Mowi เจ้าของฟาร์มแซมอน ใหญ่ที่สุดในโลก
22 มี.ค. 2021
Mowi เจ้าของฟาร์มแซมอน ใหญ่ที่สุดในโลก / โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึง “แซมอน” หลายคนก็น่าจะคุ้นเคยกับเมนูซาชิมิแสนอร่อยในร้านอาหารญี่ปุ่น
แต่หากเราพูดถึงแหล่งส่งออกแซมอนใหญ่สุดในโลก ก็จะเป็นที่ประเทศนอร์เวย์
แต่หากเราพูดถึงแหล่งส่งออกแซมอนใหญ่สุดในโลก ก็จะเป็นที่ประเทศนอร์เวย์
สำหรับวันนี้ เรามารู้จักกับบริษัท Mowi ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจฟาร์มแซมอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปัจจุบัน บริษัทแห่งนี้มีมูลค่าราว 4 แสนล้านบาท
ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดอันดับที่ 4 ในประเทศนอร์เวย์
แล้วธุรกิจฟาร์มแซมอน เริ่มต้นมาจากอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดอันดับที่ 4 ในประเทศนอร์เวย์
แล้วธุรกิจฟาร์มแซมอน เริ่มต้นมาจากอะไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของฟาร์มแซมอนใหญ่สุดในโลก เกิดขึ้นเมื่อ 76 ปีก่อน
บริษัท "Johan Lærum & Co AS" ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่ประเทศนอร์เวย์
โดยผู้ก่อตั้งมี 3 คนด้วยกัน นั่นก็คือ Johan Lærum, Haakon Baardsen และ Johan Ernst Mowinckel
บริษัท "Johan Lærum & Co AS" ได้ถูกก่อตั้งขึ้นที่ประเทศนอร์เวย์
โดยผู้ก่อตั้งมี 3 คนด้วยกัน นั่นก็คือ Johan Lærum, Haakon Baardsen และ Johan Ernst Mowinckel
ในช่วงเริ่มต้น บริษัทแห่งนี้ยังไม่ได้ทำธุรกิจแซมอน
แต่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตแยม ภายใต้แบรนด์ "Mor Monsen"
แต่เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจผลิตแยม ภายใต้แบรนด์ "Mor Monsen"
ต่อมา บริษัทก็ได้ต่อยอดไปทำธุรกิจผลิตอาหารแช่แข็ง และก็ได้รุกเข้าสู่ธุรกิจฟาร์มปลาเทราต์
เนื่องจากผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คนไม่มีความรู้ และไม่มีประสบการณ์ในการทำฟาร์มปลามาก่อน
จึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ล้มเลิกความพยายาม และก็ได้ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ จนได้รับคำแนะนำว่าให้เลี้ยงปลาเทราต์ด้วยน้ำทะเล
จึงทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ล้มเลิกความพยายาม และก็ได้ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ จนได้รับคำแนะนำว่าให้เลี้ยงปลาเทราต์ด้วยน้ำทะเล
ซึ่งพอนำไปลองปรับใช้แล้ว ผลปรากฏว่า
ปลาเทราต์สามารถเติบโตได้ดี แต่ก็ยังไม่มีคุณภาพมากพอในระดับที่ส่งออกได้
จนในที่สุด พวกเขาก็ได้ล้มเลิกธุรกิจฟาร์มปลาเทราต์
แล้วตัดสินใจเปลี่ยนมาทำฟาร์มแซมอนแทน
ปลาเทราต์สามารถเติบโตได้ดี แต่ก็ยังไม่มีคุณภาพมากพอในระดับที่ส่งออกได้
จนในที่สุด พวกเขาก็ได้ล้มเลิกธุรกิจฟาร์มปลาเทราต์
แล้วตัดสินใจเปลี่ยนมาทำฟาร์มแซมอนแทน
ด้วยความที่ฟาร์มแซมอน ต้องใช้เงินทุนค่อนข้างสูง
บริษัท Johan Lærum & Co AS จึงได้เริ่มมองหาเงินระดมทุน
เพื่อจะนำมาสนับสนุนการพัฒนาการเลี้ยงปลาแซมอนในเชิงอุตสาหกรรม
บริษัท Johan Lærum & Co AS จึงได้เริ่มมองหาเงินระดมทุน
เพื่อจะนำมาสนับสนุนการพัฒนาการเลี้ยงปลาแซมอนในเชิงอุตสาหกรรม
ในที่สุดก็ได้บริษัท Norsk Hydro เข้ามาร่วมลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวน 2 ล้านโครนนอร์เวย์
หรือหากเทียบเป็นเงินไทยในปัจจุบันก็ประมาณ 7 ล้านบาท แลกกับหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัท
หรือหากเทียบเป็นเงินไทยในปัจจุบันก็ประมาณ 7 ล้านบาท แลกกับหุ้นครึ่งหนึ่งของบริษัท
หลังจากได้รับเงินระดมทุนแล้ว บริษัทก็มีสภาพคล่อง และนำไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
จนในปี 1971 บริษัทก็สามารถผลิตปลาแซมอนได้ถึง 60 ตัน ซึ่งคิดเป็น 60% ของการผลิตปลาแซมอนทั้งหมดในประเทศนอร์เวย์
จนในปี 1971 บริษัทก็สามารถผลิตปลาแซมอนได้ถึง 60 ตัน ซึ่งคิดเป็น 60% ของการผลิตปลาแซมอนทั้งหมดในประเทศนอร์เวย์
ต่อมา Norsk Hydro ก็ได้ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือ
กลายมาเป็นผู้ถือหุ้น 100% และก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Marine Harvest
รวมถึงขยายกิจการไปยังประเทศไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และไอซ์แลนด์
กลายมาเป็นผู้ถือหุ้น 100% และก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Marine Harvest
รวมถึงขยายกิจการไปยังประเทศไอร์แลนด์ สกอตแลนด์ และไอซ์แลนด์
ทำให้ในขณะนั้น Marine Harvest กลายเป็นบริษัทเจ้าของฟาร์มแซมอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่นั้นมา
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทก็ได้มีการเข้าซื้อกิจการอื่น ๆ เช่น
-Morpol บริษัทผลิตแซมอนแบบครบวงจร ในประเทศนอร์เวย์
-Gray Aqua Group บริษัทผลิตแซมอนจากประเทศแคนาดา
-Northern Harvest หนึ่งในฟาร์มแซมอนที่ใหญ่ที่สุด ในแคนาดาและอเมริกาเหนือ
-Gray Aqua Group บริษัทผลิตแซมอนจากประเทศแคนาดา
-Northern Harvest หนึ่งในฟาร์มแซมอนที่ใหญ่ที่สุด ในแคนาดาและอเมริกาเหนือ
และเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ทางบริษัทก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งหนึ่งเป็น “Mowi”
เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ก่อตั้ง คือ ตระกูล “Mowinckel”
เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผู้ก่อตั้ง คือ ตระกูล “Mowinckel”
ทีนี้เราลองมาดูผลประกอบการของ Mowi ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ปี 2018 รายได้ 139,901 ล้านบาท กำไร 20,816 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 151,787 ล้านบาท กำไร 17,481 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 138,047 ล้านบาท กำไร 4,371ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 151,787 ล้านบาท กำไร 17,481 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 138,047 ล้านบาท กำไร 4,371ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า Mowi ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19
เนื่องจากแซมอน ถือเป็นหนึ่งในอาหาร ที่ถูกพบว่ามีการเจือปนของเชื้อโรค
จึงทำให้หลายประเทศงดนำเข้าแซมอน รวมถึงอาหารทะเลอื่น ๆ
เนื่องจากแซมอน ถือเป็นหนึ่งในอาหาร ที่ถูกพบว่ามีการเจือปนของเชื้อโรค
จึงทำให้หลายประเทศงดนำเข้าแซมอน รวมถึงอาหารทะเลอื่น ๆ
เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลให้บริษัทมีรายได้ลดลง รวมถึงกระบวนการขนส่งที่หยุดชะงักก็ได้ทำให้บริษัทมีต้นทุนในการขายเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้จึงกดดันไปยังกำไรของบริษัท ที่ปรับตัวลดลง
ในช่วงวิกฤติโควิด 19 ระบาดหนักในยุโรปกลางปีก่อน
มูลค่าบริษัท Mowi ก็ได้ตกลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ Mowi ก็ได้ฟื้นตัวกลับมาตามสถานการณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น
โดยที่ทางบริษัทก็เริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจได้เกือบจะเป็นปกติอีกครั้ง
มูลค่าบริษัท Mowi ก็ได้ตกลงไปเกือบครึ่งหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน มูลค่าบริษัทของ Mowi ก็ได้ฟื้นตัวกลับมาตามสถานการณ์ที่ผ่อนคลายขึ้น
โดยที่ทางบริษัทก็เริ่มกลับมาดำเนินธุรกิจได้เกือบจะเป็นปกติอีกครั้ง
ปัจจุบัน Mowi มีพนักงานกว่า 14,866 คนทั่วโลก ใน 25 ประเทศ
และมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 393,891 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของนอร์เวย์
และมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 393,891 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของนอร์เวย์
ถึงตรงนี้ เราก็คงได้รู้จักกับเจ้าของฟาร์มแซมอนใหญ่สุดในโลกที่ชื่อว่า Mowi กันแล้ว
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า แซมอน ที่เรากำลังรับประทานกันอยู่ในร้านอาหาร
ก็อาจจะนำเข้ามาจากบริษัทแห่งนี้ ก็เป็นได้..
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า แซมอน ที่เรากำลังรับประทานกันอยู่ในร้านอาหาร
ก็อาจจะนำเข้ามาจากบริษัทแห่งนี้ ก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว แซมอน เป็นปลาที่ถูกฟักตัวในน้ำจืด แต่จะเจริญเติบโต และใช้ชีวิตในน้ำเค็ม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า แซมอน มักจะว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อกลับไปผสมพันธ์ุกันในน้ำจืดนั่นเอง..
รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว แซมอน เป็นปลาที่ถูกฟักตัวในน้ำจืด แต่จะเจริญเติบโต และใช้ชีวิตในน้ำเค็ม นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า แซมอน มักจะว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อกลับไปผสมพันธ์ุกันในน้ำจืดนั่นเอง..
