ประเทศไทย ไม่มีบริษัท 1 ล้านล้านบาท แล้ว /โดย ลงทุนแมน
เมื่อก่อน ประเทศไทย เคยมีบริษัทมูลค่า 1 ล้านล้านบาท อยู่ 2 บริษัท นั่นก็คือ บริษัท ปตท. และ บริษัทท่าอากาศยานไทย  (บางคนอาจบอกว่าเคยมีบริษัทที่สามคือ เดลต้า แต่เป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น)

มาวันนี้ ประเทศไทย ไม่มีบริษัทที่มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาทแล้ว

การที่บริษัทจะมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ได้ มันยากแค่ไหน ?
ถ้าจะให้พูดในมุมของ P/E Ratio
การที่บริษัทจะมีมูลค่า 1 ล้านล้านบาทได้
ถ้านักลงทุนยอมให้ P/E ที่ 10 เท่า บริษัทนั้นจะต้องมีกำไรที่ 100,000 ล้านบาท
ซึ่ง ปตท. เคยได้กำไรอยู่ที่ระดับนี้ แต่เมื่อปีที่แล้ว ปตท.ประสบปัญหาราคาน้ำมันผันผวน จึงทำให้กำไรลดน้อยลง
อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากไตรมาส 1 ปีนี้ ปตท. ก็น่าจะมีกำไรที่กลับมาระดับเดิมได้ ดังนั้นจึงน่าสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าทำไมตลาดถึงให้ forward P/E ที่เปลี่ยนไป

ถ้าพูดถึงท่าอากาศยานไทย (AOT) ถึงแม้กำไรสูงสุดที่บริษัทนี้เคยทำได้ จะมีมูลค่า 25,000 ล้านบาท
ซึ่งหมายความว่า บริษัทนี้เคยได้ P/E มากถึง 40 เท่า จึงทำให้มูลค่าบริษัทเคยทะลุ 1 ล้านล้านบาทได้
แต่มาวันนี้บริษัทกำลังขาดทุน ด้วยสาเหตุที่ไม่ต้องอธิบายมาก ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่
จึงทำให้มูลค่าของ AOT ลดลงเหลือ 8 แสนล้านบาท
ด้วยมูลค่าที่ลดลงไม่มาก เมื่อเทียบกับกำไรที่พลิกเป็นขาดทุน ก็น่าจะตีความได้ว่า ตลาดยังเชื่อมั่นอยู่ไม่น้อย ว่า AOT จะกลับมาได้เหมือนเดิมในอนาคต

ส่วนบริษัทไทยยักษใหญ่ อื่น ๆ เช่น ADVANC, CPALL, KBANK, SCB ก็มีกำไรอยู่ในระดับ 20,000 - 40,000 ล้านบาท และตลาดก็ให้ P/E ที่ต่างกัน ทำให้มีมูลค่าอยู่ในระดับ 200,000 - 500,000 ล้านบาท เรียกได้ว่า กว่าที่บริษัทเหล่านี้จะมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาท ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว

และถ้าไปมองบริษัทไทยที่ลิสต์อยู่ในตลาดเมืองนอก บริษัทไทยเบฟ ก็มีมูลค่าประมาณ 4 แสนล้านบาท เช่นกัน

เมื่อมองธุรกิจที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ก็น่าสนใจที่ว่า แต่ละบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย จะต่างจาก บริษัทยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่บริษัทใหญ่ที่สุดของประเทศเป็นบริษัทเทคโนโลยีเกือบทั้งหมด

แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ไทยเหล่านี้ต่างก็รู้ ว่าจะต้องเน้น เทคโนโลยี
ยกตัวอย่างง่ายๆ SCB ต้องมาทำแอปส่งอาหาร Robinhood ที่เป็นคนละประเภทธุรกิจกับบริษัทแม่

ก็ต้องเอาใจช่วยกันต่อไปให้บริษัทใหญ่ของไทยกลับมามีมูลค่า 1 ล้านล้านบาทได้อีกครั้ง ด้วยการปรับตัวทางธุรกิจ ที่แต่ละบริษัทก็น่าจะมีแผนของตัวเองอยู่

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
บริษัทอายุน้อยชื่อ Grab คู่แข่งของ Robinhood มีมูลค่าประเมินล่าสุดอยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท..