'INETREIT' ครั้งแรกในประเทศไทยกับโอกาสการลงทุนกองทรัสต์ในธุรกิจดิจิทัลของไทย

'INETREIT' ครั้งแรกในประเทศไทยกับโอกาสการลงทุนกองทรัสต์ในธุรกิจดิจิทัลของไทย

22 มิ.ย. 2021
'INETREIT' ครั้งแรกในประเทศไทยกับโอกาสการลงทุนกองทรัสต์ในธุรกิจดิจิทัลของไทย
INETREIT x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันข้อมูลต่าง ๆ ในโลกดิจิทัลมีความจุรวมกัน 2,600 EB
โดย 1 EB = 1 ล้านล้านล้านไบต์
ความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็คือ หากเราย้อนกลับไปในปี 2016
ความจุข้อมูลดิจิทัลทั่วโลกรวมกันแค่ 663 EB
ตัวเลขนี้กำลังบอกกับเราว่า ในเวลาแค่ 5 ปี ความจุข้อมูลดิจิทัลทั่วโลกเพิ่มขึ้น 292%
เหตุผลก็เพราะปัจจุบันเกือบทุกอย่างบนโลกใบนี้กำลังขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล
ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวันของแต่ละคน หรือการทำงานของบริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ
แล้วการเติบโตของโลกดิจิทัลนี้ จะเป็นโอกาสการลงทุนของเราได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อดิจิทัลคือเทรนด์ของโลก ประเทศไทยเองก็เดินตามเทรนด์นี้เช่นกัน
โดยหนึ่งในธุรกิจที่เติบโตได้อย่างน่าจับตามองก็คือ “ธุรกิจคลาวด์”
ที่ถูกประเมินว่าในประเทศไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 19.40%
ซึ่งก็จะทำให้อีก 2 ปีข้างหน้า ตลาดนี้ในประเทศไทยจะมีมูลค่าสูงถึง 27,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
การเติบโตนี้ ทำให้บริษัทผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย
จำเป็นต้องมีศูนย์ Internet Data Center เพิ่มขึ้น
เพื่อให้บริการลูกค้าในการจัดเก็บข้อมูล และรองรับการเติบโตในอนาคต
โดยเฉพาะบริษัทต่าง ๆ จนถึงหน่วยงานภาครัฐที่หันมาใช้บริการคลาวด์กันมากขึ้น
บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET
คือ ผู้ทำธุรกิจให้บริการคลาวด์มานาน 26 ปี มีภาครัฐถือหุ้น 49%
ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ 70% มาจากธุรกิจให้บริการคลาวด์ โดยศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต (INET-IDC)
และสัดส่วนรายได้ 30% มาจากธุรกิจบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และบริการ Co-location หรือการให้เช่าพื้นที่สำหรับวาง server โดยศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลไอเน็ต (INET-IDC) เช่นกัน
เมื่อคนไทยเริ่มหันมาใช้บริการคลาวด์ จนถึงการใช้ข้อมูลดิจิทัลกันมากขึ้น
จึงเป็นโอกาสของธุรกิจ Internet Data Center ของ INET
ที่ปัจจุบันมี 3 แห่งคือ INET-IDC1 อาคารบางกอกไทย ทาวเวอร์, INET-IDC2 อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ที่กรุงเทพฯ และ INET-IDC3 ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
โดยล่าสุด กำลังจะมีการจัดตั้งกองทรัสต์ที่มีชื่อว่า INETREIT
ซึ่งจะเข้าลงทุนในทรัพย์สินโครงการ INET-IDC3 เฟส 1
โดยมีมูลค่าลงทุนรวม 4,000 – 4,500 ล้านบาท
คำถามก็คือ แล้วการลงทุนใน INETREIT น่าสนใจแค่ไหน ?
ศูนย์ INET-IDC3 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 19 ไร่ ในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
ซึ่งก่อนจะลงมือก่อสร้าง ก็มีผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินศักยภาพทำเลแห่งนี้ ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยพบว่า เป็นทำเลที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง 42 เมตร
ทำให้ไม่เคยมีน้ำท่วมมานานกว่า 100 ปี จนถึงไม่เคยเกิดภัยธรรมชาติอื่น ๆ ห่างไกลพื้นที่อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี ขณะเดียวกันก็เป็นทำเลที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค
พอได้ยินแบบนี้ ก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่สนใจจะลงทุนในทรัสต์ INETREIT ได้
ทีนี้ บางคนอาจยังไม่เข้าใจว่า กองทรัสต์คืออะไร
อธิบายง่าย ๆ ก็คือ การระดมทุนอย่างหนึ่งจากนักลงทุน
เพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยในแต่ละปี ผู้ลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนเป็นเงินปันผล
ซึ่งอัตราเงินปันผลจะมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ ที่ไปลงทุนนั้น มีความสามารถในการหารายได้ ได้ดีแค่ไหน
สำหรับโมเดลธุรกิจของ INET-IDC3 ก็มีวิธีการหารายได้อย่างน่าสนใจ เลยทีเดียว
รู้หรือไม่ว่า ศูนย์แห่งนี้นอกจากมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยสุดล้ำแล้ว
ระบบทำงานยังถูกขับเคลื่อนอย่างน้อย 99.98% ซึ่งเกือบจะตลอดเวลา
พูดง่าย ๆ ก็คือ ใน 1 ปี ศูนย์แห่งนี้จะหยุดทำงานได้มากที่สุดแค่ 1.6 ชั่วโมงเท่านั้น
ทั้งหมดก็เพื่อการมอบบริการคุณภาพให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ นั่นเอง
โดยกองทรัสต์ INETREIT จะระดมทุนเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 รวมถึงอาคารส่วนกลาง และอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อยของโครงการ
โดย INET จะเช่ากลับทรัพย์สินทั้งหมดเพื่อประกอบธุรกิจ
INET จะจ่ายค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละ 31 ล้านบาท หรือปีละ 372 ล้านบาทให้แก่กองทรัสต์ และค่าเช่าจะปรับขึ้นทุกปี ปีละ 2%
โดยกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ INET ก็จะเป็นบริษัทชั้นนำและหน่วยงานรัฐ
นั่นหมายความว่า กองทรัสต์ INETREIT จะสามารถสร้างรายได้สม่ำเสมอและมั่นคงได้ นั่นเอง
ปัจจุบัน INETREIT ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตหรือ Filing เพื่อเสนอขายหลักทรัพย์และแบบหน่วยทรัสต์ให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งนั่นแปลว่า INETREIT จะเป็นกองทรัสต์กองแรก ๆ ที่เข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในธุรกิจดิจิทัลในประเทศไทย
โดยในส่วนของผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับนั้น ประมาณการผลตอบแทนในปีแรกจะแบ่งออกเป็น 2 กรณี โดยมีสมมติฐานเงินกู้ยืมที่ 1,000 ล้านบาท ดังนี้
กรณีมูลค่าเข้าลงทุนต่ำสุด 4,000 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อหน่วยจะอยู่ที่ 9.99%
และกรณีมูลค่าเข้าลงทุนสูงสุด 4,500 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนต่อหน่วยจะอยู่ที่ 8.47%
สรุปแล้ว INETREIT ถือว่าเป็นหนึ่งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อย
ในวันที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกือบทุกอย่างในชีวิตประจำวัน ถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
หนึ่งในการลงทุนที่จะสร้างความอุ่นใจ และโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดี
ก็คือ การลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยี ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา นั่นเอง
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนก่อนการตัดสินใจลงทุน
Reference
-ข่าวประชาสัมพันธ์และเอกสารข้อมูล บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย หรือ INET
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.