
สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีผู้อพยพเข้าไป มากที่สุดในโลก
สหรัฐอเมริกา ประเทศที่มีผู้อพยพเข้าไป มากที่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ทุก 1 ใน 4 ของประชากรผู้อพยพจากทั่วโลก มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สหรัฐอเมริกา
จนทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมากที่สุดในโลก..
จนทำให้กลายเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมากที่สุดในโลก..
ปี 2019 จำนวนผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยในสหรัฐอเมริกาและยังมีชีวิตอยู่ มีจำนวน 51 ล้านคน
หรือประมาณ 15% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ
หรือประมาณ 15% ของจำนวนประชากรทั้งหมดของประเทศ
ทำไมสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยจำนวนมาก
แล้วสหรัฐอเมริกาได้ประโยชน์อะไรจากการมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ถ้าถามว่า จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์การอพยพของมนุษยชาติเกิดขึ้นมาเมื่อไร ?
คำตอบคือ เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 70,000-100,000 ปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์โฮโมเซเปียนส์เริ่มออกเดินทางจากทวีปแอฟริกา ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะค่อย ๆ แยกย้ายไปยังยุโรป เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลียในที่สุด
แล้วสหรัฐอเมริกาได้ประโยชน์อะไรจากการมีผู้อพยพเข้ามาในประเทศ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ถ้าถามว่า จุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์การอพยพของมนุษยชาติเกิดขึ้นมาเมื่อไร ?
คำตอบคือ เกิดขึ้นในช่วงประมาณ 70,000-100,000 ปีที่แล้ว เมื่อมนุษย์โฮโมเซเปียนส์เริ่มออกเดินทางจากทวีปแอฟริกา ไปยังภูมิภาคตะวันออกกลาง ก่อนจะค่อย ๆ แยกย้ายไปยังยุโรป เอเชีย อเมริกา และออสเตรเลียในที่สุด
ซึ่งการอพยพของมนุษย์ในยุคนั้นก็เพื่อหลีกหนีจากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เป็นภัยต่อการใช้ชีวิตและดำรงเผ่าพันธุ์ของตนเองไว้
แม้ว่าเวลาจะผ่านมาเป็นหมื่นเป็นแสนปี แต่ทุกวันนี้การอพยพก็ยังเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ยังคงอยู่กับมนุษยชาติ ปัจจุบันทั่วโลกมีประชากรที่อพยพรวมกันกว่า 272 ล้านคน หรือประมาณ 3% ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมดไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศบ้านเกิด
ซึ่งการอพยพนั้น อาจเกิดมาจากความเต็มใจหรือถูกสถานการณ์บังคับ ทำให้คนที่อาศัยอยู่ในประเทศนั้น ต้องการอพยพเพื่อย้ายไปอยู่ในประเทศอื่นที่พวกเขาเชื่อว่า จะทำให้ชีวิตตนเองนั้นดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ปี 2019 ประเทศที่มีจำนวนผู้อพยพที่เข้ามาอาศัยในประเทศมากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก คือ
1. สหรัฐอเมริกา 51 ล้านคน
2. เยอรมนี 13 ล้านคน
3. ซาอุดีอาระเบีย 13 ล้านคน
1. สหรัฐอเมริกา 51 ล้านคน
2. เยอรมนี 13 ล้านคน
3. ซาอุดีอาระเบีย 13 ล้านคน
สำหรับสหรัฐอเมริกา..
ประเทศแห่งนี้สร้างขึ้นมาจากการต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงของเจ้าอาณานิคม
ในวันที่ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ สิ่งที่อยู่ในคำประกาศอิสรภาพ
คือการปกป้องสิทธิในการใช้ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข
ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นหลักความเชื่อที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวอเมริกันทุกคน
ในวันที่ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ สิ่งที่อยู่ในคำประกาศอิสรภาพ
คือการปกป้องสิทธิในการใช้ชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุข
ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นหลักความเชื่อที่สำคัญที่สุดสำหรับชาวอเมริกันทุกคน
ชาวอเมริกันจึงให้ความสำคัญกับเสรีภาพทางการคิด การพูด และการแสดงออกเป็นอย่างมาก ความคิดเห็นอะไรก็ตามที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ล้วนมีความเป็นไปได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
สิ่งเหล่านี้เองที่เป็นแรงดึงดูดให้นักคิด นักประดิษฐ์ นักผจญภัยจากทั่วโลก เข้ามาตั้งถิ่นฐาน และเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนให้สหรัฐอเมริกาก้าวขึ้นมาจนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองอันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
ตัวอย่างของผู้อพยพจากทั่วโลกที่เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมอเมริกัน
ไม่ว่าจะเป็น..
ไม่ว่าจะเป็น..
ตระกูล Rockefeller ตระกูลนักธุรกิจชื่อดัง อพยพจากเยอรมนีเข้ามาสหรัฐอเมริกาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดย John D. Rockefeller เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Standard Oil บริษัทน้ำมันที่เคยยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
Nikola Tesla นักประดิษฐ์ นักฟิสิกส์ และวิศวกรชาวเซิร์บ อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1884 ผู้พัฒนาระบบไฟฟ้ากระแสสลับ ผู้คิดค้นหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และรีโมตคอนโทรล
Albert Einstein นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันเชื้อสายยิว อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1933 เขาเป็นคนนำเสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติของแรงโน้มถ่วง
Sergey Brin ผู้อพยพชาวรัสเซีย อพยพเข้ามาสหรัฐอเมริกาในปี 1979 เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Google ซึ่งเป็น Search Engine อันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน
Jandali ผู้อพยพชาวซีเรีย ที่เข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกา บิดาของ Steve Jobs ผู้ก่อตั้ง Apple บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วันนี้
สหรัฐอเมริกาคือดินแดนที่ทำให้พวกเขาเหล่านี้มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต
รวมทั้งเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น ผู้อพยพหลายคนถึงกับตั้งฉายาให้กับประเทศแห่งนี้ว่า “Land of Opportunity”
รวมทั้งเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางที่ดีขึ้น ผู้อพยพหลายคนถึงกับตั้งฉายาให้กับประเทศแห่งนี้ว่า “Land of Opportunity”
เราลองมาดูว่า 50 ปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกามากแค่ไหน ?
ปี 1970 จำนวนผู้อพยพ 12 ล้านคน เป็นสัดส่วน 5% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ปี 2019 จำนวนผู้อพยพ 51 ล้านคน เป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ปี 2019 จำนวนผู้อพยพ 51 ล้านคน เป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ
ปัจจุบัน โดยเฉลี่ยแล้วในแต่ละปีจะมีผู้อพยพเดินทางเข้าสหรัฐอเมริกาปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ขณะที่ในปี 2019 นั้น 3 ประเทศที่มีผู้อพยพเข้ามายังสหรัฐอเมริกามากที่สุดคือ เม็กซิโก จีน และอินเดีย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึง 26% ของจำนวนผู้อพยพเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
ทีนี้มาดูว่า แล้วทำไมในแง่ของสหรัฐอเมริกา จึงยังต้องการให้มีผู้อพยพเดินทางเข้าไปเรื่อย ๆ
เรื่องแรก เป็นเรื่องเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ
การมีแรงงานอพยพที่มากจะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจนั้นเติบโตทั้งในแง่ของการผลิตและการบริโภค โดยเฉพาะการบริโภคนั้นถือว่ามีความสำคัญเนื่องจากมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP สหรัฐอเมริกา
การมีแรงงานอพยพที่มากจะช่วยขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจนั้นเติบโตทั้งในแง่ของการผลิตและการบริโภค โดยเฉพาะการบริโภคนั้นถือว่ามีความสำคัญเนื่องจากมีสัดส่วนสูงถึง 70% ของ GDP สหรัฐอเมริกา
ในปี 2019 แรงงานในสหรัฐอเมริกา ที่เป็นผู้อพยพมีจำนวนเท่ากับ 28 ล้านคน หรือประมาณ 15% ของจำนวนแรงงานทั้งหมดของประเทศ
แรงงานอพยพ ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หลายธุรกิจในสหรัฐอเมริกานั้นเติบโต ไม่ว่าจะเป็น
แรงงานที่ใช้ทักษะทั่วไปในภาคเกษตรกรรม ภาคบริการ รวมทั้งงานที่คนอเมริกันไม่ต้องการทำ
แรงงานที่ใช้ทักษะขั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเมอร์ วิศวกร ซึ่งแรงงานเหล่านี้ ถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยทำให้สหรัฐอเมริกาคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมของโลกได้ในอนาคต
ที่ลืมไม่ได้เลยคือ แรงงานที่เป็นผู้อพยพนั้น ถือเป็นแหล่งรายได้จากการเก็บภาษีที่สำคัญของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ข้อมูลสรรพากรของสหรัฐอเมริการะบุว่า ในปี 2017 แรงงานอพยพในสหรัฐอเมริกาจ่ายเงินภาษีรวมกันกว่า 13 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นขนาดที่เกือบเท่า GDP ของประเทศไทยทั้งประเทศเลยทีเดียว
ซึ่งเงินภาษีเหล่านี้ ถือเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับกองทุนประกันสังคมและกองทุนที่ใช้ในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
ซึ่งเงินภาษีเหล่านี้ ถือเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับกองทุนประกันสังคมและกองทุนที่ใช้ในโครงการประกันสุขภาพแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
การย้ายถิ่นฐานของแรงงานอพยพ ยังช่วยชดเชยการลดลงของกำลังแรงงานของสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคนอเมริกันในยุค Baby Boomer หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทยอยเข้าสู่วัยเกษียณไปเรื่อย ๆ
ขณะที่ในปี 2020 บริษัทชั้นนำ 500 อันดับของสหรัฐอเมริกา หรือฟอร์จูน 500 นั้น เป็นบริษัทที่ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้อพยพ มีสัดส่วนถึง 44%..
เรียกได้ว่า ผู้อพยพกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอเมริกันไปแล้ว
พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจของประเทศ
แต่ยังทำให้เกิดความหลากหลายทางด้านสังคมและวัฒนธรรมอีกด้วย
พวกเขาไม่เพียงแต่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจของประเทศ
แต่ยังทำให้เกิดความหลากหลายทางด้านสังคมและวัฒนธรรมอีกด้วย
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศพัฒนาแล้วไม่กี่ประเทศ ที่ถูกคาดว่าจะมีประชากรเพิ่มขึ้นในปี 2050 ซึ่งจะเพิ่มขึ้นราว 50 ล้านคน จากประชากร 330 ล้านคนในปี 2020
โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นก็มาจากผู้อพยพนั่นเอง
โดยสาเหตุหลักของการเพิ่มขึ้นก็มาจากผู้อพยพนั่นเอง
เรื่องนี้ตรงกันข้ามกับประเทศที่พัฒนาแล้วหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป ที่ประชากรมีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคต
จีน ที่เป็นคู่แข่งคนสำคัญของสหรัฐอเมริกาก็พบกับปัญหาที่ประชากรมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวเช่นกัน เพราะจีนไม่ได้เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติซึ่งไม่สามารถดึงดูดผู้อพยพได้เท่าไรนัก
หรือแม้แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยเอง ที่มีผู้อพยพจากประเทศใกล้เคียงอยู่จำนวนหนึ่ง ก็ยังเจอปัญหาประชากรที่มีแนวโน้มลดลงในอนาคตเช่นกัน
การอพยพของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานตั้งแต่ยุคโบราณ จนมาถึงวันนี้และน่าจะมีต่อไปในอนาคต
แต่การที่มนุษย์จะอพยพไปที่ไหนนั้น
แต่การที่มนุษย์จะอพยพไปที่ไหนนั้น
ก็คงตอบได้ว่า เป็นสถานที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีโอกาสรอบด้านที่จะทำให้ตัวเขา รวมไปถึงลูกหลานของเขาอยู่รอดปลอดภัย และอยู่ดีกินดี นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.migrationpolicy.org/article/frequently-requested-statistics-immigrants-and-immigration-united-states-2020#:~:text=How%20many%20immigrants%20reside%20in,of%204.7%20percent%20in%201970.
-https://www.un.org/sites/un2.un.org/files/wmr_2020.pdf
-https://mullin.house.gov/news/documentsingle.aspx?DocumentID=612#:~:text=Since%20its%20beginning%2C%20America%20has,own%3A%20an%20opportunity%20to%20succeed.
-https://www.khanacademy.org/humanities/world-history/world-history-beginnings/origin-humans-early-societies/a/where-did-humans-come-from#:~:text=Between%2070%2C000%20and%20100%2C000%20years,35%2C000%20and%2065%2C000%20years%20ago.
-https://www.sapiens.org/biology/early-human-migration/#:~:text=from%20SAPIENS&text=In%20a%20study%20published%20today,just%20over%20100%2C000%20years%20ago.
-https://www.bls.gov/opub/ted/2020/foreign-born-workers-made-up-17-point-4-percent-of-labor-force-in-2019.htm
-https://www.sandiegouniontribune.com/business/economy/story/2020-02-28/does-the-u-s-need-more-legal-immigration
- https://americasvoice.org/blog/immigration-101-immigrant-taxes/
-https://www.thebalance.com/components-of-gdp-explanation-formula-and-chart-3306015
-https://data.newamericaneconomy.org/en/fortune500-2020/#exploratory_tool
-https://citizenpath.com/countries-with-the-most-immigrants/
-https://www.populationpyramid.net/united-states-of-america/2050/
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.migrationpolicy.org/article/frequently-requested-statistics-immigrants-and-immigration-united-states-2020#:~:text=How%20many%20immigrants%20reside%20in,of%204.7%20percent%20in%201970.
-https://www.un.org/sites/un2.un.org/files/wmr_2020.pdf
-https://mullin.house.gov/news/documentsingle.aspx?DocumentID=612#:~:text=Since%20its%20beginning%2C%20America%20has,own%3A%20an%20opportunity%20to%20succeed.
-https://www.khanacademy.org/humanities/world-history/world-history-beginnings/origin-humans-early-societies/a/where-did-humans-come-from#:~:text=Between%2070%2C000%20and%20100%2C000%20years,35%2C000%20and%2065%2C000%20years%20ago.
-https://www.sapiens.org/biology/early-human-migration/#:~:text=from%20SAPIENS&text=In%20a%20study%20published%20today,just%20over%20100%2C000%20years%20ago.
-https://www.bls.gov/opub/ted/2020/foreign-born-workers-made-up-17-point-4-percent-of-labor-force-in-2019.htm
-https://www.sandiegouniontribune.com/business/economy/story/2020-02-28/does-the-u-s-need-more-legal-immigration
- https://americasvoice.org/blog/immigration-101-immigrant-taxes/
-https://www.thebalance.com/components-of-gdp-explanation-formula-and-chart-3306015
-https://data.newamericaneconomy.org/en/fortune500-2020/#exploratory_tool
-https://citizenpath.com/countries-with-the-most-immigrants/
-https://www.populationpyramid.net/united-states-of-america/2050/