“ตู้รับพัสดุสาธารณะ” กำลังเติบโตในต่างประเทศ

“ตู้รับพัสดุสาธารณะ” กำลังเติบโตในต่างประเทศ

11 พ.ค. 2021
“ตู้รับพัสดุสาธารณะ” กำลังเติบโตในต่างประเทศ /โดย ลงทุนแมน
การซื้อของออนไลน์ ได้กลายเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของใครหลายคน
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหากวนใจอยู่ไม่น้อย นั่นคือ “วิธีการรับพัสดุ”
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน คอนโดฯ หรือแม้แต่ที่ทำงาน
ตรงจุดนี้เอง ก็ได้มีคนนำมาเป็นโจทย์และพยายามแก้ไขปัญหา
จนกลายมาเป็นธุรกิจที่กำลังมาแรง แล้วธุรกิจนั้นคืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
การซื้อขายของผ่านทางออนไลน์ ถือได้ว่าเข้ามาตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คน
ที่ทำให้เราสามารถซื้อขายของที่ไหน ตอนไหนก็ได้ เพียงแค่ใช้ปลายนิ้ว
แต่เมื่อมาถึงขั้นตอนการกรอกที่อยู่สำหรับส่งพัสดุ
มันก็อาจเป็นเรื่องกวนใจสำหรับหลายคน และต้องคิดหนักเพราะไม่รู้ว่า
จะเลือกที่บ้าน วันธรรมดาก็ไม่มีคนอยู่ แถมบางทีก็โยนของมาไว้ในบ้านเลยทั้ง ๆ ที่ไม่มีคนรับ
จะเลือกที่คอนโดฯ แต่ตู้จดหมายก็เล็กมาก จะให้ส่งไว้ส่วนกลางก็กลัวของหาย
จะเลือกที่ทำงาน ก็อาจจะไม่สะดวกปลีกตัวออกมารับพัสดุ
นี่เลยเป็นที่มาของ Smart Parcel Locker หรือตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะ
ที่ถูกคิดค้นขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น
โดยหน้าตาของเจ้าตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะนี้ มีลักษณะคล้ายกับล็อกเกอร์ที่เราคุ้นเคย
แต่ทำจากวัสดุที่แข็งแรง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนากว่า
โดยช่องใส่ของจะมีขนาดต่างกัน เพื่อรองรับพัสดุที่มีขนาดหลากหลาย
ตั้งแต่ซองเอกสาร ไปจนถึงพัสดุขนาดใหญ่
แล้วทำไมถึงอัจฉริยะ ?
นั่นก็เพราะว่ามันมีหน้าจอดิจิทัลแบบสัมผัสติดตั้งอยู่ที่ตู้
คล้ายกับตู้ ATM ที่ด้านซ้ายและขวาล้อมด้วยตู้ล็อกเกอร์
เพื่ออำนวยความสะดวกในการยืนยันตัวตนเพื่อรับพัสดุ นั่นเอง
ในขณะเดียวกัน ตู้ล็อกเกอร์ประเภทนี้จะถูกติดตั้งตามจุดที่คนเข้าถึงได้สะดวก มีคนเดินทางผ่านไปมา
ไม่ว่าจะเป็นตามใต้คอนโดฯ หรืออะพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน หน้าร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เกต มหาวิทยาลัย หรือแม้แต่ปั๊มน้ำมัน
ที่สำคัญก็คือว่า แต่ละตู้ จะมีรหัสหรือชื่อที่สามารถระบุถึงตู้นั้นได้เลย
ทำให้เวลาเราจะกรอกที่อยู่สำหรับจัดส่ง เราก็สามารถเลือกหมายเลขหรือชื่อตู้ที่เราสะดวก
เป็นที่อยู่ในการรับพัสดุ แทนที่บ้านหรือที่ทำงาน
เมื่อพัสดุมาถึงตู้ เราจะได้รับการแจ้งเตือน รวมถึงได้รหัสผ่านมาด้วย
ทีนี้เราก็ไปยังตู้ที่เลือกไว้ กรอกรหัสผ่าน หรือสแกน QR Code ตรงหน้าจอดิจิทัล
จอจะแสดงผลว่าพัสดุเราอยู่ในช่องล็อกเกอร์ไหน ก็ไปเปิดหยิบของจากช่องนั้น
หากไม่ได้ไปรับของภายใน 2-3 วัน ของจากล็อกเกอร์ก็จะถูกส่งกลับไปยังโกดังนั่นเอง
ตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะเหล่านี้ ยังเปิดให้บริการแบบ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน
บริเวณตู้ก็มีไฟส่องสว่าง มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ เพื่อดูแลความปลอดภัยให้ได้มากที่สุด
และในปัจจุบัน ก็ไม่ได้มีการคิดค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากการเลือกใช้บริการช่องทางนี้
จะเห็นได้เลยว่า ตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะ เข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายและความยืดหยุ่นให้กับคนสั่งของได้มากทีเดียว เพราะเราสามารถเลือกเวลาและทำเลในการไปรับของได้ตามสะดวก แม้จะเป็นช่วงหลังเลิกงานหรือในวันหยุดก็ตาม และยังช่วยลดความกังวลว่าของจะหายหรือพังก่อนมาถึงมือ
ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวก็คือว่า จะใช้บริการตู้ล็อกเกอร์ไม่ได้
กับการส่งของที่มีขนาดหรือน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด
นอกจากนี้ ไม่ใช่เพียงคนรับส่งพัสดุเท่านั้นที่ได้ประโยชน์
เพราะส่วนกลางของคอนโดฯ หรืออะพาร์ตเมนต์ รวมถึงป้อมรปภ.ในหมู่บ้าน
ยังไม่ต้องแบกรับภาระในการรับของแทนลูกบ้านเช่นกัน
ที่สำคัญคือ ตัวบริษัทขนส่งที่ให้บริการล็อกเกอร์ในลักษณะนี้ ก็จะได้ประโยชน์
ลองคิดภาพว่า พนักงานส่งของในเส้นทางหนึ่ง
ต้องไปส่งของตามที่หมาย 30 แห่ง ในย่านเดียวกัน
ซึ่งต้องขับรถไปจอดส่งของ 30 จุด ตามแต่ละที่อยู่
แต่หากมีพัสดุ 15 ชิ้น ที่เลือกให้ส่งของที่ล็อกเกอร์เดียวกัน
เท่ากับว่า คนส่งพัสดุจะขับรถไปส่งของลดลงเหลือเพียง 16 จุดเท่านั้น
นั่นหมายความว่า ช่วยลดต้นทุนการส่งพัสดุไปได้มากทีเดียว
แล้วตู้ที่ว่านี้ เกิดขึ้นมานานขนาดไหนแล้ว ?
สำหรับตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะในต่างประเทศ ได้เริ่มใช้มากว่า 10 ปีแล้ว
โดยเจ้าแรก ๆ จะเป็นในแถบยุโรป ตั้งแต่ช่วงปี 2009 ยกตัวอย่างเช่น
InPost ในประเทศโปแลนด์, KEBA จากออสเตรีย และ Cleveron จากเอสโตเนีย
โดยทุกบริษัททำธุรกิจให้บริการด้านการขนส่งพัสดุอยู่แล้ว
ที่น่าสนใจก็คือว่า ตู้ล็อกเกอร์แบบนี้ มาเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
เมื่อบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Amazon
ได้พัฒนาและเริ่มติดตั้ง Amazon Locker ในปี 2011
ให้ลูกค้าที่สั่งของผ่าน Amazon เลือกที่อยู่รับพัสดุเป็น Amazon Locker ในทำเลที่สะดวกได้
ในขณะที่ปี 2017 Amazon ได้พัฒนาตู้ล็อกเกอร์ไปอีกขั้น ด้วยการเปิดตัว “Amazon Hub Locker”
จากที่แต่เดิมทำได้เพียงรับพัสดุ แต่ตอนนี้ก็ได้กลายมาเป็น
ที่อยู่ในการจัดส่งได้ ไม่ว่าการขนส่งด้วย Amazon เอง
หรือจะใช้บริการขนส่งของเจ้าอื่น เช่น FedEx หรือ UPS ก็ทำได้
และที่มากไปกว่านั้น Amazon Hub Locker ยังถูกใช้เป็นจุดส่งคืนสินค้า ที่สั่งมาแล้วและต้องการคืนสินค้าได้อีกด้วย
มูลค่าตลาดตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะทั่วโลกในปี 2020 อยู่ที่ 18,700 ล้านบาท
และคาดการณ์ว่าจนถึงปี 2028 จะมีมูลค่าตลาด 47,000 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 12.2% ต่อปี
มากกว่าการเติบโตเฉลี่ย 11.1% ต่อปี ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
โดยตลาดนี้ ยังคงเติบโตมากที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะโปแลนด์
ที่เพียงแค่เจ้าตลาดอย่าง InPost ก็ได้ติดตั้งตู้ล็อกเกอร์ไปแล้วกว่า 11,000 ตู้
รองลงมาคือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ทั้ง Amazon, FedEx, UPS และ USPS
ได้มีการติดตั้งตู้รวมกันแล้วกว่า 70,000 จุด
สอดคล้องกับลำดับของประเทศ ที่มีการรับพัสดุผ่านช่องทางตู้ล็อกเกอร์มากที่สุด
เมื่อเทียบกับการส่งพัสดุทั้งหมด
โปแลนด์ 10.5%
สหราชอาณาจักร 4.5%
สหรัฐอเมริกา 3.7%
สำหรับในเอเชียเอง ก็มีหลายประเทศที่นำตู้รับส่งพัสดุอัจฉริยะนี้มาใช้แล้ว
ยกตัวอย่างเช่น สิงคโปร์ อินเดีย จีน หรือเกาหลีใต้
สำหรับในไทย หากวันหนึ่ง ตู้ล็อกเกอร์อัจฉริยะนี้ ได้ถูกติดตั้งอย่างทั่วถึงแล้ว
คงทำให้เราสนุกกับการซื้อของออนไลน์มากขึ้นไปอีก
และเราก็น่าจะต้องจำที่อยู่เพิ่มเติม ที่ไม่ใช่ทั้งบ้าน คอนโดฯ หรือที่ทำงาน
แต่เป็นที่อยู่ล็อกเกอร์ในจุดที่เราสะดวก นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.fortunebusinessinsights.com/smart-parcel-locker-market-104718
-https://www.verifiedmarketresearch.com/product/global-smart-parcel-locker-market/
-https://bloq.it/parcel-lockers-how-smart-lockers-solve-last-mile-delivery-issue/
-https://www.marketwatch.com/press-release/smart-parcel-locker-market-size-share-by-sales-revenue-future-demands-growth-factors-and-emerging-trends-forecast-to-2028-fortune-business-insights-2021-02-14?tesla=y
-https://techcrunch.com/2017/07/27/amazon-launches-the-hub-parcel-delivery-lockers-for-apartment-buildings/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Amazon_Locker
-https://www.parcelmonitor.com/blog/the-future-of-e-commerce-ft-parcel-lockers/
-https://www.thailandpost.co.th/index.php?page=article_detail&addon=product&group_id=563&topic_id=11487&language=en
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.