ประเทศจีน กำลังจะมีขนาดเศรษฐกิจ ที่ใหญ่สุดในโลก

ประเทศจีน กำลังจะมีขนาดเศรษฐกิจ ที่ใหญ่สุดในโลก

19 ม.ค. 2021
ประเทศจีน กำลังจะมีขนาดเศรษฐกิจ ที่ใหญ่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
“ปี 2028 ขนาดเศรษฐกิจของจีน จะใหญ่แซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นมาเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก” นี่คือประโยคคาดการณ์ ของนักเศรษฐศาสตร์หลายคนต่อเศรษฐกิจจีนในตอนนี้
คำถามต่อมาที่น่าสนใจคือ
จีนจะเป็นประเทศที่ “รวยก่อนแก่” ได้หรือไม่?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
เทรดบิตคอยน์ก็ได้ ลงทุนหุ้นต่างประเทศก็ดี
เพียงเปิดบัญชี Zipmex ผ่าน Radars Point วันนี้
รับฟรี 68 Point จาก Radars Point
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปก่อนปี 1978 จีนนับเป็นหนึ่งในประเทศยากจน ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชนบทและมีรายได้ต่ำมาก
โดยรายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนในช่วงระหว่างปี 1960-1971 อยู่ที่ปีละ 3,400 บาทต่อคนเท่านั้น
ความยากจนถึงขนาดทำให้ชาวจีนล้มตายจากความอดอยาก เป็นจำนวนกว่า 30 ล้านคนเลยทีเดียว
จนกระทั่งมาถึงปี 1978 ภายใต้การนำของ เติ้ง เสี่ยวผิง จีนเริ่มมีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่
โดยอาศัยการเรียนรู้จากความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอื่นในเอเชีย
เช่น เกาหลีใต้, ไต้หวัน, สิงคโปร์ และฮ่องกง
ภาครัฐของจีนเริ่มมีการสนับสนุนนโยบายต่างๆ เช่น
- เปิดประเทศเพื่อรับการลงทุนจากต่างชาติ
- อนุญาตให้ผู้ประกอบการสามารถเริ่มต้นและเป็นเจ้าของธุรกิจ
- ยกเลิกมาตรการควบคุมราคาสินค้า และออกนโยบายปกป้องธุรกิจ
- ผ่อนปรนกฎระเบียบหลายอย่าง เพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนภายในประเทศจีน
ผลของการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศในครั้งนั้น ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ปี 1978 มูลค่า GDP ของจีน เท่ากับ 4.5 ล้านล้านบาท
ปี 2019 มูลค่า GDP ของจีน เท่ากับ 446 ล้านล้านบาท
มูลค่า GDP ของประเทศเติบโตเกือบ 100 เท่า ในระยะเวลา 41 ปี
ขณะที่ในระหว่างปี 2000-2019 อัตราการเติบโต GDP ของจีน เติบโตเฉลี่ยปีละกว่า 9% และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
วันนี้ขนาดเศรษฐกิจของจีนใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก แซงหน้าญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2010
โดยจีนมีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) กว่า 446 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 18% ของ GDP ทั้งโลก และเป็นรองเพียงแค่สหรัฐอเมริกาเพียงชาติเดียว
รายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนในปัจจุบันเท่ากับ 308,000 บาทต่อปี
เพิ่มขึ้นกว่า 65 เท่า จากปี 1978 ที่เคยอยู่ที่ 4,700 บาทต่อปี
ที่สำคัญก็คือ การเติบโตของเศรษฐกิจจีนได้ทำให้ชาวจีนจำนวนมาก หลุดพ้นจากสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจนแร้นแค้น และก้าวสู่การเป็นชนชั้นกลางที่มีรายได้ต่อปีเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวของชาวจีนในปัจจุบันจะยังทำให้จีนเป็นประเทศที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูงซึ่งคล้ายกับไทย (ประเทศที่มีรายได้ประชากรต่อหัวเท่ากับ 121,001-374,000 บาทต่อปี)
แต่เมื่อดูจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่งแล้ว ก็ต้องบอกว่า จีนมีโอกาสอย่างมากที่จะขยับตัวเอง ขึ้นไปเป็นประเทศที่มีรายได้สูง
ที่น่าสนใจก็คือ แม้ในปี 2020 ทั่วโลกและจีน
จะต้องเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด 19
แต่ล่าสุดสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน
ก็ได้เผยแล้วว่า GDP ปี 2020 ที่ผ่านมา ยังคงเติบโตที่ 2.3% จากปีก่อนหน้า
ซึ่งสวนทางกับประเทศอื่นๆ ที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นลบ
โดยหนึ่งในสิ่งที่รัฐบาลจีนเชื่อว่า
จะทำให้เศรษฐกิจจีนสามารถเติบโตต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง คือ “นวัตกรรมและเทคโนโลยี”
โดยรัฐบาลจีนตั้งเป้าอย่างชัดเจน ว่าจะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของโลก (Global Leader in Innovation) ภายในปี 2050 ผ่านการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในภาคการผลิตและภาคบริการของประเทศ
คำถามคือ จะทำอย่างไรให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆ ?
คำตอบคือ ในปี 2019 รัฐบาลจีนทุ่มงบประมาณในส่วนวิจัยและพัฒนาของประเทศอย่างมหาศาล เพราะพวกเขาเชื่อว่า นวัตกรรมใหม่ๆ คือเครื่องยนต์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
โดยงบการวิจัยและพัฒนาของจีนในปี 2019 เท่ากับ 10.3 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าในรอบ 10 ปี
ทุกวันนี้ บริษัทจีนหลายแห่งเติบโตขึ้นจากการสร้างนวัตกรรม จนเป็นผู้นำในบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนอย่างต่อเนื่อง
ยกตัวอย่างเช่น
Alibaba บริษัทที่ทำธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก
ปี 2020 รายได้ 15.2 ล้านล้านบาท กำไร 649,000 ล้านบาท
Tencent ผู้ให้บริการ Social Platform อันดับ 1 ของประเทศจีน รวมทั้งธุรกิจเกมออนไลน์ และธุรกิจอื่นๆ
ปี 2019 รายได้ 1.7 ล้านล้านบาท กำไร 445,000 ล้านบาท
Baidu เว็บไซต์สำหรับการค้นหาข้อมูล (search engine)
ปี 2019 รายได้ 496,000 ล้านบาท กำไร 9,500 ล้านบาท
นอกจากบริษัทใหญ่ๆ ที่ได้ยกตัวอย่างไปแล้ว
ประเทศจีน ยังมีจำนวนของบริษัท Startup มากกว่า 500 บริษัท
และมีมากกว่า 227 บริษัท ที่เป็น Startup ในระดับยูนิคอร์น หรือบริษัทที่มีมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านบาท
ซึ่งในอนาคตก็มีโอกาสสูงที่บริษัทเหล่านี้
จะกลายมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
ให้เศรษฐกิจจีนเติบโตต่อไปได้อีกไกลในอนาคต
ปัจจุบัน บริษัท อีคอมเมิร์ซของจีนนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% ของโลก
ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล นวัตกรรมและเทคโนโลยีของจีน จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ขนาดของเศรษฐกิจจีนมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนแซงหน้าสหรัฐอเมริกาในปี 2028
แม้ว่าปัจจุบัน ประชากรของจีนมีอายุเฉลี่ยเท่ากับ 38 ปี ซึ่งเรื่องนี้ทำให้จีนเป็นประเทศที่ประสบปัญหาสังคมผู้สูงวัยเหมือนหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจจีนอย่างต่อเนื่องจากปัจจุบัน
มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้จีนกลายเป็นประเทศที่รวยก่อนแก่ได้เช่นกัน..
----------------------
เทรดบิตคอยน์ก็ได้ ลงทุนหุ้นต่างประเทศก็ดี
เพียงเปิดบัญชี Zipmex ผ่าน Radars Point วันนี้
รับฟรี 68 Point จาก Radars Point
.
ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอน
1. กดเปิดบัญชีผ่านทางลิงก์นี้ https://trade.zipmex.co.th/accounts/sign-up?aff=RADARS
2. ซื้อขายเงินดิจิทัลใน Zipmex ขั้นต่ำ 30 บาท
3. นำ User account ของ Zipmex พร้อมส่งรูปหน้าจอการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (ขั้นต่ำ 30 บาท) ทาง Inbox เพจ Radars Point
.
#RadarsPoint #ลงทุนง่ายๆไม่ต้องใช้เงิน
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.