เติบโตขึ้นและถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “สมุทรสาคร” ในสมัยรัชกาลที่ 4
พอมาถึงสมัยรัชกาลที่ 5 มีการจัดตั้ง “สุขาภิบาลท่าฉลอม” ซึ่งเป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งแรกของประเทศไทยที่ตำบลท่าฉลอม ในปี พ.ศ. 2448 ความเจริญรุ่งเรืองจากการค้าขายทำให้สมุทรสาครได้รับการจัดตั้งเป็นจังหวัดในอีก 8 ปีต่อมา
และด้วยทำเลที่เหมาะสม อยู่ริมอ่าวไทย ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร และมีระบบคมนาคมที่สะดวกเชื่อมต่อได้หลายจังหวัด สมุทรสาครจึงเป็นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม มาตั้งแต่ พ.ศ. 2512
โดยในช่วงแรกเป็นอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ต่อมาก็เป็นอุตสาหกรรมสิ่งทอ
ก่อนจะขยายจนกลายเป็นเขตอุตสาหกรรมที่หลากหลายและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัดสมุทรสาคร หรือ GPP ในปี 2561
อยู่ที่ 406,245 ล้านบาท เป็นอันดับ 6 จากทั้งหมด 77 จังหวัด
และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3% ของ GDP ประเทศไทยทั้งประเทศ
โดยโครงสร้าง GPP ของจังหวัดสมุทรสาคร จะมาจากภาคอุตสาหกรรมมากที่สุดอยู่ที่ 70%
ภาคบริการ, ค้าขาย 25% และภาคการเกษตร ป่าไม้ และประมง 5%
ทำให้เมื่อหารด้วยจำนวนประชากรรวมประชากรแฝงที่มีอยู่ประมาณ 1 ล้านคน
ชาวจังหวัดสมุทรสาครจะมี GPP ต่อหัว อยู่ที่ 389,818 บาทต่อปี หรือ 32,485 บาทต่อเดือน
สูงเป็นอันดับที่ 8 ของประเทศไทย
ลำดับต่อมา “ลานเกษตร”
แม่น้ำท่าจีนเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงจังหวัดสมุทรสาคร
จังหวัดนี้แบ่งการปกครองออกเป็น 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบ้านแพ้ว
และอำเภอกระทุ่มแบน
ความอุดมสมบูรณ์ทำให้เขตอำเภอบ้านแพ้วและกระทุ่มแบนเป็นแหล่งเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรหลายชนิด ทั้งมะพร้าวน้ำหอม มะนาว ข้าวและกล้วยไม้
โดยภาคการเกษตร มีสัดส่วนประมาณ 5% ของ GPP จังหวัดสมุทรสาคร
แต่หากไม่นับภาคประมงแล้ว ภาคการเพาะปลูกพืชและการเลี้ยงสัตว์ จะมีสัดส่วนเพียง 0.5% ของ GPP จังหวัด
ถึงแม้จะมีสัดส่วนมูลค่าที่ไม่มาก แต่สมุทรสาครก็เป็นแหล่งเพาะปลูกไม้ผลที่สำคัญของประเทศไทย
โดยเฉพาะมะพร้าวน้ำหอม สมุทรสาครเป็นแหล่งปลูกมะพร้าวน้ำหอมอันดับ 2 ของประเทศ
ให้ผลผลิตในปี 2562 ถึง 104,894 ตัน และมีสายพันธุ์ขึ้นชื่อไปทั่วโลกอย่าง
มะพร้าวน้ำหอมบ้านแพ้ว
นอกจากไม้ผล สมุทรสาครยังเป็นแหล่งปลูกไม้ดอก โดยเฉพาะกล้วยไม้ ที่ปลูกมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ โดยให้ผลผลิต 12,253 ตัน ในปี 2562
ลำดับต่อมา และถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด คือ “ดงโรงงาน”
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และเป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งที่สำคัญ
ระหว่างภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคใต้ สมุทรสาครจึงมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่มากกว่า 6,000 แห่ง และเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสมุทรสาคร
และนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร
ภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนถึง 70% ของ GPP จังหวัด
โดยส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากภาคการเกษตรและประมง เช่น
อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล อุตสาหกรรมผลิตบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมพลาสติก
อุตสาหกรรมห้องเย็น ไปจนถึงอุตสาหกรรมต่อเรือ
และท้ายที่สุด “เมืองประมง”
สมุทรสาครตั้งอยู่ติดกับอ่าวไทย และไม่ไกลจากตลาดใหญ่อย่างกรุงเทพฯ และปริมณฑล
จังหวัดนี้จึงเป็นแหล่งธุรกิจการประมงขนาดใหญ่ครบวงจร ซึ่งมีทั้งการทําประมงทะเล
การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ไปจนถึงอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากภาคประมงมากมาย
โดยมีสะพานปลาสมุทรสาคร ซึ่งเป็นสะพานปลาเพียง 1 ใน 4 แห่งของประเทศไทย
เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายและจำหน่ายอาหารทะเลที่สำคัญ
ด้วยความที่การทำประมง เป็นงานหนัก และมีกลิ่นเหม็น จึงไม่เป็นที่นิยมของแรงงานไทยมากนัก ทำให้สมุทรสาครเป็นจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา ซึ่งคาดว่ามีอยู่ประมาณ 250,000 - 300,000 คน
แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการอาหารทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้มีการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมายจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสาครมาเป็นเวลานาน และด้วยสาเหตุนี้เอง ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดของโควิด 19 ระลอกนี้
หากจะกล่าวกันตามตรง การล็อกดาวน์จังหวัดสมุทรสาครย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจของจังหวัดหยุดชะงัก โดยเฉพาะภาคการประมง การค้าอาหารทะเล การขนส่งสินค้าทั้งจากภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ไปจนถึงภาคบริการอื่นๆ
ถึงแม้จังหวัดสมุทรสาคร จะมีขนาดเศรษฐกิจเพียง 3% ของประเทศไทย
แต่ด้วยความที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศเพียง 30 กิโลเมตร
ย่อมมีการติดต่อค้าขายระหว่างคนทั้งสองจังหวัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..
ด้วยสถานการณ์ของไทยในเวลานี้
ทุกคนก็คงทราบดีว่าเศรษฐกิจของเรา มีความเปราะบางเพียงใด
แต่ในเมื่อเรื่องนี้ มันเกิดขึ้นแล้ว
เราทุกคน ก็คงต้องกลับมาให้ความสำคัญกับการใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้กันอีกครั้ง
และก็หวังว่า ทุกคนจะปลอดภัย และทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.