ยูนิคอร์นใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทำธุรกิจอะไร ?
27 มี.ค. 2021
ยูนิคอร์นใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ทำธุรกิจอะไร ? /โดย ลงทุนแมน
ประเทศสวีเดน เป็นต้นกำเนิดของธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายบริษัท
ยกตัวอย่างชื่อที่เราน่าจะรู้จักกันดี เช่น
- IKEA ห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์
- H&M ร้านเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่น
- Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง
ยกตัวอย่างชื่อที่เราน่าจะรู้จักกันดี เช่น
- IKEA ห้างค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์
- H&M ร้านเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่น
- Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลง
และสำหรับวงการสตาร์ตอัป
ในตอนนี้ สวีเดนก็มีสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ชื่อว่า “Klarna”
ซึ่งมีมูลค่าบริษัท 9.5 แสนล้านบาท
ใหญ่ที่สุดในบรรดาสตาร์ตอัปของทวีปยุโรป
ในตอนนี้ สวีเดนก็มีสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ชื่อว่า “Klarna”
ซึ่งมีมูลค่าบริษัท 9.5 แสนล้านบาท
ใหญ่ที่สุดในบรรดาสตาร์ตอัปของทวีปยุโรป
แล้ว Klarna ทำธุรกิจอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Klarna เป็นบริษัทเทคโนโลยีกลุ่มธุรกิจ FinTech จากประเทศสวีเดน
ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยคุณ Sebastian Siemiatkowski, คุณ Niklas Adalberth และคุณ Victor Jacobsson
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Klarna เป็นบริษัทเทคโนโลยีกลุ่มธุรกิจ FinTech จากประเทศสวีเดน
ก่อตั้งขึ้นในปี 2005 โดยคุณ Sebastian Siemiatkowski, คุณ Niklas Adalberth และคุณ Victor Jacobsson
โดยก่อนหน้านี้ คุณ Siemiatkowski เคยทำงานที่บริษัทบริการติดตามหนี้ให้กับร้านค้าออนไลน์
ซึ่งเขาพบว่าในขณะนั้น ระบบชำระเงินบนเว็บไซต์ E-commerce ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อน
ทำให้คนไม่กล้าซื้อสินค้าออนไลน์ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายเงิน จนผิดนัดชำระ
ทำให้คนไม่กล้าซื้อสินค้าออนไลน์ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายเงิน จนผิดนัดชำระ
ด้วยเหตุนี้ คุณ Siemiatkowski จึงเห็นโอกาสสร้างแพลตฟอร์มระบบชำระเงิน
เพื่อช่วยให้การซื้อสินค้าออนไลน์ มีความสะดวกสบายมากขึ้น
เพื่อช่วยให้การซื้อสินค้าออนไลน์ มีความสะดวกสบายมากขึ้น
โดยมีแนวคิดเสนอทางเลือกให้ลูกค้าสามารถ “ซื้อก่อน ค่อยจ่ายทีหลัง” ได้ แบบไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือดอกเบี้ย
เขาเลยเล่าไอเดียให้เพื่อนมหาวิทยาลัยฟัง คือ คุณ Adalberth กับคุณ Jacobsson
ซึ่งต่อมา ทั้ง 3 คน ก็ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Klarna ขึ้นมา
ซึ่งต่อมา ทั้ง 3 คน ก็ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Klarna ขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรก พวกเขากลับประสบปัญหาในการระดมทุน
เพราะนักลงทุนมองไม่ออกว่า บริษัทจะทำกำไรได้อย่างไร หากไม่มีการเก็บดอกเบี้ย รวมทั้งยังต้องรับความเสี่ยงกรณีผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามกำหนดแทนร้านค้าออนไลน์อีกด้วย
เพราะนักลงทุนมองไม่ออกว่า บริษัทจะทำกำไรได้อย่างไร หากไม่มีการเก็บดอกเบี้ย รวมทั้งยังต้องรับความเสี่ยงกรณีผู้ซื้อไม่จ่ายเงินตามกำหนดแทนร้านค้าออนไลน์อีกด้วย
จนกระทั่ง คุณ Jane Walerud นักลงทุนชื่อดังของสวีเดน มีความสนใจในโมเดลธุรกิจดังกล่าว และให้เงินทุน 2.2 ล้านบาท พร้อมแนะนำนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้อีก 5 คน แลกกับหุ้นสัดส่วน 47% ของบริษัท
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจที่ดูไม่น่าเกิดขึ้นได้อย่าง Klarna..
ในปัจจุบัน ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม Klarna มีทางเลือกในการจ่ายเงินซื้อสินค้าออนไลน์ ดังนี้
1. จ่ายเต็มจำนวน ใน 30 วันข้างหน้า ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการลองใช้สินค้าก่อน เช่น เสื้อผ้าแฟชั่น
2. แบ่งผ่อนชำระ 4 งวด โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ย ซึ่งมีกำหนดจ่ายทุก ๆ 2 สัปดาห์
3. ขอกู้สินเชื่อมาจ่ายค่าสินค้า โดยมีกำหนดเวลาคืนเงินกู้ 6 - 36 เดือน ซึ่งวงเงินและอัตราดอกเบี้ย ขึ้นอยู่กับข้อมูลเครดิตและประวัติของลูกค้า
โดยหากลูกค้าไม่จ่ายเงินตามกำหนดเวลา ก็จะมีค่าปรับประมาณ 1,000 บาท และ Klarna ก็จะขายหนี้เสียเหล่านั้น ไปให้กับบริษัทติดตามทวงหนี้ต่อไป
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสงสัยเหมือนกันแล้วว่า
ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายเงินตรงเวลา Klarna จะหากำไรมาจากไหน ?
ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่จ่ายเงินตรงเวลา Klarna จะหากำไรมาจากไหน ?
เมื่อไม่คิดดอกเบี้ยกับฝั่งลูกค้า บริษัทจึงหันไปเก็บค่าบริการจากร้านค้าออนไลน์แทน
โดย Klarna จะหักค่าบริการคงที่ประมาณ 10 บาทต่อรายการ และคิดค่าบริการส่วนเพิ่มอีก 3.29 - 5.99% ของมูลค่าซื้อขายสินค้า ขึ้นอยู่กับรูปแบบการผ่อนชำระของลูกค้า
นอกจากนั้น ยังมีรายได้เพิ่มเติมจากการขายระบบวิเคราะห์ข้อมูล และระบบแช็ตติดต่อสื่อสารกับลูกค้า ในรูปแบบ Subscription ประมาณ 900 บาทต่อเดือน
คำถามถัดมา คือ ทำไมผู้ขายสินค้าถึงยอมจ่ายค่าบริการให้กับ Klarna ?
เหตุผลเนื่องจาก เมื่อลูกค้าจ่ายเงินซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น และมีทางเลือกให้ค่อย ๆ ผ่อนชำระได้
มันส่งผลให้ยอดขายของร้านค้าออนไลน์ ดีขึ้นอย่างชัดเจน
มันส่งผลให้ยอดขายของร้านค้าออนไลน์ ดีขึ้นอย่างชัดเจน
จากผลสำรวจพบว่า แพลตฟอร์ม Klarna ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์มีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 44% และมียอดสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น 68% ซึ่งคุ้มค่ากับเงินบางส่วนที่หักไปจ่ายให้ Klarna
และไม่ว่าลูกค้าจ่ายเงินตามกำหนดหรือไม่ ร้านค้าออนไลน์ก็จะได้รับเงินจาก Klarna มาตั้งแต่แรกเลย ซึ่งลดความเสี่ยงเรื่องเงินทุนหมุนเวียนของกิจการไปได้มาก
ทำให้มีแบรนด์ดัง ตกลงร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับ Klarna กว่า 250,000 ราย ใน 17 ประเทศทั่วโลก เช่น H&M, Etsy, Calvin Klein, Sephora
ซึ่งทำให้ Klarna เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติการระบาดของโควิด 19 ที่คนเปลี่ยนมาชอปปิงทางโลกออนไลน์กันมากขึ้น
โดยล่าสุด มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม 90 ล้านราย และมียอดทำรายการกว่า 2 ล้านครั้งต่อวัน
ลองมาดูผลประกอบการของ Klarna
ปี 2018 รายได้ 20,000 ล้านบาท กำไร 400 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 26,000 ล้านบาท ขาดทุน 3,200 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 36,000 ล้านบาท ขาดทุน 5,000 ล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 20,000 ล้านบาท กำไร 400 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 26,000 ล้านบาท ขาดทุน 3,200 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 36,000 ล้านบาท ขาดทุน 5,000 ล้านบาท
จริง ๆ แล้ว ที่ผ่านมา Klarna เป็นสตาร์ตอัปที่ทำกำไรมาได้ตลอด
แต่ในระยะหลัง บริษัทมีการขยายธุรกิจไปหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
จึงทำให้มีต้นทุนส่วนเพิ่มในการขยายกิจการ และต้องขาดทุน
แต่ในระยะหลัง บริษัทมีการขยายธุรกิจไปหลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
จึงทำให้มีต้นทุนส่วนเพิ่มในการขยายกิจการ และต้องขาดทุน
ทั้งนี้ จากการระดมทุนรอบล่าสุดในปี 2021
Klarna ถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้อยู่ที่ 9.5 แสนล้านบาท
ซึ่งถือเป็นสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ที่มีขนาดใหญ่สุดในทวีปยุโรป
Klarna ถูกประเมินมูลค่าบริษัทไว้อยู่ที่ 9.5 แสนล้านบาท
ซึ่งถือเป็นสตาร์ตอัประดับยูนิคอร์น ที่มีขนาดใหญ่สุดในทวีปยุโรป
โดยมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เข้ามาลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ant Group, H&M, Visa รวมถึงบริษัทและกองทุนชื่อดังอย่าง Sequoia Capital และ BlackRock
อย่างไรก็ตาม โมเดลธุรกิจแบบ ซื้อก่อน-จ่ายทีหลัง ของ Klarna
มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้คนใช้จ่ายเกินตัว และก่อหนี้สินมากกว่าที่จำเป็น
ซึ่งหน่วยงานภาครัฐก็มีแนวโน้มเข้ามากำกับอย่างเข้มงวดในอนาคตเช่นกัน
มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้คนใช้จ่ายเกินตัว และก่อหนี้สินมากกว่าที่จำเป็น
ซึ่งหน่วยงานภาครัฐก็มีแนวโน้มเข้ามากำกับอย่างเข้มงวดในอนาคตเช่นกัน
เรื่องราวนี้แสดงให้เห็นว่า
ผู้บริโภคกำลังได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของเทคโนโลยี ที่ทำให้ชีวิตมีทางเลือกมากมาย
ดังเช่นการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่จะจ่ายเงินเต็ม ผ่อน หรือกู้ยืม ก็ได้
ผู้บริโภคกำลังได้รับประโยชน์จากการพัฒนาของเทคโนโลยี ที่ทำให้ชีวิตมีทางเลือกมากมาย
ดังเช่นการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่จะจ่ายเงินเต็ม ผ่อน หรือกู้ยืม ก็ได้
ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มตัวกลางอย่าง Klarna
กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่าธนาคารหรือธุรกิจบัตรเครดิตบางแห่งเสียอีก
กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงกว่าธนาคารหรือธุรกิจบัตรเครดิตบางแห่งเสียอีก
แต่เราคงต้องไม่ลืมด้วยว่า
จริง ๆ แล้ว ตัวเรามีความสามารถในการซื้อสินค้าเหล่านั้นได้มากน้อยแค่ไหน
จริง ๆ แล้ว ตัวเรามีความสามารถในการซื้อสินค้าเหล่านั้นได้มากน้อยแค่ไหน
เพราะไม่ว่าจะผลักภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ออกไปไกลเท่าไร
สุดท้ายที่ปลายทาง เรายังคงต้องจ่ายมันทั้งหมดอยู่ดี..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://productmint.com/the-klarna-business-model-how-does-klarna-make-money/
-https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/121316/how-klarna-lets-you-pay-later-no-interest.asp
-https://www.cnbc.com/2021/02/25/klarna-to-raise-1-billion-at-31-billion-valuation.html
-https://www.klarna.com/international/about-us/
-https://www.klarna.com/assets/2021/02/25062747/Annual-Financial-Statement-Release-Klarna-Bank-AB-publ-2020-Final.pdf
สุดท้ายที่ปลายทาง เรายังคงต้องจ่ายมันทั้งหมดอยู่ดี..
----------------------
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://productmint.com/the-klarna-business-model-how-does-klarna-make-money/
-https://www.investopedia.com/articles/personal-finance/121316/how-klarna-lets-you-pay-later-no-interest.asp
-https://www.cnbc.com/2021/02/25/klarna-to-raise-1-billion-at-31-billion-valuation.html
-https://www.klarna.com/international/about-us/
-https://www.klarna.com/assets/2021/02/25062747/Annual-Financial-Statement-Release-Klarna-Bank-AB-publ-2020-Final.pdf