ทำไมเงินสด ถึงสำคัญไม่แพ้ กำไรของธุรกิจ

ทำไมเงินสด ถึงสำคัญไม่แพ้ กำไรของธุรกิจ

6 ส.ค. 2021
ทำไมเงินสด ถึงสำคัญไม่แพ้ กำไรของธุรกิจ | THE BRIEFCASE
“กำไร” เป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องการ
ยิ่งธุรกิจของเรามีรายได้เยอะกว่า ต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ธุรกิจของเราก็จะยิ่งมีกำไรเยอะ
อย่างไรก็ตาม การที่ธุรกิจของเรามีกำไรเยอะ ๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่า จะทำให้เรามีเงินสดเยอะตามไปด้วยทุกครั้ง
ที่เป็นแบบนั้นเพราะว่า เวลาที่เราขายสินค้าและบริการ ธุรกิจของเราจะมีรายได้ทั้งรูปแบบที่เป็นเงินสด และรายได้ที่ยังไม่ได้รับเป็นเงินสด
ในกรณีที่เรามีรายได้ แต่ยังไม่ได้รับเงินสดมานั้น เกิดขึ้นเพราะเรา มีการขายสินค้าและบริการเป็นเงินเชื่อหรือให้เครดิตแก่ลูกค้า
โดยเครดิตแก่ลูกค้านั้น อาจเกิดจากการที่ลูกค้าเป็นคนที่ร้องขอเอง หรือเราเป็นผู้เสนอเงื่อนไขนี้ให้กับลูกค้าเอง
ไม่ว่ากรณีไหน ลูกค้าในกรณีนี้ก็จะกลายเป็นลูกหนี้ที่มีภาระผูกพันต้องเอาเงินสดมาจ่ายเราในอนาคต หรือที่เรียกกันว่า “ลูกหนี้การค้า”
เพราะฉะนั้น เงินสดที่เราควรจะได้รับ จึงยังถูกบันทึกบัญชีว่าเป็น ลูกหนี้การค้า นั่นเอง
แม้ว่าจะยังไม่ได้รับเงินสด เนื่องจากเป็นการให้เครดิตแก่ลูกค้า
แต่เนื่องจากมีการซื้อขายกันแล้ว ฉะนั้นการนับรายได้จึงเกิดขึ้นทันที และธุรกิจของเราก็มีโอกาสจะเกิดกำไร ถ้ารายได้ที่เกิดขึ้นนั้นสูงกว่า ต้นทุนและค่าใช้จ่าย
พูดง่าย ๆ ก็คือ ธุรกิจเรามีการบันทึกกำไรแล้ว แต่ยังไม่มีเงินสดเข้ามา
ประเด็นก็คือ ถ้าธุรกิจของเรายิ่งมีการค้าขายโดยการให้เครดิตแก่ลูกค้ามูลค่ามากขึ้น ยืดระยะเวลาชำระเงินสดให้ลูกค้ายาวนานขึ้น ก็มีโอกาสสูงที่ธุรกิจจะมีกำไรมากขึ้น
แต่ก็ต้องแลกกับ การที่จะได้รายได้มาในรูปของลูกหนี้การค้ามากขึ้น
นั่นจึงทำให้เราเห็นบางธุรกิจมีรายได้เยอะ กำไรเยอะ แต่มีเงินสดในมืออยู่น้อยนั่นเอง
แล้วเงินสดสำคัญอย่างไร เอาไปใช้ทำอะไรในธุรกิจ ?
หลัก ๆ คือ ธุรกิจจะนำเงินสดไปหมุนเวียนกิจการ ใช้จ่ายค่าต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าสถานที่ ค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบ
ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์กรณีที่เลวร้าย คือ ลูกค้าที่เราให้เครดิตไปนั้น ไม่สามารถมาชำระค่าสินค้าได้ตามกำหนดหรือแม้แต่ไม่สามารถชำระค่าสินค้าให้แก่เราได้เลย
สิ่งที่ตามมาคือ ธุรกิจของเราจะเริ่มขาดเงินสด เริ่มขาดสภาพคล่อง แม้ว่าจะมีกำไรมาก จากยอดขายที่สูงก็ตาม
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงอาจทำให้เหตุการณ์ เงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจเรา “ติดลบ” เพราะเงินสดที่จ่ายออกไปนั้นจ่ายออกไปเร็วกว่า เงินสดที่ได้จากการขายสินค้า
ทำให้ธุรกิจของเราอาจจำเป็นต้องไปกู้ยืมจากเจ้าหนี้ หรือขอเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น เพื่อนำเงินที่หามานั้น มาใช้หมุนเวียนในกิจการก่อน
ซึ่งการที่ธุรกิจใด ๆ นั้น มีเงินทุนหมุนเวียนติดลบบ่อย ๆ หรือติดลบติดต่อกันเป็นเวลานาน ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่กำลังบอกว่า ฐานะการเงินระยะสั้นของธุรกิจนั้น ๆ อาจเริ่มมีปัญหา
ดังนั้น การที่บริษัทนั้นมียอดขายและกำไรสูง ไม่ได้แปลว่า บริษัทนั้นจะไม่ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง หรือไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียนติดลบ เสมอไป
เราอาจจะเคยได้ยินว่า มีบางคนที่ทำธุรกิจจนมีกำไรมาก แต่กลับขาดความเอาใจใส่เรื่องการบริหารเงินสดหมุนเวียนในกิจการตนเอง ส่งผลให้ต้องปิดกิจการกันไปแล้วหลายราย
โดยนักลงทุนและเจ้าของธุรกิจยังสามารถดูภาพรวมของการไหลเข้า ไหลออกของกระแสเงินสดของธุรกิจในช่วงเวลาหนึ่ง ผ่านงบที่เรียกว่า “งบกระแสเงินสด”
ซึ่งเป็นงบการเงินที่ช่วยประเมินได้ว่า ธุรกิจนั้นมีสภาพคล่องดีแค่ไหน
โดยองค์ประกอบของงบกระแสเงินสดนั้น ประกอบด้วย 3 ส่วนคือ
- กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (Cash Flow from Operation)
เป็นกระแสเงินสดที่เกิดจากกิจกรรมหลักของธุรกิจ เช่น รายได้และต้นทุนในการทำธุรกิจ ซึ่งเริ่มจากนำเงินไปซื้อวัตถุดิบมาผลิต จากนั้นนำสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วไปขาย และรับเงินค่าขายสินค้า
โดยทั่วไปแล้วกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เป็นบวกถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากบริษัทขายสินค้าและบริการแล้วได้เงินสดเข้ามา มากกว่าจ่ายเงินสดออกไป
- กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุน (Cash Flow from Investment)
เป็นกระแสเงินสดที่แสดงให้เห็นถึงการได้มา หรือจ่ายออกไปจากการซื้อหรือขายสินทรัพย์ระยะยาวและเงินลงทุนอื่น ๆ
การที่กระแสเงินสดจากการลงทุนติดลบ โดยทั่วไปนักลงทุนจะมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหมายความว่า ธุรกิจนั้น กำลังนำเงินออกไปลงทุนขยายกิจการ เช่น ขยายโรงงานแห่งใหม่
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนก็ควรติดตามและประเมินอย่างใกล้ชิดว่า เงินสดที่จ่ายไปในการลงทุนนั้น จะสร้างผลตอบแทนในอนาคต ได้คุ้มค่ากับเงินสดที่เสียไปหรือไม่
- กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน (Cash Flow from Financing)
เป็นกระแสเงินสดที่แสดงให้เห็นถึงกิจกรรม เช่น การกู้ยืมเงิน การเพิ่มทุน การชำระหนี้ การจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้น
ถ้าตัวเลขเป็นลบ หมายถึง บริษัทนำเงินสดที่มีไปใช้ในกิจกรรม เช่น จ่ายหนี้ จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
ในขณะที่ถ้ามีค่าเป็นบวก หมายความว่า กิจการนั้นกำลังหาเงินสดเข้าบริษัทมากขึ้น ซึ่งอาจเป็น การขอกู้ยืมจากสถาบันการเงิน, การขอเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นของบริษัท
อีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกว่า ทั้งเงินสดและกำไรถือเป็นสององค์ประกอบที่สำคัญของธุรกิจที่ต้องดูประกอบกันไปเสมอ
เพราะแม้ว่าธุรกิจของเราจะมีกระแสเงินสดเป็นบวกอยู่ แต่กลับขาดทุนติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจของเรานั้นก็คงจะอยู่รอดไปได้แค่ในระยะสั้น ๆ เท่านั้น
เพราะสักวันหนึ่งเงินสดในกิจการก็อาจจะลดน้อยลง และบริษัทก็อาจหมดหนทางจะหาเงินสดมาหมุนเวียนได้ในที่สุด
ขณะที่อีกมุมหนึ่ง ถ้าบริษัทมีรายได้ กำไรดี แต่มีเงินสดในมือน้อย หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างเช่น รายได้ที่เป็นลูกหนี้การค้า กลายเป็นหนี้เสีย ไม่สามารถมาจ่ายเงินสดให้เราตามนัดได้
เรื่องนี้ก็จะส่งผลต่อสภาพคล่อง การหมุนเวียนเงินในการดำเนินธุรกิจได้เช่นกัน
ดังนั้น การดำเนินธุรกิจให้สามารถมีกำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และบริหารเงินทุนหมุนเวียน จัดการเงินสดในกิจการให้มีประสิทธิภาพไปพร้อม ๆ กัน
จึงเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจต้องให้ความสำคัญ ควบคู่กันไป..
References:
-https://smehow.net/archives/43
-https://scholaraccounting.com/%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%87/
-https://www.set.or.th/set/education/knowledgedetail.do?contentId=6082&type=article
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.